คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

การขุดเหรียญและเครื่องมือหาเงิน

เครื่องขุด Dogecoin: ลงทุนวันนี้ รวยจริงหรือแค่ฝัน?

เพื่อนๆ ที่ติดตามวงการคริปโตฯ คงจะเห็นเจ้าหมาน้อย Dogecoin (โดชคอยน์) โผล่มาให้เห็นบ่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา จากที่เคยเป็นแค่เหรียญมีมขำๆ วันนี้ Dogecoin กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดไม่ธรรมดา มีผู้คนสนใจทั้งในแง่การลงทุนและการนำไปใช้จ่าย แล้วถ้าเราอยาก ‘ขุด’ เหรียญหมาน้อยตัวนี้เองล่ะ? มันทำยังไง? ใช้อะไรขุด? คุ้มไหม? วันนี้ในฐานะคนวงในที่คลุกคลีกับเรื่องพวกนี้ ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ ครับ เรื่องของ เครื่องขุด dogecoin เนี่ย มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่าสนใจอยู่เยอะเลยนะ

ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าการขุด Dogecoin คืออะไรกันแน่? การขุดเหรียญดิจิทัลอย่าง Dogecoin ไม่ต่างจากการแข่งขันกันไขปริศนาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนมากๆ ครับ นักขุดจะใช้คอมพิวเตอร์ที่มีกำลังประมวลผลสูงมากๆ เพื่อแข่งกันหาคำตอบของปริศนาเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมต่างๆ และนำไปบันทึกในบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ที่เรียกว่า ‘บล็อกเชน’ (Blockchain) ใครที่แก้ปริศนาได้ก่อน ก็จะได้สิทธิ์ในการเพิ่มบล็อกใหม่เข้าไปในบล็อกเชน และรับ ‘รางวัลต่อบล็อก’ (Block Reward) เป็นเหรียญ Dogecoin ไป

Dogecoin ใช้กลไกที่เรียกว่า ‘Proof-of-Work’ (PoW) หรือกลไกพิสูจน์การทำงาน ซึ่งเป็นแบบเดียวกับ Bitcoin (บิทคอยน์) แต่ Dogecoin ใช้ ‘อัลกอริทึม Scrypt’ ซึ่งต่างจาก Bitcoin ที่ใช้ SHA-256 เจ้าอัลกอริทึม Scrypt เนี่ย ถูกออกแบบมาให้ใช้ทรัพยากรหน่วยความจำและพลังงานน้อยกว่า SHA-256 ทำให้ตอนเริ่มต้น ขุด Dogecoin สามารถใช้ CPU หรือ GPU ทั่วไปได้ แต่พอเหรียญได้รับความนิยม ความยากในการขุดก็เพิ่มขึ้นมหาศาล จนเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไปครับ จำเป็นต้องใช้ ‘เครื่องขุด ASIC’ (Application-Specific Integrated Circuit) ซึ่งเป็นเครื่องที่ออกแบบมาเพื่องานขุดโดยเฉพาะ แรงกว่า ประหยัดไฟกว่าเยอะมากๆ

พูดถึงเรื่อง Dogecoin ก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงการเติบโตของมันนะครับ จากแค่เหรียญมีมที่สร้างขึ้นมาเล่นๆ มูลค่าตลาด Dogecoin เคยทะลุ 4.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐมาแล้วในช่วงต้นปี 2025 และยังคงรักษาระดับที่หลักหลายสิบพันล้านดอลลาร์สหรัฐได้ (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐกลางปี 2025) ราคาเหรียญเองก็เคยพุ่งขึ้นกว่า 313% ในปี 2024 นี่แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ใช่แค่จากรายย่อยเท่านั้นนะครับ ขนาดสถาบันใหญ่ๆ อย่าง Bitwise ยังเคยยื่นขอจัดตั้ง ‘กองทุน Dogecoin ETF’ เลยนะ นี่เป็นสัญญาณว่า Dogecoin ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไปแล้วครับ

ปัจจัยขับเคลื่อนความนิยม Dogecoin ที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่งก็คืออิทธิพลจากบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะ ‘อีลอน มัสก์’ ที่ทวีตถึง Dogecoin อยู่บ่อยๆ ทำให้ราคาเหรียญมีความเคลื่อนไหวสูงมาก นอกจากนี้ยังมีความสนใจที่เพิ่มขึ้นในเหรียญมีมธีมสุนัขอื่นๆ ด้วย แนวโน้มความสนใจในการขุด Dogecoin ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย สังเกตได้จาก ‘อัตราแฮชรวม’ (Hashrate รวม) ของเครือข่าย Dogecoin ที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จากประมาณ 320 TH/s ช่วงต้นปี 2024 เป็นประมาณ 820 TH/s กลางปี 2025 การที่แฮชเรทเครือข่ายสูงขึ้น แปลว่ามีนักขุดรายใหม่เข้ามาเยอะขึ้น และใช้เครื่องขุดที่มีกำลังประมวลผลสูงขึ้นครับ

