เพื่อนๆ ที่รักในโลกการเงินและคริปโตเคอร์เรนซีทุกคนครับ
วันนี้เราจะมานั่งจิบกาแฟ (หรือชาเย็นแก้วโปรด) แล้วคุยกันเรื่องเหรียญดิจิทัลตัวหนึ่งที่หลายคนรู้จักดีในชื่อ USDT หรือที่ทางการเรียกว่า Tether ครับ เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาในวงการนี้ต้องเคยได้ยินหรือเคยใช้เจ้าเหรียญตัวนี้อย่างแน่นอน เพราะมันเป็นเหมือน “สะพานเชื่อม” หรือ “ที่หลบภัย” เวลาที่ตลาดคริปโตโดยรวมผันผวนราวกับรถไฟเหาะ แล้วเจ้า usdt ราคา เนี่ย มันน่าสนใจยังไง ทำไมถึงเป็นที่พูดถึงกันนักหนา วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบง่ายๆ สไตล์คอลัมนิสต์การเงินที่พยายามจะเข้าใจหัวใจคนอ่านอย่างพวกคุณครับ

USDT คืออะไรกันแน่? ทำไมต้องมีมันในโลกคริปโต?
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 โลกคริปโตยังเป็นอะไรที่ใหม่มาก และความผันผวนก็รุนแรงยิ่งกว่าทุกวันนี้เสียอีก วันนี้ราคาพุ่ง พรุ่งนี้ดิ่งเหว นักลงทุนหลายคนปวดหัว อยากมีอะไรสักอย่างที่เป็นเหมือน “เงินดิจิทัล” แต่มีค่าคงที่ ไม่แกว่งไปแกว่งมาตามอารมณ์ตลาด เหมือนเงินบาท เงินดอลลาร์ หรือเงินเยนที่เราใช้ในชีวิตจริงนี่แหละครับ
นั่นแหละครับคือที่มาของ Tether (USDT) ผู้ก่อตั้งสามท่านคือ Brock Pierce, Reeve Collins และ Craig Sellars ได้สร้างเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมาโดยมีแนวคิดง่ายๆ แต่ทรงพลัง คือการ “ตรึง” มูลค่าของมันไว้กับสกุลเงินปกติ หรือที่เรียกว่า Fiat Currency (เงินที่รัฐบาลประกาศให้ใช้ได้ตามกฎหมาย) โดยหลักๆ แล้ว usdt ราคา ถูกออกแบบมาให้มีค่าใกล้เคียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เสมอ พูดง่ายๆ คือ 1 USDT ควรจะมีค่าประมาณ 1 USD นั่นเองครับ
ลองนึกภาพนะครับ เวลาที่เราซื้อขาย Bitcoin (บิตคอยน์) หรือ Ethereum (อีเธอเรียม) ราคาของมันเปลี่ยนตลอดเวลา ถ้าเราอยากจะ “พักเงิน” จากความผันผวนนี้ เราก็ต้องขายคริปโตที่เรามี กลับไปเป็นเงินบาท หรือเงินดอลลาร์จริงๆ ซึ่งบางทีกว่าจะทำธุรกรรมเสร็จ หรือต้องโอนเงินข้ามประเทศมันก็ยุ่งยากและมีค่าธรรมเนียมใช่ไหมครับ แต่ถ้าเราแปลง Bitcoin เป็น USDT แทนล่ะ? เราก็ยังคงอยู่ในโลกคริปโต เพียงแต่ถือเหรียญที่มีค่าคงที่ มูลค่าไม่ผันผวนตาม Bitcoin แล้ว อยากจะกลับไปซื้อ Bitcoin เมื่อไหร่ ก็ใช้ USDT ซื้อได้เลย สะดวก รวดเร็ว และค่าธรรมเนียมในโลกคริปโตมักจะถูกกว่าการโอนเงินข้ามระบบธนาคารเยอะเลยครับ

USDT ทำงานยังไง? เบื้องหลังความนิ่งที่ไม่ได้นิ่งสนิท 100%
USDT ทำงานอยู่บนระบบ Blockchain (บล็อกเชน) เหมือนคริปโตอื่นๆ ทั่วไป แต่ความพิเศษคือมันไม่ได้มีบล็อกเชนเป็นของตัวเองแบบเดี่ยวๆ ครับ Tether ใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนที่มีอยู่แล้วหลายเครือข่ายมากๆ ตอนนี้รองรับมากกว่า 14 โปรโตคอล/บล็อกเชนเลยทีเดียวครับ เช่น บล็อกเชนของ Bitcoin (ผ่านโปรโตคอล Omni Layer เก่าๆ), Ethereum (ส่วนใหญ่ที่เราใช้กันจะเป็นแบบ ERC-20 บน Ethereum), Tron (TRC-20), Solana และอื่นๆ อีกเพียบ นี่ทำให้ USDT สามารถโอนย้ายข้ามแพลตฟอร์มต่างๆ ได้สะดวกมากๆ ครับ
