คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

ความรู้คริปโตและวิเคราะห์ราคา

TRC20 คืออะไร? ทำไมค่าธรรมเนียมถูกกว่า เร็วกว่า และใครๆ ก็ใช้!

เคยไหมครับ เวลาจะโอนคริปโทเคอร์เรนซีให้เพื่อน หรือจะถอนเงินออกจากเว็บเทรด แล้วต้องมานั่งปาดเหงื่อกับ ‘ค่าธรรมเนียม’ ที่แพงหูฉี่ แถมบางทียังต้องรอนานเป็นสิบๆ นาที จนจังหวะการลงทุนหายไปหมด? ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ในโลกคริปโทฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว แต่บางทีก็มีมุมที่ทำให้เราหงุดหงิดได้เหมือนกัน

ในโลกคริปโทฯ ที่หมุนเร็วปานสายฟ้า ก็มีวิธีที่ ‘เร็วกว่า’ และ ‘ถูกกว่า’ ซ่อนอยู่ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเหรียญประเภท Stablecoin (สเตเบิลคอยน์) อย่าง USDT (ทีเธอร์) วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับมาตรฐานเหรียญตัวหนึ่งที่หลายคนอาจเคยผ่านตา หรือใช้บริการอยู่แล้ว นั่นก็คือ TRC20 คือ อะไร มีดีตรงไหน และทำไมถึงได้รับความนิยมจนบางครั้งแซงหน้ามาตรฐานรุ่นพี่ไปได้

เอาแบบง่ายๆ เลยนะครับ TRC20 คือ มาตรฐานของ ‘โทเค็น’ (Token) ที่ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ชื่อ ‘TRON’ (ทรอน) ครับ ถ้าจะให้เห็นภาพ มาตรฐานโทเค็นก็เปรียบเสมือน ‘พิมพ์เขียว’ หรือ ‘ชุดกฎ’ ที่นักพัฒนาใช้ในการสร้างเหรียญดิจิทัลขึ้นมาบนเครือข่ายบล็อกเชนนั้นๆ การมีมาตรฐานนี้ทำให้เหรียญที่สร้างขึ้นมาสามารถทำงานร่วมกับกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) หรือแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (DApp) บนเครือข่ายเดียวกันได้อย่างราบรื่น เหมือนการสร้างปลั๊กไฟที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันถึงจะเสียบใช้งานได้

มาตรฐานโทเค็นยอดฮิตที่เราได้ยินบ่อยๆ ก็เช่น ERC-20 บน Ethereum (อีเธอเรียม) หรือ BEP-20 บน Binance Smart Chain (ไบแนนซ์ สมาร์ทเชน) ซึ่งแต่ละมาตรฐานก็อยู่บนเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเอง และ TRC20 คือ มาตรฐานที่อยู่บนเครือข่าย TRON ที่เป็นบ้านของมันนั่นเอง

ก่อนจะลงลึกเรื่อง TRC20 คือ อะไรแบบเจาะจง เราต้องเข้าใจ ‘บ้าน’ ของมันก่อนครับ บ้านหลังนี้ชื่อว่า TRON สร้างขึ้นโดยคุณ Justin Sun (จัสติน ซัน) โดยมีเป้าหมายที่น่าสนใจคือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตแบบกระจายอำนาจ ที่ช่วยให้ผู้คนทั่วโลกสามารถสร้างสรรค์ จัดเก็บ หรือแชร์คอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างอิสระและไร้ข้อจำกัด เหมือนเป็นแพลตฟอร์มเปิดให้ผู้พัฒนาเข้ามาสร้าง DApp และเก็บข้อมูลได้ไม่อั้น ซึ่ง TRC20 คือ มาตรฐานโทเค็นที่ถูกพัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่แข็งแกร่งและมุ่งเน้นประสิทธิภาพของ TRON นี่แหละครับ