ทีนี้มาดูเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นหัวใจของการ ขุด Dogecoin กันบ้างนะครับ อย่างที่บอกว่าต้องใช้ เครื่องขุด ASIC สำหรับอัลกอริทึม Scrypt มีหลายรุ่นในตลาดให้เลือกเลยครับ ตั้งแต่รุ่นเล็กๆ ที่เหมาะกับตั้งในบ้าน ไปจนถึงรุ่นใหญ่ระดับฟาร์มขุด อย่าง ‘Goldshell Mini-DOGE III’ รุ่นนี้เป็นรุ่นเล็กที่ได้รับความนิยม แฮชเรทประมาณ 650-700Mh/s ใช้ไฟ 400W เสียงเงียบแค่ 35 dB เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นแบบไม่ใหญ่มาก หรือรุ่นเก่าหน่อยอย่าง ‘Goldshell Mini-DOGE’ ที่แฮชเรท 185Mh/s ใช้ไฟ 233W แต่ถ้าพูดถึงรุ่นใหญ่ที่แรงที่สุดในกลุ่ม Scrypt ตอนนี้ ก็ต้องยกให้ ‘Bitmain Antminer L9’ ที่ให้กำลังขุดสูงถึง 16.2 Gh/s แต่ก็ใช้พลังงานสูงถึง 3360W อีกตัวคือ ‘ElphaPex DG1’ ที่ให้แฮชเรทประมาณ 11Gh/s ใช้ไฟ 3300W

เวลาเลือก เครื่องขุด dogecoin เราต้องดูตัวเลขสำคัญๆ คือ ‘แฮชเรท’ ซึ่งบอกว่าเครื่องของเราแรงแค่ไหน มีกำลังประมวลผลเท่าไร ยิ่งสูงยิ่งดี และ ‘การใช้พลังงาน’ (วัดเป็น Watt) ยิ่งต่ำยิ่งดี นอกจากนี้ยังมีตัวเลข ‘ประสิทธิภาพ’ (วัดเป็น Joules ต่อ Gigahash ต่อวินาที หรือ j/g) ตัวเลขนี้บอกว่าใช้พลังงานเท่าไรในการประมวลผล 1 Gh/s ยิ่งตัวเลขนี้ต่ำ เครื่องยิ่งมีประสิทธิภาพสูง ประหยัดไฟกว่า รุ่นใหม่ๆ มักจะมีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นเก่าๆ ครับ เช่น Antminer L9 มีประสิทธิภาพดีกว่า L7 ประมาณ 1-4% ทั้งที่กำลังขุดสูงกว่าถึง 70%

แล้วคำถามสำคัญที่ทุกคนอยากรู้คือ ‘ขุดแล้วคุ้มไหม?’ หรือ ‘จะได้กำไรเท่าไร?’ ครับ กำไรที่ได้จากการ ขุด Dogecoin ด้วย เครื่องขุด ASIC เนี่ยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ ครับ คือ
1. **กำลังขุด (Hashrate) ของเครื่องเรา:** ยิ่งเครื่องแรง โอกาสเจอรางวัลก็ยิ่งสูง
2. **ค่าไฟฟ้า:** นี่คือตัวแปรสำคัญที่กัดกินกำไรเราเยอะที่สุด เพราะเครื่องขุดใช้พลังงานตลอดเวลา ต้องคำนวณค่าไฟต่อหน่วยให้ดี
3. **รางวัลต่อบล็อก:** Dogecoin ให้รางวัล 10,000 DOGE ต่อบล็อก และสร้างบล็อกได้เร็วกว่า Bitcoin (ประมาณ 1 นาที เทียบกับ 10 นาที)
4. **ราคาเหรียญ Dogecoin:** ราคา DOGE ขึ้นลงตลอดเวลา ทำให้รายได้เป็นเงินดอลลาร์หรือบาทไม่คงที่
5. **ความยากในการขุด (Difficulty):** ยิ่งมีนักขุดเยอะขึ้น เครือข่ายก็ยิ่งปรับให้การขุดยากขึ้น เพื่อรักษาระยะเวลาสร้างบล็อกให้คงที่

บางคนอาจเห็นตัวเลขประมาณการณ์รายได้จากเครื่องขุดรุ่นท็อปๆ อย่าง Antminer L9 ที่อาจทำได้ถึง 35.32 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน (ก่อนหักค่าไฟและค่าอื่นๆ!) หรือประมาณ 1,059 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ซึ่งดูน่าสนใจมากๆ แต่จำไว้เลยนะครับว่านี่คือตัวเลข ‘ประมาณการณ์’ เท่านั้น ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างกันลิบลับตามปัจจัยที่กล่าวมา โดยเฉพาะราคาเหรียญและค่าไฟฟ้า นอกจากนี้ ต้องคิดถึง ‘ระยะเวลาคืนทุน’ (Payback Period) ด้วย ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่รายได้จากการขุดจะเท่ากับค่าเครื่องที่เราลงทุนไป