หลักการสำคัญของ USDT คือการที่ Tether Limited ซึ่งเป็นบริษัทผู้ออกเหรียญ (และมีความเชื่อมโยงกับกระดานเทรดชื่อดัง Bitfinex) จะออกเหรียญ USDT ใหม่ๆ ออกมา ก็ต่อเมื่อมีเงินดอลลาร์ (หรือสินทรัพย์อื่นๆ) ฝากเข้ามาในบัญชีของบริษัท พูดง่ายๆ คือ มีคนเอาเงินจริงมาแลกเป็น USDT ครับ และในทางกลับกัน ถ้ามีคนเอา USDT มาคืนเพื่อแลกกลับเป็นเงินจริง ทางบริษัทก็จะทำการเผาเหรียญ (Burn) หรือนำเหรียญออกจากระบบ ทำให้จำนวน USDT ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด มีความสัมพันธ์กับจำนวนเงินสำรองที่บริษัทถือไว้ครับ
แต่ตรงนี้แหละครับที่เป็นประเด็นที่ถูกจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาครับ ในอดีต Tether เคยอ้างว่าทุกๆ 1 USDT ที่ออกสู่ตลาด จะมีเงินดอลลาร์จริง หรือเทียบเท่า 1 ดอลลาร์ ฝากอยู่ในบัญชีบริษัท 100% เสมอ แต่ต่อมา (ตามข้อมูลในปี 2019 ที่มีการเปิดเผยออกมา) ก็มีการชี้แจงว่าเงินสำรองไม่ได้เป็นเงินสดดอลลาร์ 100% ซะทีเดียว แต่รวมถึงสินทรัพย์อื่นๆ ด้วย เช่น ตราสารหนี้ระยะสั้น เงินกู้ที่ให้กับบริษัทในเครือ หรือสินทรัพย์สภาพคล่องอื่นๆ ซึ่งข้อมูลในปี 2019 บอกว่าหนุนอยู่ประมาณ 74% เท่านั้น (ข้อมูลล่าสุดที่บริษัทเปิดเผยเมื่อ 1 ส.ค. 2024 ดูดีขึ้นเยอะ เดี๋ยวจะพูดถึงครับ)
ประเด็นนี้สำคัญมาก เพราะความน่าเชื่อถือของ usdt ราคา ที่ควรจะอยู่ที่ 1 ดอลลาร์ มันขึ้นอยู่กับความมั่นคงของเงินสำรองที่ Tether Limited ถืออยู่นี่แหละครับ ถ้าเกิดมีคนจำนวนมากอยากจะเอา USDT มาแลกคืนเป็นเงินดอลลาร์พร้อมๆ กัน แล้วบริษัทไม่มีเงินสำรองเพียงพอจริงๆ usdt ราคา ก็อาจจะหลุดจาก 1 ดอลลาร์ และอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้ครับ นี่คือความเสี่ยงที่ผู้ใช้ USDT ทุกคนควรจะรับทราบไว้นะครับ

USDT ในตลาดคริปโต: เจ้าพ่อแห่ง Stablecoin
ไม่ว่าจะมีประเด็นเรื่องเงินสำรองหรือไม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่า Tether (USDT) คือ Stablecoin ที่ประสบความสำเร็จและมีบทบาทมากที่สุดในตลาดคริปโตในปัจจุบันนี้ครับ
จากข้อมูลที่ผ่านมา USDT เป็น Stablecoin อันดับ 1 ที่มี ปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume) สูงที่สุดในโลกคริปโตครับ ส่วนแบ่งตลาดในกลุ่ม Stablecoin เคยสูงถึง 70% เลยทีเดียว และในปี 2019 เคยมีช่วงที่ปริมาณการซื้อขาย USDT ทั่วโลก แซงหน้าปริมาณการซื้อขายของ Bitcoin เสียอีกครับ นี่แสดงให้เห็นว่านักลงทุนและนักเก็งกำไรจำนวนมหาศาล ใช้ USDT เป็นเครื่องมือในการเข้าๆ ออกๆ ระหว่างตลาดคริปโตที่ผันผวน กับการ “พักเงิน” ไว้ในสินทรัพย์ที่มีค่าคงที่กว่า
ในแง่ของ มูลค่าตลาด (Market Capitalization) หรือมูลค่ารวมของเหรียญ USDT ทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ ตอนนี้ USDT ก็ติดอันดับ Top 3 ของคริปโตเคอร์เรนซีทั้งหมดในโลกครับ จากข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2024 มีอุปทานหมุนเวียน (Circulating Supply) มากกว่า 7 หมื่นล้านเหรียญ และมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 114 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ และที่น่าทึ่งคือมีผู้ใช้งาน USDT ทั่วโลกมากกว่า 350 ล้านคนแล้ว (ข้อมูล ก.ค. 2024) ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันสถานะความเป็น “เจ้าตลาด Stablecoin” ของ USDT ได้เป็นอย่างดีครับ
มาดู “งบดุล” ฉบับย่อของ Tether กัน (ข้อมูล 1 ส.ค. 2024)
ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องเงินสำรองแล้ว มาดูข้อมูลทางการเงินล่าสุดที่ Tether เปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2024 กันหน่อยครับ ตัวเลขพวกนี้เป็นตัวเลขที่สำคัญต่อความน่าเชื่อถือของ usdt ราคา มากครับ
