เอาล่ะครับ! มาเขียนบทความเรื่อง “บิทคอยน์” (Bitcoin) ในมุมที่เข้าถึงง่ายๆ สไตล์คอลัมนิสต์การเงินที่ชอบเล่าเรื่องกันดูนะครับ โดยจะเน้นไปที่คำถามยอดฮิตว่า “ถ้าไม่มีเงินเยอะ จะ หาเหรียญ crypto ฟรี ได้ไหม?”
—
เพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมโทรมาแต่เช้า เสียงตื่นเต้นสุดๆ เล่าถึงข่าวบิทคอยน์ที่พุ่งเอาๆ เห็นราคาแล้วตาค้าง แต่พอพูดถึงการจะซื้อบิทคอยน์สักเหรียญ (ซึ่งตอนนี้ราคาโหดมาก! ลองคิดดูนะครับ ณ วันที่ 2 เมษายน 2567 บิทคอยน์ราคาพุ่งไปถึงประมาณ 84,190.89 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2,876,592.12 บาทไทยต่อ 1 BTC เลยทีเดียว โอ้โห!) เขาก็ถอดใจทันที แล้วตามมาด้วยคำถามอมตะนิรันดร์กาลที่นักลงทุนมือใหม่หลายคนอยากรู้: “เฮ้ย! มีวิธี หาเหรียญ crypto ฟรี หรือแบบใช้เงินน้อยๆ ได้บ้างป่ะวะ?”
ฟังคำถามนี้แล้วก็นึกขำในใจ มันเป็นความฝันของหลายคนเลยเนอะ ที่อยากมีส่วนร่วมในโลกคริปโตฯ ที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะปี 2024 ที่หลายคนคาดการณ์ว่าจะเป็นปีทอง หรือที่เรียกกันว่า “Bull Run” (ตลาดขาขึ้น) ตามสถิติที่มักเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปีหลังการ “Halving” (การลดรางวัลการขุดบิทคอยน์ลงครึ่งหนึ่ง) ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของบิทคอยน์เอง
ก่อนจะไปถึงวิธี หาเหรียญ crypto ฟรี หรือแบบทุนน้อยเนี่ย เรามาทำความรู้จัก “เจ้าบิทคอยน์” (Bitcoin) ให้ลึกขึ้นอีกหน่อยไหมครับ มันไม่ใช่แค่ตัวเลขบนหน้าจอ แต่เป็นเงินตราดิจิทัลที่เกิดขึ้นจากแนวคิดสุดล้ำของคนที่ใช้ชื่อแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) เริ่มต้นในปี ค.ศ. 2009 มันทำงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ไม่ขึ้นกับธนาคารกลางหรือรัฐบาลไหนๆ เป็นของทุกคนที่ใช้งานผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน (Blockchain) ที่เปรียบเสมือนสมุดบัญชีขนาดยักษ์ที่ทุกคนช่วยกันตรวจสอบ และที่สำคัญ บิทคอยน์มีจำนวนจำกัดแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งความจำกัดนี่แหละที่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของมัน
กลับมาที่คำถามที่ว่า “หาเหรียญ crypto ฟรี ได้ไหม?” ถ้าให้ตอบตรงๆ แบบฟันธงเลยคือ “ได้… แต่…!” ไอ้คำว่า “แต่” นี่แหละครับที่สำคัญมากๆ เพราะมันไม่ได้ง่าย ไม่ได้เยอะ และไม่ได้ทำให้คุณรวยข้ามคืนได้เลยเหมือนกับที่คุณอาจจะเคยได้ยินข่าวคนรวยคริปโตฯ เป็นร้อยล้านพันล้าน พวกนั้นส่วนใหญ่มาจากปัจจัยอื่น เช่น การลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก การเก็งกำไร หรือการมีโปรเจกต์คริปโตฯ เป็นของตัวเอง

แต่สำหรับคนทั่วไปที่อยากจะเริ่มต้น หรือแค่อยากลองเข้าวงการแบบไม่เจ็บตัวเรื่องเงินทุนมากเกินไปเนี่ย มันก็มีช่องทางเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะให้เราได้มีบิทคอยน์ หรือเหรียญคริปโตฯ อื่นๆ ติดกระเป๋าไว้บ้างครับ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจำนวนที่ได้มันจะน้อยมากๆ จนบางทีต้องใช้เวลาสะสมกันนานสุดๆ เลยกว่าจะได้มาสักก้อนที่พอจะเห็นค่าได้จริงๆ