ข้อดีของการ ขุด Dogecoin คือมันรองรับการ ‘Merged Mining’ กับ Litecoin (LTC) ได้ครับ หมายความว่าใช้ เครื่องขุด dogecoin เครื่องเดียว สามารถขุดได้ทั้ง DOGE และ LTC พร้อมกัน ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสูงสุดให้แก่นักขุดได้มากๆ ครับ เพราะ Liteocin ก็เป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาดและมีความนิยมสูงเช่นกัน

สำหรับคนที่สนใจจะเริ่มต้น ขุด Dogecoin จริงๆ จังๆ นอกจากจะซื้อ เครื่องขุด dogecoin มาตั้งเองที่บ้านหรือที่ฟาร์มแล้ว ยังมีวิธีการอื่นๆ ด้วยครับ
* **ขุดเดี่ยว (Solo Mining):** ใช้เครื่องของตัวเองขุดคนเดียว เหมาะกับคนที่มีกำลังขุดมหาศาลเท่านั้น เพราะโอกาสเจอรางวัลต่ำมากๆ
* **พูลขุด (Mining Pool):** วิธีนี้เป็นที่นิยมที่สุดครับ คือการรวมพลังกำลังขุดของนักขุดหลายๆ คนเข้าด้วยกัน พอพูลขุดเจอรางวัล ก็จะนำมาแบ่งปันกันตามสัดส่วนกำลังขุดที่แต่ละคนส่งมา ทำให้ได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและคาดเดาได้ง่ายกว่าการขุดเดี่ยว
* **การขุดผ่านคลาวด์ (Cloud Mining):** คือการเช่ากำลังขุดจากผู้ให้บริการภายนอก ไม่ต้องซื้อเครื่องเอง ไม่ต้องดูแลเอง แต่ต้องพิจารณาผู้ให้บริการให้ดีๆ เพราะเคยมีกรณีผู้ให้บริการ Cloud Mining ปิดตัวหนีไปก็มีครับ

ถ้าตัดสินใจจะซื้อ เครื่องขุด dogecoin จริงๆ ก็มีผู้ผลิตหลายเจ้าให้เลือกครับ อย่าง Goldshell, Bitmain, ElphaPex และมีผู้จำหน่ายทั้งในไทยและต่างประเทศ ราคาเครื่องอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้บ่อยตามความต้องการของตลาดและราคาเหรียญครับ ช่องทางการชำระเงินก็มีทั้งการโอนเงินผ่านธนาคารและการชำระด้วยสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมอย่าง BTC, ETH, USDT, USDC เวลาสั่งซื้อจากต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงเรื่องการจัดส่ง ซึ่งมักใช้บริการขนส่งด่วน ระยะเวลาประมาณ 5-10 วันทำการ และที่สำคัญคือเรื่อง ‘ภาษีศุลกากร’ ครับ ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบในส่วนนี้หากไม่มีบริการ ‘DDP’ (Delivered Duty Paid – ส่งถึงที่รวมภาษี) ซึ่งมีให้บริการในบางประเทศ แต่บางประเทศเราอาจต้องจัดการเรื่องภาษีเองครับ

เรื่องการรับประกันสินค้า เครื่องขุดใหม่ที่มาจากโรงงานมักจะมีการรับประกันประมาณ 6-12 เดือนนับจากวันที่ผลิต แต่การรับประกันจะไม่ครอบคลุมปัญหาที่เกิดจากการใช้งานผิดวิธี การดัดแปลงเครื่อง หรือความเสียหายจากสภาพแวดล้อม ส่วนเครื่องขุดมือสอง ส่วนใหญ่มักจะไม่มีการรับประกันนะครับ ผู้ขายมักจะทดสอบเครื่องและส่งวิดีโอให้ดูก่อนจัดส่งเท่านั้น การซื้อขายเครื่องขุดส่วนใหญ่ถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่สามารถขอคืนเงินได้ ดังนั้นต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจครับ

สรุปแล้ว การ ขุด Dogecoin ด้วย เครื่องขุด ASIC เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการมีส่วนร่วมในเครือข่าย Dogecoin และ Litecoin หรือมองหาช่องทางสร้างรายได้จากคริปโตฯ แต่มันไม่ใช่แค่ซื้อ เครื่องขุด dogecoin มาเสียบปลั๊กแล้วรวยเลยนะ! การลงทุนในกิจกรรมนี้มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงมากๆ ครับ ต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด คำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะ ‘ค่าไฟฟ้า’ ซึ่งเป็นต้นทุนหลัก ทำความเข้าใจหลักการทำงานของเครื่อง และยอมรับความเสี่ยงด้านราคาของเหรียญที่ผันผวนตลอดเวลาครับ

⚠️ สำคัญมากๆ คือ Dogecoin เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงมาก ราคาอาจขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็วโดยมีปัจจัยหลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไรจากการขุด การลงทุนใน เครื่องขุด dogecoin และการขุดเหรียญดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง เงินลงทุนทั้งหมดอาจสูญหายได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ทำความเข้าใจความเสี่ยง และประเมินสถานะทางการเงินของตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งครับ อย่าลงทุนด้วยเงินที่รับความเสี่ยงไม่ได้โดยเด็ดขาด

LEAVE A RESPONSE