
เพื่อนสนิทผมคนหนึ่งชื่อ ‘เอ’ เพิ่งจะเริ่มสนใจโลกคริปโตครับ วันก่อนมาถามผมใหญ่เลยว่า “พี่ๆ ได้ยินชื่อ KuCoin ไหม? เขาว่ากันว่าเป็นกระดานเทรดใหญ่ระดับโลกเลยนะ แล้วไอ้ kucoin คือ อะไรเหรอพี่?” คำถามนี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวของ KuCoin ที่ตอนนี้ใกล้ตัวคนไทยมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ
เอาแบบง่ายๆ เลยนะ kucoin คือ หนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘กระดานเทรดคริปโต’ ที่ใหญ่มากๆ ระดับโลกเลยแหละครับ ลองคิดดูสิ เขามีผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคนในกว่า 200 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกนะ! ปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันนี่มหาศาลมากๆ เคยทำสถิติสูงสุดถึงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน 24 ชั่วโมงก็มีมาแล้ว (อันนี้อิงตามข้อมูลบางช่วงเวลานะครับ) เหมือนเป็นห้างสรรพสินค้าคริปโตที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ แพลตฟอร์มนี้เขามีอะไรให้เทรดเยอะแยะไปหมด ทั้งแบบซื้อขายทันที (Spot), สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures), การซื้อขายโดยใช้เงินกู้ (Margin), มีแม้กระทั่งบอทช่วยเทรดให้เรา หรือจะเอาเหรียญไปฝากรับดอกเบี้ย (Staking/Lending) ก็ทำได้ ถือเป็นระบบนิเวศคริปโตที่ครบวงจรทีเดียวครับ
แล้ว kucoin คือ อะไรสำหรับคนไทยโดยตรงล่ะ? เรื่องนี้เริ่มน่าสนใจตรงที่ว่า แพลตฟอร์มนี้เขาได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อ KuCoin Thailand (บางทีก็เรียกว่า KuCoin TH) ซึ่งสำคัญมากๆ คือ เขาได้รับใบอนุญาตเป็น ‘ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล’ จากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมายครับ จำได้ไหมเมื่อก่อนมีกระดานเทรดชื่อ ERX? ใช่เลยครับ KuCoin Thailand นี่แหละคือการรีแบรนด์และพัฒนาต่อยอดมาจาก ERX เดิม โดยมีคุณอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ตอนนี้คนไทยสามารถเปิดบัญชีและเทรดคริปโตบนแพลตฟอร์มระดับโลกที่ปรับมาให้เข้ากับกฎเกณฑ์และบริบทของบ้านเราได้แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในบ้านเราที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐครับ

ทีนี้มาดูเรื่องที่นักเทรดหลายคนให้ความสำคัญมากๆ คือ ‘ของที่ให้เทรด’ กับ ‘ค่าธรรมเนียม’ กันบ้าง บนแพลตฟอร์ม kucoin คือ มีเหรียญคริปโตให้เลือกซื้อขายเยอะมากๆ ครับ มากกว่า 940 สกุลเลยทีเดียว คู่ซื้อขายก็เยอะตามไปด้วย (กว่า 1,261 คู่) เรียกว่าถ้าคุณมองหาเหรียญใหม่ๆ หรือเหรียญที่มีสภาพคล่องสูงๆ ที่นี่ก็มีตัวเลือกเพียบเลย สมมติคุณอยากลองลงทุนในเหรียญน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาด การที่มีตัวเลือกเยอะๆ แบบนี้ก็ช่วยให้คุณเข้าถึงโอกาสได้เร็วขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปหาแพลตฟอร์มอื่นที่อาจจะยังไม่ได้ใบอนุญาตในไทย ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมเทรด Spot (ซื้อขายทันที) ก็ถือว่าค่อนข้างแข่งขันได้ในตลาดครับ เริ่มต้นแค่ 0.1% เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าคุณเทรดเยอะขึ้น หรือถือเหรียญ KCS (เหรียญประจำแพลตฟอร์ม KuCoin) ค่าธรรมเนียมก็จะลดลงไปอีก ส่วนการซื้อคริปโตด้วยเงินบาทผ่าน P2P (ซื้อขายตรงกับคนอื่น) ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างกันไปตามวิธีชำระเงิน ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 3-6% ครับ การใช้งานแพลตฟอร์มก็พยายามทำให้เข้าใจง่าย เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ มีเครื่องมือที่หลากหลายให้เลือกใช้ เหมือนมีกล่องเครื่องมือการลงทุนคริปโตครบเซ็ตให้เราเลือกใช้ตามความถนัด