* เงินสำรองรวม (Total Reserves): 118.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
* เงินสำรองส่วนเกิน (Excess Reserves): 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (อันนี้คือส่วนที่สำรองไว้ *เกิน* กว่าจำนวน USDT ที่ออกไปในตลาด แสดงถึงความแข็งแกร่ง)
* กำไรสุทธิครึ่งแรกปี 2024 (Net Profit H1 2024): 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เยอะมาก!)
* ส่วนของผู้ถือหุ้นสุทธิ (Net Equity): 11.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตัวเลขเหล่านี้ ถ้าดูเผินๆ ถือว่าแข็งแกร่งมากนะครับ โดยเฉพาะส่วนของเงินสำรองรวมที่มากกว่ามูลค่าตลาดของ USDT ที่หมุนเวียนอยู่ (ซึ่งก็ประมาณ 114 พันล้านดอลลาร์ในขณะนั้น) และยังมีเงินสำรองส่วนเกินอีกกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ทำให้หลายคนมองว่าสถานะทางการเงินของ Tether ดูมั่นคงขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีตครับ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ารายละเอียดของสินทรัพย์ที่ใช้สำรองนั้นเป็นอะไรบ้าง ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาต่อไป
USDT กับเงินบาทไทย: คนละเรื่องเดียวกัน?
ทีนี้ลองหันมาดูสกุลเงินที่ใกล้ตัวเราที่สุดอย่าง เงินบาทไทย กันบ้างครับ เงินบาทเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการของประเทศไทย ออกโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย เหมือนเงินของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกครับ มีหน่วยย่อยเป็นสตางค์ (100 สตางค์ = 1 บาท)
ที่น่าสนใจคือ มีข้อมูลจากระบบ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication) ซึ่งเป็นระบบรับส่งข้อมูลการชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก จัดอันดับให้เงินบาทไทย เป็นสกุลเงินที่มีการใช้งานในการชำระเงินทั่วโลกมากที่สุด เป็นอันดับที่ 10 เมื่อเดือนธันวาคม 2023 ครับ ถือเป็นอันดับที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียวสำหรับสกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนาอย่างเรา
แต่ถามว่า USDT มีผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจไทย หรือ usdt ราคา มีผลโดยตรงกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทกับดอลลาร์แค่ไหน? จากข้อมูลที่เรามีตอนนี้ บอกได้ว่า *ยังไม่มีข้อมูลที่ชี้ถึงผลกระทบโดยตรงที่มีนัยสำคัญ* ครับ USDT คือสกุลเงินดิจิทัลที่พยายามตรึงค่ากับดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้เป็นเครื่องมือในโลกคริปโตเป็นหลัก ส่วนเงินบาทไทยก็เป็นสกุลเงิน Fiat ที่ใช้ในระบบเศรษฐกิจจริงของประเทศไทยครับ แม้จะมีคนไทยจำนวนมากใช้ USDT เพื่อซื้อขายคริปโต แต่ปริมาณการใช้งาน USDT ก็ยังถือว่าเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณเงินบาทที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจริงๆ ครับ
ดังนั้น การที่คนไทยใช้ USDT เยอะขึ้น อาจจะส่งผลทางอ้อมต่อความต้องการเงินบาทเพื่อนำไปแลกเป็น USDT หรือกลับกัน แต่ไม่ได้หมายความว่า usdt ราคา จะมีผลโดยตรงต่ออัตราแลกเปลี่ยน USD/THB หรือต่อเสถียรภาพของเงินบาทครับ
ซื้อ USDT ที่ไหน? และสัญญาณทางเทคนิคบอกอะไร?
