เอ้า! คุณผู้อ่านที่รัก วันนี้มาคุยกันเรื่องฮิตๆ ที่คนถามกันเยอะมาก (โดยเฉพาะน้องๆ วัยใสไฟแรง) นั่นก็คือ… Bitcoin (บิทคอยน์) นั่นเอง! หลายคนได้ยินชื่อนี้แล้วก็คงนึกภาพเป็นอะไรที่แพงเวอร์ ต้องมีเงินเป็นล้านถึงจะซื้อได้ใช่ไหมครับ? มีเพื่อนผมคนนึงชื่อ “เจ้าปั้น” เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ทำงานได้ไม่นาน มาถามผมตาวาวว่า “พี่ครับ ผมเห็นข่าว Bitcoin (บิทคอยน์) มันขึ้นเอาๆ ผมอยากลงทุนบ้าง แต่เงินเดือนน้อยนิด ซื้อได้เหรอครับ?” คำตอบของผมคือ “ได้สิเจ้าปั้น! แถมจะบอกเคล็ดลับให้ด้วยว่า แค่หลักร้อยก็เริ่มได้แล้ว” ใช่แล้วครับ! คุณสามารถ ซื้อบิทคอยน์ 100 บาท ก็ยังได้เลย ฟังดูไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ?

ปี 2568 หรือปี 2025 นี้เนี่ย บิทคอยน์ก็ยังเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าจับตาอยู่เหมือนกันนะ จากที่ผมดูข้อมูลมา แนวโน้มต่างๆ ก็ยังค่อนข้างไปในทางบวก มีปัจจัยหลายอย่างสนับสนุนที่ทำให้มันยังเป็นสนามเด็กเล่น (ที่มีความผันผวนสูงปรี๊ด!) ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะคนที่อยากจะลองจุ่มเท้าลงไปในโลกคริปโทฯ แบบไม่ต้องใช้เงินก้อนโต เพราะอย่างที่บอก… เรื่อง ซื้อบิทคอยน์ 100 บาท มันเป็นไปได้จริงๆ!
ทีนี้ คำถามต่อมาคือ “แล้วจะไป ซื้อบิทคอยน์ 100 บาท ได้ที่ไหนล่ะ?” ช่องทางการซื้อบิทคอยน์ในบ้านเราตอนนี้มีหลายแบบให้เลือกครับ ที่นิยมๆ ก็จะมี 2 ช่องทางหลักๆ คือ ซื้อผ่าน “กระเป๋าสตางค์ดิจิทัล” (Digital Wallet) กับ ซื้อผ่าน “เว็บเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Asset Exchange) ซึ่งทั้งสองแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป
การซื้อผ่านกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลเนี่ย ข้อดีคือคุณได้ถือ “คีย์ส่วนตัว” (Private Key) หรือเปรียบเสมือนกุญแจตู้เซฟของคุณเองเลย มีความเป็นส่วนตัวสูงกว่า ลดความเสี่ยงจากการที่เว็บเทรดอาจโดนแฮ็กได้ระดับหนึ่ง แลกเปลี่ยนได้ค่อนข้างเร็ว รองรับช่องทางจ่ายเงินหลากหลาย และจะซื้อตอนไหน ที่ไหนก็ได้ แต่ข้อเสียคือ ถ้าคุณเผลอทำคีย์ส่วนตัวหายล่ะก็… บิทคอยน์ในนั้นก็หายไปกับสายลมเลยนะ กู้คืนไม่ได้ด้วย! แถมบางทีอาจมีตัวเลือกในการซื้อจำกัด หรืออัตราแลกเปลี่ยนอาจจะไม่ดีเท่าเว็บเทรดใหญ่ๆ

ส่วนการซื้อผ่านเว็บเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล อันนี้จะง่ายกว่าเยอะครับ เหมือนเราเปิดบัญชีกับธนาคารออนไลน์เพื่อซื้อขายหุ้นนั่นแหละ ข้อดีคือ ซื้อขายง่าย มีสภาพคล่องสูง (อยากซื้ออยากขายก็มีคนรอรับรอส่งอยู่เพียบ) บางเจ้าก็ค่อนข้างปลอดภัย มีเครื่องมือดูราคา ดูแนวโน้มให้พร้อม แต่ข้อเสียคือ ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปในแต่ละเว็บ (อันนี้ต้องลองเปรียบเทียบดีๆ นะครับ) มีความเสี่ยงที่เว็บเทรดอาจโดนแฮ็กได้เหมือนกัน (แม้จะน้อยลงถ้าเลือกเจ้าใหญ่ๆ ที่มีมาตรฐาน) และที่สำคัญคือคุณต้องผ่านขั้นตอน “การยืนยันตัวตน” (KYC – Know Your Customer) ตามกฎของทางการ ซึ่งอาจจะยุ่งยากนิดหน่อยในช่วงแรก นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่เว็บอาจจะปิดปรับปรุง หรือนโยบายเปลี่ยนกระทันหันได้อีกด้วย