แต่เหรียญย่อมมีสองด้านครับ แม้ kucoin คือ แพลตฟอร์มระดับโลกที่ใหญ่และมีนวัตกรรม แต่ก็เคยเจอเรื่องท้าทายใหญ่ๆ เหมือนกันครับ โดยเฉพาะประเด็นด้านกฎระเบียบในต่างประเทศ ยกตัวอย่างข่าวใหญ่เมื่อช่วงต้นปี 2024 (อิงตามข้อมูลประมาณเดือน มี.ค. 2567) ทางกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา (DOJ) ได้มีการดำเนินคดีกับ KuCoin ในระดับสากลในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และส่งผลให้มีการเรียกค่าปรับจำนวนมหาศาลถึง 297 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้งานบางส่วนเกิดความกังวล และมีการถอนสินทรัพย์ออกจากแพลตฟอร์มจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ (มีรายงานว่าสูงถึงประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในบางเหรียญ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญอย่าง USDT, ETH หรือ ONDO) ตรงนี้ต้องย้ำชัดๆ นะครับว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ KuCoin ในระดับสากล *ซึ่งมีความแตกต่าง* กับ KuCoin Thailand ที่ดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวดของ ก.ล.ต. ไทย และได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Compliance) และมาตรการยืนยันตัวตน (KYC – Know Your Customer) เพื่อป้องกันการฟอกเงิน (AML – Anti-Money Laundering) เป็นเรื่องสำคัญมากๆ สำหรับแพลตฟอร์มทุกแห่ง และเป็นสิ่งที่ KuCoin ทั่วโลกต้องเร่งพัฒนาและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เหมือนเวลาเราเลือกธนาคาร เราก็ต้องดูว่าธนาคารนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยไหม ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เข้มงวดแค่ไหน เพื่อความปลอดภัยของเงินเราเองครับ การที่แพลตฟอร์มในไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ทำให้มีกลไกการคุ้มครองนักลงทุนในระดับหนึ่ง ตามที่กฎหมายไทยกำหนด

เรื่องความปลอดภัยก็เป็นหัวใจสำคัญในการเลือกกระดานเทรดครับ KuCoin มีมาตรการรักษาความปลอดภัยหลายชั้น (อธิบายง่ายๆ เช่น การยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน, การเก็บสินทรัพย์ในกระเป๋าแบบออฟไลน์ที่ปลอดภัยกว่า) และมีประวัติการระดมทุนจากนักลงทุนใหญ่ๆ (เช่น IDG Capital, Matrix Partners) ซึ่งแสดงถึงความน่าเชื่อถือในแง่ของการสนับสนุนจากภายนอก แม้จะมีช่วงที่โดนข่าวเชิงลบและมีการถอนเงินออกไป แต่แพลตฟอร์มก็ยังสามารถดำเนินงานได้ (อ้างอิงข้อมูลช่วง มี.ค. 2567 สินทรัพย์ที่คงเหลือก็ยังมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) แสดงให้เห็นถึงขนาดของสินทรัพย์ที่แพลตฟอร์มบริหารจัดการอยู่ สำหรับคนไทย การที่ KuCoin Thailand ได้รับใบอนุญาตและอยู่ภายใต้การดูแลของ ก.ล.ต. ถือเป็นจุดสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้มากขึ้นครับ อย่างน้อยก็รู้ว่ามีหน่วยงานภาครัฐของไทยคอยกำกับดูแลอยู่
สรุปง่ายๆ เลยนะ kucoin คือ กระดานเทรดคริปโตระดับโลกที่มีขนาดใหญ่ มีเครื่องมือหลากหลาย และมีตัวเลือกเหรียญเยอะมาก ที่สำคัญคือ ตอนนี้เขามี KuCoin Thailand ที่เข้ามาดำเนินงานอย่างถูกกฎหมายและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ไทย แล้ว ซึ่งนี่คือจุดสำคัญที่นักลงทุนไทยควรพิจารณา อย่างไรก็ตาม โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลยังมีความผันผวนสูง และมีความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งความเสี่ยงด้านราคาที่ขึ้นลงรุนแรงได้ในเวลาอันสั้น ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่อาจเปลี่ยนแปลง และความเสี่ยงที่เกี่ยวกับตัวแพลตฟอร์มเอง แม้ KuCoin Thailand จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแล แต่การตัดสินใจลงทุนก็ยังเป็นความรับผิดชอบของตัวคุณเองครับ คำแนะนำสุดท้ายจากผมนักเขียนคอลัมน์การเงินง่ายๆ สไตล์เพื่อนเล่าสู่กันฟัง คือ ก่อนจะตัดสินใจใช้บริการแพลตฟอร์มไหนก็ตาม รวมถึง KuCoin Thailand ด้วยนะ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ ความเสี่ยง และที่สำคัญมากๆ คือ ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. อย่างเป็นทางการก่อนเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณกำลังเทรดอยู่บนแพลตฟอร์มที่ถูกกฎหมายและปลอดภัยในประเทศไทยครับ
⚠️ โปรดศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งจำนวน