เอาล่ะครับ ลองมาดูกันว่าวิธี หาเหรียญ crypto ฟรี หรือแบบทุนน้อยๆ ที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง
**วิธีที่ 1: เริ่มง่ายๆ จากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน (Exchange Platform)**
วิธีนี้เบสิกที่สุด เหมือนสมัครใช้งานแอปฯ ทั่วไปเลยครับ หลายแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตฯ (หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “เว็บเทรด”) มักจะมีโปรโมชั่นต้อนรับสมาชิกใหม่ หรือโปรแกรมเชิญเพื่อน (Referral Program) เช่น ถ้าคุณสมัครผ่านลิงก์หรือรหัสของเพื่อน คุณกับเพื่อนก็อาจจะได้รับรางวัลเป็นคริปโตฯ จำนวนเล็กน้อย หรือได้ส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ซึ่งแพลตฟอร์มในไทยที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. (คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) อย่าง Bitkub (บิทคับ), Zipmex (ซิปเม็กซ์), Satang Pro (สตางค์โปร), Z.com (ซีดอทคอม), Bitazza (บิทาซซ่า) หรือแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Binance (ไบแนนซ์) ก็มักจะมีโปรแกรมพวกนี้ครับ
วิธีนี้ถือเป็นก้าวแรกที่ง่ายที่สุดในการเข้าสู่โลกคริปโตฯ โดยแทบไม่เสียเงินเลยครับ แค่ต้องใช้เวลาสมัครและยืนยันตัวตนเท่านั้นเอง
**วิธีที่ 2: เรียนรู้แล้วรับรางวัล (Learn to Earn)**
อันนี้น่าสนใจครับ เหมือนได้เรียนฟรีแล้วยังมีค่าขนมอีก! บางแพลตฟอร์ม เช่น Coinbase (คอยน์เบส) จะมีโปรแกรมที่ให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับคริปโตฯ ผ่านวิดีโอสั้นๆ หรือบทความ แล้วก็จะมีแบบทดสอบให้ทำ ถ้าตอบถูก คุณก็จะได้รับรางวัลเป็นคริปโตฯ ซึ่งอาจจะไม่ใช่บิทคอยน์โดยตรง แต่อาจเป็นเหรียญอื่นๆ ที่คุณสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นบิทคอยน์ในภายหลังได้
ข้อดีของวิธีนี้คือ คุณได้ความรู้เกี่ยวกับคริปโตฯ ในหลากหลายแง่มุมไปพร้อมๆ กับการได้รับรางวัลเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้คุณทำกำไรเป็นกอบเป็นกำนะครับ แค่พอได้เป็นค่าประสบการณ์และค่าเสียเวลาเล็กน้อยเท่านั้น

**วิธีที่ 3: ทำภารกิจออนไลน์ หรือ “ก๊อกน้ำบิทคอยน์” (Online Tasks / Faucets)**
นี่คือวิธีที่ตรงคอนเซ็ปต์ “หาเหรียญ crypto ฟรี” แบบดั้งเดิมเลยครับ มีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันจำนวนมากที่ให้คุณทำภารกิจเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแลกกับบิทคอยน์จำนวนน้อยมากๆ เช่น การทำแบบสำรวจสั้นๆ, ดูวิดีโอ, ดูโฆษณาแบบ PTC (Paid-to-Click), หรือเล่นเกมง่ายๆ เหมือนเว็บเล่นเกมส์ทั่วไป แล้วคุณก็จะได้รับรางวัลเป็นหน่วยเล็กที่สุดของบิทคอยน์ที่เรียกว่า “ซาโตชิ” (Satoshi) ซึ่ง 1 บิทคอยน์ เท่ากับ 100 ล้านซาโตชิ ลองคิดดูว่าต้องเก็บเล็กผสมน้อยขนาดไหน!
ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่มักจะมีภารกิจพวกนี้ก็เช่น Freecash.com (ฟรีแคช), Cointiply (คอยน์ทิพลี), Satoshi Hero (ซาโตชิ ฮีโร่) หรือแม้แต่แพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Coinbase (คอยน์เบส) ก็เคยมีโปรแกรมดูวิดีโอแล้วได้รางวัล
วิธีนี้เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มีเวลาว่างมากๆ และไม่รีบร้อนครับ คุณไม่ต้องลงทุนเงินเลย แต่ต้องลงทุนเวลาและความพยายามอย่างมหาศาลเพื่อสะสมบิทคอยน์จำนวนน้อยนิด ซึ่งกว่าจะได้จำนวนที่พอจะถอนออกมาได้ก็อาจจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว และที่สำคัญมากๆ คือ ต้องระวังเว็บไซต์หลอกลวง (Scam) ที่มักจะหลอกให้คุณทำภารกิจแล้วไม่ยอมจ่ายรางวัลให้ด้วยครับ
**วิธีที่ 4: เล่นเกมแล้วได้เงิน (Play to Earn – P2E)**
ยุคนี้เกมไม่ได้มีไว้แค่เล่นสนุกแล้วนะครับ แต่บางเกมถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นได้รับรางวัลเป็นคริปโตฯ หรือ NFT (Non-Fungible Token – สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้) จากการเล่น การทำภารกิจในเกม หรือการแข่งขัน ตัวอย่างเกมที่เป็นที่รู้จักในหมวดนี้ก็มีหลายเกมครับ บางเกมอาจจะไม่ได้ให้บิทคอยน์โดยตรง แต่อาจให้เหรียญเฉพาะของเกม หรือให้ Bling Points (บลิงพอยต์) อย่างเกม Bitcoin Blast (บิทคอยน์ บลาสท์) ที่สามารถสะสม Bling Points แล้วนำไปแลกเป็นบิทคอยน์ผ่านกระเป๋าคริปโตฯ อย่าง Coinbase (คอยน์เบส) หรือถอนเข้า PayPal (เพย์พาล) ได้
วิธีนี้ฟังดูน่าสนุกใช่ไหมครับ? เหมือนได้เล่นเกมเพลินๆ แล้วยังมีรายได้อีก แต่ก็มีข้อควรพิจารณาคือ บางเกมอาจจะต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นในการซื้อตัวละครหรือไอเทม (ซึ่งก็ไม่ถือว่าเป็น “ฟรี” แล้ว) บางเกมต้องใช้เวลาเล่นนานมากเพื่อจะได้รางวัลจำนวนน้อย และความเสี่ยงก็สูงเช่นกัน เพราะมูลค่าของเหรียญหรือไอเทมในเกมนั้นมีความผันผวนสูง อาจจะขึ้นหรือลงแรงๆ ก็ได้

**วิธีที่ 5: นักล่า Airdrop (กิจกรรมแจกเหรียญฟรี)**
นี่ก็เป็นอีกวิธีที่เข้าข่าย “หาเหรียญ crypto ฟรี” แบบต้องอาศัยดวงและข้อมูลครับ โปรเจกต์คริปโตฯ ใหม่ๆ มักจะจัดกิจกรรมที่เรียกว่า Airdrop เพื่อแจกเหรียญของตัวเองให้กับผู้ที่สนใจ หรือผู้ที่เคยมีส่วนร่วมกับโปรเจกต์ (เช่น เคยใช้งานเวอร์ชันทดลอง, เคยถือเหรียญบางชนิด) เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และกระจายเหรียญให้ไปอยู่ในมือของผู้คนให้มากที่สุด
การเข้าร่วม Airdrop มักจะไม่มีค่าใช้จ่าย (อาจจะมีค่า Gas Fee หรือค่าธรรมเนียมเล็กน้อยในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนในบางกรณี) แค่ต้องติดตามข่าวสารให้ดี เข้าร่วมตามเงื่อนไขที่กำหนด และก็ต้องอาศัย “ดวง” อยู่พอสมควร เพราะบางครั้งจำนวนเหรียญที่แจกก็จำกัด หรืออาจจะแจกให้กับผู้โชคดีบางส่วนเท่านั้น แต่ข้อดีคือ ถ้าคุณได้เหรียญ Airdrop มา แล้วเหรียญนั้นเกิดราคาพุ่งขึ้นในอนาคต คุณก็อาจจะได้รับรางวัลใหญ่โดยไม่ต้องลงทุนเลยแม้แต่บาทเดียวครับ