แล้วอะไรที่ทำให้ TRC20 คือ ตัวเลือกที่น่าสนใจล่ะครับ? จุดเด่นสุดๆ ที่ทำให้ TRC20 คือ มาตรฐานที่โดดเด่นขึ้นมาก็คือเรื่อง ‘ค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่ามาก’ และ ‘ความเร็วในการทำธุรกรรมที่เร็วกว่า’ เมื่อเทียบกับมาตรฐานรุ่นพี่อย่าง ERC20 บน Ethereum ที่เป็นที่นิยมมาก่อนหน้านี้ ความแตกต่างเรื่องค่าธรรมเนเนียมนี้เห็นภาพชัดมากๆ เวลาที่เราต้องทำธุรกรรมโอนเหรียญ Stablecoin อย่าง USDT ครับ

เคยมีข้อมูลจากเว็บเทรด Satang Pro (สตางค์ โปร) ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ เลยว่า ในช่วงเวลาที่เครือข่าย Ethereum มีคนใช้งานหนาแน่น การโอน USDT ผ่านเครือข่าย ERC20 อาจมีค่าธรรมเนียม Gas (ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม) สูงถึง 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 500 บาท) ในขณะที่การโอน USDT ผ่านเครือข่าย TRC20 คือ ค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าแบบเทียบไม่ติด อาจจะแค่ประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 30 กว่าบาท) หรือบางช่วงที่เครือข่ายไม่หนาแน่น ค่าธรรมเนียมบน TRON ก็อาจจะถูกกว่านั้นมาก หรือบางทีก็เกือบจะฟรีเลยด้วยซ้ำไปครับ ความแตกต่างนี้มหาศาลมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการโอนเหรียญจำนวนไม่มากแต่โอนบ่อยๆ ค่าธรรมเนียมที่ถูกลงช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลย

นอกจากเรื่องค่าธรรมเนียมกับความเร็วที่เหนือกว่า TRC20 คือ มาตรฐานที่รองรับ Smart Contract (สัญญาอัจฉริยะ) ทำให้การสร้างและจัดการโทเค็นบนเครือข่าย TRON ทำได้อย่างอัตโนมัติ ปลอดภัย และเชื่อถือได้โดยไม่ต้องมีคนกลางมาควบคุม นักพัฒนาสามารถกำหนดฟังก์ชันพื้นฐานของโทเค็นได้ง่ายๆ ผ่าน Smart Contract นี้ครับ

ถึงแม้จะอยู่คนละบ้านกับ ERC20 แต่ TRC20 ก็ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานร่วมกันได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่างๆ ที่รองรับทั้งสองเครือข่าย นอกจากนี้ โทเค็นที่สร้างตามมาตรฐาน TRC20 คือ โทเค็นประเภท Fungible Token (โทเค็นที่เปลี่ยนแทนกันได้) แปลว่าแต่ละหน่วยของเหรียญนั้นมีค่าเท่ากันและสามารถใช้แทนกันได้เหมือนธนบัตรที่เราใช้ในชีวิตประจำวันครับ และยังมีความ ‘สภาพคล่อง’ (Liquidity) สูง ทำให้หาคนซื้อคนขายได้ง่ายในตลาดคริปโทฯ

พูดถึง TRC20 คือ อะไร จะไม่พูดถึง USDT ไม่ได้เลยครับ เพราะนี่คือหนึ่งใน ‘ดาวเด่น’ ที่ใช้มาตรฐานนี้ และเป็นตัวอย่างที่ทำให้หลายคนหันมาสนใจ TRC20 คือ อะไรกันแน่ USDT หรือ Tether เป็นเหรียญ Stablecoin ที่ถูกสร้างมาให้มีมูลค่าตรึงอยู่กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ในอัตรา 1:1 เพื่อแก้ปัญหาเรื่อง ‘ความผันผวน’ รุนแรงของเหรียญคริปโทฯ ทั่วไป ทำให้มันเป็นเหมือน ‘สะพาน’ เชื่อมระหว่างโลกของเงิน Fiat (เงินตราทั่วไป เช่น ดอลลาร์, บาท) กับโลกของคริปโทฯ ครับ USDT ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายเพื่อรักษามูลค่า ลดความเสี่ยงจากความผันผวน ใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายคริปโทฯ อื่นๆ หรือแม้แต่ใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศ

USDT เริ่มต้นจากเครือข่าย Bitcoin (ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Omni Layer) จากนั้นก็มาฮิตมากๆ บน Ethereum (ในรูปแบบ USDT-ERC20) และต่อมาก็ได้ขยายมาบนเครือข่าย TRON ในชื่อ USDT-TRC20 ครับ สาเหตุหลักที่ทำให้ USDT-TRC20 ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วก็คือ ‘ค่าธรรมเนียม Gas’ ที่ถูกกว่า USDT-ERC20 มากๆ และความเร็วในการยืนยันธุรกรรมที่ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีบนเครือข่าย TRON ที่มี Transaction Per Second (TPS) สูงกว่ามาก ทำให้การโอน USDT-TRC20 เหมาะกับการโอนเงินบ่อยๆ หรือจำนวนไม่มากที่ต้องการความรวดเร็ว

ลองเปรียบเทียบ USDT บน 3 เครือข่ายหลักให้เห็นภาพชัดๆ ครับ
* **USDT บนเครือข่าย OMNI (Bitcoin):** ปลอดภัยสุดๆ เพราะอยู่บนบล็อกเชน Bitcoin แต่ค่าธรรมเนียมแพงและช้าสุดๆ เหมาะกับการโอนเงินก้อนใหญ่มากๆ ที่เน้นความปลอดภัยสูงสุดเท่านั้น
* **USDT บนเครือข่าย ERC20 (Ethereum):** มีความสมดุลระหว่างค่าธรรมเนียมกับความเร็ว มีแอปพลิเคชันและกระเป๋าเงินรองรับเยอะมาก เป็นที่นิยมมานาน แต่อาจมีค่าธรรมเนียมสูงในช่วงที่เครือข่ายมีคนใช้งานเยอะ
* **USDT บนเครือข่าย TRC20 (TRON):** เป็นตัวเลือกที่ ‘ถูก’ และ ‘เร็ว’ ที่สุดในบรรดาสามตัวนี้ เหมาะกับคนที่ต้องการโอนเงินบ่อยๆ หรือจำนวนไม่มาก และต้องการความรวดเร็ว ประหยัดค่าธรรมเนียมได้เยอะ

เคยมีช่วงที่ปริมาณการหมุนเวียนของ USDT-TRC20 แซงหน้า USDT-ERC20 ด้วยนะครับ นั่นสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมอย่างก้าวกระโดดของมาตรฐานนี้ แม้แต่ความน่าเชื่อถือของ USDT เอง Tether ก็มีการตรวจสอบทุนสำรองที่หนุนหลังมูลค่าเหรียญอย่างสม่ำเสมอ และสำหรับ TRC20 เราก็สามารถตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมต่างๆ ได้บนบล็อกเชนแบบสาธารณะเลยครับ

แล้วถ้าเราอยากใช้ TRC20 คือ ต้องทำยังไงบ้าง? ส่วนใหญ่แล้ว เราจะเจอตัวเลือก TRC20 คือ ตัวเลือกที่เราต้องเลือกเวลาที่เราต้องการ ฝาก (Deposit) หรือ ถอน (Withdraw) เหรียญคริปโทฯ ที่รองรับ เช่น USDT, TRX, BTT, WIN บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่างๆ ครับ กฎเหล็กสำคัญสุดๆ ในการใช้ TRC20 คือ คุณต้องเลือก ‘โปรโตคอล’ หรือ ‘เครือข่าย’ ให้ตรงกันทั้งที่ต้นทาง (Wallet หรือ Exchange ที่จะส่ง) และปลายทาง (Wallet หรือ Exchange ที่จะรับ) ครับ

Address (ที่อยู่) ของ TRC20 จะมีรูปแบบเฉพาะของตัวเอง ต่างจาก Address ของ ERC20 (ที่มักจะขึ้นต้นด้วย 0x) Address ของ TRC20 ส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วยตัวอักษร T ครับ ถ้าคุณส่งเหรียญ TRC20 ไปยัง Address ที่เป็น ERC20 หรือในทางกลับกัน เงินของคุณอาจ ‘หายไปตลอดกาล’ ครับ เรื่องนี้ต้องเน้นย้ำมากๆ ว่า ‘ตรวจสอบให้ชัวร์’ ทั้งชนิดเหรียญและเครือข่ายก่อนกดโอนทุกครั้ง ไม่ว่าจะโอนผ่าน Exchange ไหนก็ตาม