สำหรับใครที่สนใจอยากจะลองใช้ USDT หรือมีอยู่แล้ว อยากรู้ว่าจะซื้อขายได้ที่ไหน? ปัจจุบัน USDT มีสภาพคล่องสูงมากครับ หาซื้อได้ตามกระดานเทรดคริปโตชั้นนำทั่วโลกเลยครับ อย่างกระดานเทรดใหญ่ๆ ที่คนไทยนิยมใช้ อย่าง Binance (ไบแนนซ์) หรือกระดานเทรดอื่นๆ ก็มักจะมีคู่ซื้อขาย USDT ให้เลือกหลากหลายครับ
ส่วนในมุมของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งปกติเราจะใช้ดูกราฟราคาเพื่อคาดการณ์แนวโน้ม อันนี้อาจจะดูตลกหน่อยสำหรับ Stablecoin ครับ เพราะเป้าหมายของมันคือ usdt ราคา ต้องนิ่งอยู่แถวๆ 1 ดอลลาร์ แต่กระนั้น ก็ยังมีเครื่องมือทางเทคนิคบางตัวที่สามารถให้สัญญาณเล็กๆ น้อยๆ ได้ครับ จากข้อมูลเบื้องต้นที่เห็นมา:
* สัญญาณจาก Oscillators (เครื่องมือวัดโมเมนตัม/แรงซื้อแรงขาย): โดยรวมๆ ออกมาเป็นกลางๆ ครับ แสดงว่ามีทั้งแรงซื้อและแรงขายที่พยายามจะดันให้ราคาไปทางใดทางหนึ่ง แต่มันก็ถูกดึงกลับมาที่ 1 ดอลลาร์ตลอด
* สัญญาณจาก ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages): โดยรวมๆ ก็ออกมาเป็นกลางเหมือนกันครับ บางช่วงอาจจะเห็นสัญญาณ “ขาย” ในระยะสั้นๆ หรือ “ซื้อ” ในระยะยาวหน่อยๆ
* ภาพรวมเรตติ้งทางเทคนิค: บางแหล่งอาจจะให้เรตติ้ง “ขาย” ในภาพรวมรายวันหรือรายสัปดาห์ แต่ให้ “ซื้อ” ในภาพรวมรายเดือน
สัญญาณพวกนี้จริงๆ แล้วไม่ได้สำคัญมากสำหรับคนที่ใช้ USDT แค่เป็นที่พักเงิน เพราะเป้าหมายคือ usdt ราคา นิ่งๆ ครับ แต่สำหรับคนที่เทรดเก็งกำไรจากความผันผวนเล็กๆ น้อยๆ ของ usdt ราคา ที่อาจจะแกว่งไปมาระหว่าง 0.99-1.01 ดอลลาร์ สัญญาณพวกนี้ก็อาจจะมีประโยชน์บ้างครับ
สรุป: USDT ยังเป็นหัวใจหลักของโลก Stablecoin แต่ต้องระวังเรื่อง “ไส้ใน”
จากที่เล่ามาทั้งหมด จะเห็นว่า Tether (USDT) เป็นเหรียญ Stablecoin ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในตลาดคริปโตครับ เป็นเหมือน “ดอลลาร์ดิจิทัล” ที่ช่วยลดความยุ่งยากในการเข้าออกตลาดคริปโต และเป็นที่พักเงินชั้นดีเวลาที่ตลาดผันผวน ด้วยปริมาณการซื้อขายที่สูงลิ่ว มูลค่าตลาดมหาศาล และจำนวนผู้ใช้ทั่วโลก ทำให้ USDT ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับใครก็ตามที่ต้องการ Stablecoin ครับ usdt ราคา ที่พยายามรักษาเสถียรภาพไว้ได้ ถือเป็นจุดแข็งที่สุดของมัน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่อง “ไส้ใน” ของเงินสำรองที่ใช้หนุนมูลค่าของ USDT ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาครับ แม้ตัวเลขทางการเงินล่าสุดจะดูแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่ความโปร่งใสและรายละเอียดของสินทรัพย์ที่ใช้สำรอง ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ Tether Limited ต้องพยายามสื่อสารกับตลาดให้ชัดเจนและน่าเชื่อถือยิ่งกว่านี้ครับ เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้นจริงๆ ไม่ใช่แค่ผู้ใช้ USDT ที่ได้รับผลกระทบ แต่ความเชื่อมั่นในโลก Stablecoin โดยรวมก็จะสั่นคลอนไปด้วยครับ