ถ้าพูดถึงเว็บเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยและได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรงในบ้านเราเนี่ย ก็มีหลายเจ้าเลยครับ เช่น Bitkub อันนี้เรียกได้ว่าใหญ่สุดในไทย สภาพคล่องสูง รองรับเงินบาทไทยได้สะดวก หรือ Binance TH ที่เป็นเวอร์ชันไทยของเว็บเทรดระดับโลก ค่าธรรมเนียมค่อนข้างต่ำ Orbix (ชื่อเก่า Satang Pro) ที่ก็เป็นแพลตฟอร์มไทย ใช้งานง่าย และ Bitazza Thailand ที่ก็มีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. รองรับหลายเหรียญ และมีฟีเจอร์น่าสนใจอื่นๆ อย่าง Coins.co.th เองก็เคยให้บริการหลักๆ ที่บิทคอยน์ (เท่าที่ทราบข้อมูลมานะ) และได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เช่นกัน การเลือกแพลตฟอร์มก็ขึ้นอยู่กับความสะดวก ความปลอดภัย ค่าธรรมเนียมที่คุณรับได้ และฟังก์ชันเสริมที่คุณต้องการใช้ครับ ถ้าจะ ซื้อบิทคอยน์ 100 บาท ลองเช็คดูดีๆ ว่าแพลตฟอร์มนั้นมีขั้นต่ำในการซื้อเท่าไหร่ด้วยนะ บางเจ้าอาจจะกำหนดขั้นต่ำที่สูงกว่า 100 บาทได้ (แต่ส่วนใหญ่จะเริ่มได้ด้วยเงินจำนวนน้อยมากๆ ครับ)

พอรู้แล้วว่าจะ ซื้อบิทคอยน์ 100 บาท ได้ที่ไหน คำถามต่อมาคือ แล้วจะลงทุนยังไงให้เวิร์คล่ะ? การลงทุนในบิทคอยน์ไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่เสมอไปครับ การเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อยๆ แบบ 100 บาทเนี่ย เหมาะมากๆ สำหรับมือใหม่! ทำไมรู้ไหมครับ? เพราะอย่างที่บอกไปว่าบิทคอยน์มันแบ่งย่อยได้ถึงหน่วยเล็กจิ๋วมากๆ ที่เรียกว่า ‘ซาโตชิ’ มันก็เหมือนเหรียญสตางค์ของบิทคอยน์นั่นแหละ ทำให้คุณสามารถซื้อได้แม้จะแค่ 100 บาท หรืออาจจะน้อยกว่านั้นอีกถ้าผู้ให้บริการเขาอนุญาต
ข้อดีของการเริ่มต้นด้วยเงินน้อยๆ คือ: 1. ลดความเสี่ยง: ถ้าตลาดเกิดไม่เป็นใจขึ้นมา คุณก็ไม่ได้เสียหายเยอะ 2. เรียนรู้จากประสบการณ์จริง: ได้ลองลงมือทำจริงๆ ได้เห็นกราฟขึ้นลง ได้กดซื้อกดขายด้วยเงินจริงๆ มันได้ความรู้สึกและบทเรียนที่ต่างจากการอ่านหนังสืออย่างเดียวเยอะเลย 3. สร้างวินัยการลงทุน: พอเราเริ่มจากน้อยๆ และทำสม่ำเสมอ มันจะช่วยสร้างนิสัยการลงทุนที่ดีในระยะยาวได้ 4. มีโอกาสเติบโตในระยะยาว: แม้จะเริ่มจาก 100 บาท ถ้าบิทคอยน์มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เงินจำนวนน้อยนี้ก็มีโอกาสเพิ่มมูลค่าขึ้นได้เหมือนกัน
เทคนิคที่เหมาะมากๆ สำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้น ซื้อบิทคอยน์ 100 บาท คือการทำ “การซื้อแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน” หรือที่ฝรั่งเรียกว่า DCA (Dollar-Cost Averaging) พูดง่ายๆ คือ แทนที่จะเอาเงินก้อนใหญ่ไปซื้อตูมเดียวตอนที่เราไม่รู้ว่าราคามันกำลังจะขึ้นหรือลง เราก็แบ่งเงินเป็นก้อนเล็กๆ เท่าๆ กัน เช่น 100 บาท หรือ 500 บาท แล้วซื้อเป็นงวดๆ ไป อาจจะซื้อทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน โดยไม่สนว่าตอนนั้นราคาบิทคอยน์จะแพงหรือถูก วิธีนี้เหมือนการหยอดกระปุกออมสินนั่นแหละครับ มันช่วยให้เราซื้อได้ทั้งตอนที่ราคาถูก (ได้บิทคอยน์เยอะหน่อย) และตอนที่ราคาแพง (ได้น้อยหน่อย) สุดท้ายแล้วก็จะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของเราไม่สูงจนเกินไป และที่สำคัญที่สุดคือมันช่วยสร้างวินัยการลงทุนให้เราได้ดีมากๆ