คุณสามารถใช้กระเป๋าเงินดิจิทัล (Crypto Wallet) ที่รองรับมาตรฐาน TRC20 คือ ได้โดยตรง เพื่อสร้าง, นำเข้า, โอน หรือแม้แต่แลกเปลี่ยน (Swap) โทเค็น TRC20 ได้ ปัจจุบันมีหลาย Wallet ที่รองรับเครือข่าย TRON และมาตรฐาน TRC20 ครับ ส่วนการซื้อ USDT-TRC20 คุณสามารถซื้อได้ด้วยเงินบาท หรือคริปโทฯ อื่นๆ ผ่านเว็บเทรดต่างๆ ได้เลย เพียงแค่ตอนที่คุณต้องการจะนำเหรียญออกจากเว็บเทรดหรือฝากเข้าไป ให้เลือกเครือข่ายเป็น TRC20 ครับ

ก่อนจะจากกัน ขอเตือนย้ำอีกครั้งในเรื่อง ‘ข้อควรระวัง’ ที่สำคัญมากๆ ครับ เมื่อคุณเห็น Address ที่ระบุว่าเป็นเครือข่าย TRC20 (ส่วนใหญ่จะขึ้นต้นด้วยตัว T) โปรดจำไว้เสมอว่า ควรส่งเฉพาะเหรียญที่ถูกสร้างบนเครือข่าย TRON ที่รองรับมาตรฐาน TRC20 เท่านั้น! เหรียญหลักๆ ที่นิยมบน TRON คือ USDT, TRX, BTT, WIN

การพยายามส่งเหรียญอื่นๆ เช่น Bitcoin (บิตคอยน์) ที่อยู่บนเครือข่าย Bitcoin หรือ Ethereum (อีเธอเรียม) ที่ปกติอยู่บนเครือข่าย Ethereum ไปยัง Address TRC20 นั้น ‘ไม่ได้’ ครับ เพราะมันเหมือนการส่งจดหมายผิดที่อยู่ผิดประเทศ ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่เหรียญของคุณจะสูญหายไปในโลกดิจิทัลอย่างถาวร ไม่มีใครสามารถกู้คืนให้คุณได้ ตรวจสอบให้แน่ใจ ‘เสมอ’ ทั้งชนิดเหรียญและเครือข่ายก่อนกดโอนนะครับ กฎนี้ใช้ได้กับทุกเครือข่าย ไม่ใช่แค่ TRC20 เท่านั้นครับ

สรุปง่ายๆ ว่า TRC20 คือ อีกหนึ่งมาตรฐานสำคัญในโลกคริปโทฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการโอนเหรียญ Stablecoin อย่าง USDT ด้วย ‘ต้นทุนที่ต่ำ’ และ ‘ความรวดเร็ว’ ที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง ERC20 ในหลายๆ สถานการณ์ มันเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถย้ายเงินดิจิทัลไปมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดภาระค่าธรรมเนียมที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะในการทำธุรกรรมย่อยๆ หรือการโอนข้ามแพลตฟอร์มที่ต้องการความรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม แม้ TRC20 คือ ทางเลือกที่น่าสนใจและมีประโยชน์ แต่อย่าลืมกฎเหล็กข้อสุดท้ายที่เราคุยกันนะครับ ‘ตรวจสอบให้ชัวร์’ ทั้งชนิดเหรียญและ Address รวมถึงเลือกเครือข่ายให้ถูกต้องก่อนกดโอนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินดิจิทัลของคุณครับ การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอครับ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ TRC20 คือ อะไรมากขึ้น และนำไปปรับใช้กับการทำธุรกรรมคริปโทฯ ของคุณได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยนะครับ!

LEAVE A RESPONSE