ข้อคิดและคำแนะนำสำหรับนักลงทุนและผู้สนใจ:
ถ้าคุณกำลังคิดจะใช้ USDT หรือใช้อยู่แล้ว นี่คือข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ครับ:
1. เข้าใจวัตถุประสงค์: ใช้ USDT เพื่ออะไร? ถ้าใช้เป็นที่พักเงินชั่วคราว เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อคริปโตอื่น หรือใช้เพื่อโอนย้ายเงินระหว่างกระดานเทรด มันเป็นเครื่องมือที่ดีครับ เพราะ usdt ราคา ค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับ USD และสภาพคล่องสูง
2. ตระหนักถึงความเสี่ยง: แม้ว่า usdt ราคา จะพยายามตรึงกับ USD แต่ก็มีโอกาสที่จะหลุดได้ครับ โดยเฉพาะถ้ามีข่าวร้ายเกี่ยวกับบริษัท Tether หรือเกิดเหตุการณ์ Black Swan ในตลาดคริปโต การที่เงินสำรองอาจไม่ได้เป็นเงินสด 100% ก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องรับทราบครับ
3. พิจารณาทางเลือกอื่น: USDT ไม่ใช่ Stablecoin เดียวในตลาดครับ ยังมี Stablecoin อื่นๆ ที่มีหลักการทำงานและบริษัทผู้ออกที่แตกต่างกันไป เช่น USDC (ออกโดย Circle และ Coinbase ซึ่งมักถูกมองว่ามีความโปร่งใสเรื่องเงินสำรองมากกว่า) หรือ BUSD (อดีต Stablecoin ของ Binance ที่ตอนนี้กำลังทยอยเลิกใช้) หรือ Stablecoin อื่นๆ ที่ตรึงกับสกุลเงินอื่น เช่น EURT (ตรึงกับยูโร) ลองศึกษาเปรียบเทียบดูครับ
4. อย่าเก็บ USDT ไว้เป็นเงินออมระยะยาวจำนวนมาก: แม้ usdt ราคา จะค่อนข้างคงที่ แต่การถือ USDT จำนวนมหาศาลไว้เป็นเงินออมระยะยาว อาจไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีที่สุดครับ เพราะนอกจากความเสี่ยงเรื่องเงินสำรองแล้ว ยังมีความเสี่ยงด้านกฎหมายข้อบังคับในอนาคต และการถือ Stablecoin ไว้เฉยๆ ก็ไม่ได้สร้างผลตอบแทนเหมือนการฝากธนาคาร หรือการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ครับ
5. ติดตามข่าวสาร: ประเด็นเรื่องกฎระเบียบและความโปร่งใสของ Stablecoin เป็นเรื่องที่กำลังถูกจับตามองทั่วโลกครับ การติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ Tether และ Stablecoin อื่นๆ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นครับ
⚠️ คำเตือนความเสี่ยง: การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี รวมถึง Stablecoin เช่น USDT มีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ไม่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มีความเข้าใจในกลไกและความเสี่ยงของมัน usdt ราคา แม้จะพยายามตรึงค่า แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถรักษามูลค่าเทียบเท่า 1 ดอลลาร์สหรัฐได้เสมอไป ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน หรือใช้เป็นเครื่องมือทางการเงิน
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจเจ้าเหรียญ USDT หรือ Tether และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้นนะครับ จำไว้เสมอว่าในโลกคริปโต ความรู้คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าครับ!