แน่นอนครับว่า การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์เนี่ย มีความเสี่ยงสูงมากและมีความผันผวนของราคาที่รุนแรง กว่าสินทรัพย์อื่นๆ อย่างหุ้น หรือกองทุนรวมเยอะเลยนะ ราคาอาจจะพุ่งแรงในเวลาสั้นๆ หรือดิ่งลงเหวอย่างรวดเร็วก็ได้ ซึ่งผลการดำเนินงานในอดีตที่เห็นบิทคอยน์ราคาขึ้นมาเยอะๆ เนี่ย ไม่สามารถรับประกัน ว่าในอนาคตจะเป็นแบบนั้นเสมอไปนะครับ คุณผู้อ่านที่สนใจจะ ซื้อบิทคอยน์ 100 บาท หรือเท่าไหร่ก็ตาม ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีมากๆ ทำความเข้าใจความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และต้องพร้อมที่จะยอมรับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับเงินลงทุนของคุณด้วยนะครับ อย่าเอาเงินร้อน หรือเงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันมาลงทุนเด็ดขาด!
กลุ่มวัยรุ่นไฟแรง อายุ 18-29 ปี เนี่ย เป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจกับบิทคอยน์และคริปโทฯ มากเป็นพิเศษเลย การเทรดเองผ่านเว็บเทรดที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ถือเป็นช่องทางที่ค่อนข้างเหมาะสมสำหรับคนที่มีเงินทุนไม่เยอะ เพราะเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อยได้ง่าย แต่สำหรับน้องๆ ที่อายุ 18-20 ปี อาจจะต้องเตรียมเอกสารอย่าง “หนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง” ไปด้วยนะครับ เพราะเว็บเทรดหลายๆ แห่งมีกฎระเบียบเกี่ยวกับอายุผู้ใช้งานอยู่
เอาล่ะครับ สรุปง่ายๆ สำหรับคนที่อยากลอง ซื้อบิทคอยน์ 100 บาท หรือเริ่มลงทุนในบิทคอยน์ด้วยเงินจำนวนน้อยๆ เนี่ย:
1. เป็นไปได้! บิทคอยน์แบ่งย่อยได้ถึงหน่วยเล็กจิ๋วมากๆ แค่ 100 บาทก็เริ่มได้แล้ว
2. เริ่มต้นน้อยๆ เหมาะกับมือใหม่: ลดความเสี่ยง ได้เรียนรู้จริง สร้างวินัย
3. เลือกแพลตฟอร์มให้ดี: เน้นเว็บเทรดที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ไทย เช็คค่าธรรมเนียมและความสะดวกในการใช้งาน
4. พิจารณาเทคนิค DCA: ซื้อสม่ำเสมอด้วยเงินจำนวนเท่าๆ กัน ช่วยถัวเฉลี่ยต้นทุนและสร้างวินัย
⚠️ ข้อควรจำที่สำคัญที่สุด: โลกคริปโทฯ มีความเสี่ยงสูงมาก! ราคาเหวี่ยงแรง คุณมีโอกาสที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ง่ายๆ ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถนำมาคาดการณ์อนาคตได้เสมอไป
ก่อนตัดสินใจลงทุนแม้แต่บาทเดียว ต้องศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองให้ดีมากๆ ทำความเข้าใจมันก่อนครับ อย่าเพิ่งเชื่อใครทั้งหมด ฟังหูไว้หู และลงทุนเท่าที่คุณพร้อมจะเสียได้เท่านั้นนะครับ! ขอให้คุณผู้อ่านทุกคนที่สนใจโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล โชคดีและลงทุนอย่างมีสติครับ!