**วิธีที่ 6: การรับผลตอบแทนจากเหรียญที่มีอยู่แล้ว (Passive Income)**
วิธีพวกนี้จะไม่ได้เป็นการ หาเหรียญ crypto ฟรี ตั้งแต่แรกนะครับ แต่เป็นการนำเหรียญคริปโตฯ ที่คุณมีอยู่แล้ว (ไม่ว่าจะซื้อมา หรือได้มาจากวิธีอื่นๆ) ไปสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมา ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น
* **Staking (การฝากเหรียญเพื่อช่วยเครือข่าย):** คล้ายกับการฝากประจำในธนาคาร แต่เป็นการนำเหรียญคริปโตฯ ของคุณไป “ล็อค” ไว้ในระบบของเครือข่ายบล็อกเชนนั้นๆ เพื่อช่วยในการยืนยันธุรกรรม ผู้ที่ทำ Staking ก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นเหรียญเพิ่ม
* **Earn (การฝากเหรียญกินดอกเบี้ย):** บางแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนจะมีบริการคล้ายบัญชีออมทรัพย์ ให้คุณนำคริปโตฯ ไปฝากไว้ แล้วรับดอกเบี้ยเป็นคริปโตฯ
* **DeFi Lending (การปล่อยเหรียญให้ยืมบนแพลตฟอร์มไร้ศูนย์กลาง):** ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย เป็นการนำเหรียญของคุณไปใส่ไว้ใน Pool (แหล่งรวมเหรียญ) บนแพลตฟอร์ม Decentralized Finance (DeFi – ระบบการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง) เพื่อให้คนอื่นยืม แล้วคุณก็จะได้รับค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยกลับมา ซึ่งควบคุมด้วย Smart Contract (สัญญาอัจฉริยะ) บนบล็อกเชน
วิธีเหล่านี้เป็นที่นิยมในการสร้างรายได้แบบ Passive จากคริปโตฯ ที่เรามีอยู่แล้ว แต่ก็มีความเสี่ยง เช่น ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม (Platform Risk) หรือความเสี่ยงด้าน Smart Contract ที่อาจมีข้อผิดพลาดได้ครับ
**แล้ว “การขุดบิทคอยน์” (Mining) ล่ะ?**
หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าบิทคอยน์ได้มาจากการ “ขุด” ใช่ครับ นี่คือกลไกหลักในการสร้างบิทคอยน์ขึ้นมาใหม่และยืนยันธุรกรรม แต่การขุดบิทคอยน์ในปัจจุบันนี้ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล ต้องลงทุนในเครื่องขุดเฉพาะทาง (ที่เรียกกันว่า ASIC Miner) ซึ่งมีราคาแพงมากๆ ใช้ไฟฟ้าเยอะมากๆ และความยากในการขุดก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การขุดบิทคอยน์ด้วยตัวเองที่บ้านแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับนักลงทุนรายย่อยครับ มันไม่ใช่วิธี หาเหรียญ crypto ฟรี อีกต่อไปแล้ว นอกจากว่าคุณจะมีเงินลงทุนก้อนโตมากๆ ที่จะไปตั้งฟาร์มขุดขนาดใหญ่ หรือเข้าร่วมกับ Pool ขุดขนาดใหญ่
สำหรับคนที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์การขุดแบบไม่ต้องลงทุนเครื่องเอง ก็มีบริการ Cloud Mining (คลาวด์ ไมนิง) ที่ให้คุณเช่ากำลังขุดจากบริษัทผู้ให้บริการ แต่ก็ต้องใช้เงินลงทุนเช่นกัน ไม่ใช่แบบฟรีๆ ครับ
**ข้อควรจำและข้อควรระวังในการ หาเหรียญ crypto ฟรี**
อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ต้นครับว่า แม้จะมีวิธี หาเหรียญ crypto ฟรี หรือแบบทุนน้อยอยู่จริง แต่มันก็มีข้อจำกัดและข้อควรระวังที่สำคัญมากๆ ครับ:
1. **ได้น้อยมากๆ:** ส่วนใหญ่แล้ววิธีฟรีต่างๆ มักจะให้บิทคอยน์หรือคริปโตฯ ในจำนวนที่น้อยจนน่าตกใจ คุณต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างสูงเพื่อสะสมให้ได้จำนวนที่พอจะมีค่า
2. **ต้องใช้เวลา:** การทำภารกิจ เล่นเกม หรืออื่นๆ มักจะใช้เวลาเยอะมาก บางครั้งผลตอบแทนที่ได้อาจจะไม่คุ้มกับเวลาที่เสียไป
3. **ระวังเว็บไซต์หลอกลวง:** โลกออนไลน์มีผู้ไม่หวังดีเยอะมาก เว็บไซต์ที่อ้างว่าจะแจกบิทคอยน์ฟรีจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นของปลอมที่หลอกเอาข้อมูลส่วนตัว หรือหลอกให้คุณทำงานฟรีๆ แล้วไม่จ่ายเงินจริงๆ
4. **ความเสี่ยงด้านราคา:** มูลค่าของคริปโตฯ ผันผวนสูงมาก เหรียญที่คุณได้มาฟรีๆ อาจจะมีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคตก็ได้ หรืออาจจะลดลงจนแทบไม่มีค่าเลยก็ได้
5. **ความเสี่ยงของแพลตฟอร์ม:** ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มทำภารกิจ เว็บเทรด หรือแพลตฟอร์ม DeFi ล้วนมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หรืออาจถูกแฮก ถูกโกง หรือปิดตัวลงได้ ควรเลือกใช้แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มในไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. จะมีความปลอดภัยในระดับหนึ่งครับ
**สรุปแล้ว… หาเหรียญ crypto ฟรี มันคุ้มไหม?**
คำถามนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณครับ ถ้าคุณมองหาวิธีรวยทางลัดจากการ หาเหรียญ crypto ฟรี บอกเลยว่า “ไม่คุ้ม” ครับ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างความมั่งคั่งจากวิธีพวกนี้
แต่ถ้าคุณมองว่ามันเป็นวิธี:
* เริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับคริปโตฯ โดยไม่ต้องลงทุนเงินก้อนใหญ่
* ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ (แม้จะได้น้อย)
* สะสมเหรียญจำนวนเล็กน้อยเผื่อว่าราคาจะพุ่งในอนาคต
แบบนี้ก็พอจะบอกได้ว่า “น่าลอง” ครับ แต่ก็ต้องเข้าใจข้อจำกัดและยอมรับความเสี่ยงที่จะได้จำนวนน้อยมากๆ และอาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก
⚠️ **คำแนะนำเพิ่มเติม:** หากคุณสนใจที่จะลอง หาเหรียญ crypto ฟรี หรือแบบใช้ทุนน้อย แนะนำให้เน้นไปที่แพลตฟอร์มหรือวิธีที่น่าเชื่อถือ เช่น การสมัครผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่ได้รับใบอนุญาต (อย่าง Bitkub, Zipmex, Satang Pro ฯลฯ ในไทย) การทำ Learn to Earn บนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ที่เป็นที่รู้จัก (เช่น Coinbase) หรือการทำภารกิจบนเว็บไซต์ที่มีรีวิวดีๆ และต้องทำใจว่าจำนวนที่ได้จะน้อยมากๆ ครับ
อย่าลืมว่าโลกคริปโตฯ ยังใหม่และมีความเสี่ยงสูงมากๆ ไม่ว่าคุณจะลงทุนด้วยเงินของตัวเอง หรือพยายาม หาเหรียญ crypto ฟรี ก็ตาม การศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทำความเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังจะทำ และประเมินความเสี่ยงที่คุณรับได้ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไปนะครับ!