สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามคอลัมน์ “การเงินเป็นเรื่องใกล้ตัว” ของผม ผู้เขียนเองก็ต้องยอมรับว่าช่วงนี้ไปไหนมาไหน มักจะมีเพื่อนฝูงถามไถ่กันบ่อย ๆ ถึงเรื่องของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะเหรียญหมาหน้าตาซื่อบื้อที่ชื่อว่า “ดอจคอยน์” (Dogecoin) ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนใน `dogecoin ข่าว` อยู่ตลอดเวลา บางคนถึงกับเปรียบเทียบว่าเหมือนหุ้นสามัญประจำบ้าน ที่คนธรรมดาก็อยากมีไว้ในพอร์ตบ้าง เพราะได้ยินแต่เรื่องราวราคาพุ่งกระฉูดในอดีต แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่? วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่า เจ้าเหรียญมีมตัวพ่อตัวนี้ ยังน่าสนใจอยู่หรือเปล่า แล้วสถานะปัจจุบันของมันเป็นยังไงในตลาดคริปโทฯ ที่แสนผันผวนแห่งนี้

**จากเหรียญมีมสู่ดาวเด่นที่ราคาแกว่งราวลูกตุ้มนาฬิกา**

ดอจคอยน์ (Dogecoin) เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2556 จากการเป็นแค่ “เหรียญมีม” (Meme Coin) ขำ ๆ ที่สร้างขึ้นมาล้อเลียนความบ้าคลั่งของตลาดคริปโทฯ ในยุคนั้น แต่ใครจะคิดว่าวันหนึ่งมันจะกลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโทฯ ที่มีมูลค่าตลาดติดอันดับต้น ๆ ของโลก เรื่องราวของมันคล้ายกับนิทานที่เราเคยได้ยินว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสุนัขตัวหนึ่งวิ่งเล่นไปมาอยู่บนโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งมี “พ่อพระ” แห่งวงการเทคฯ อย่าง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มาให้ความสนใจ เปรียบเหมือนเติมน้ำมันจรวดเข้าไป ทำให้ราคาของดอจคอยน์พุ่งทะยานไม่หยุดหย่อนในช่วงปลายปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา จากประมาณ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแตะถึง 0.47 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว ซึ่งเป็นช่วงที่ `dogecoin ข่าว` ขึ้นหน้าหนึ่งแทบทุกฉบับ

อย่างไรก็ตาม ชีวิตก็เหมือนกราฟหุ้น มีขึ้นก็ต้องมีลงครับ หลังจากนั้นดอจคอยน์ก็ร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันดูเหมือนว่าอิทธิพลของอีลอน มัสก์ ต่อราคาดอจคอยน์จะลดน้อยลงไปมาก โพสต์ล่าสุดของเขาบนเอ็กซ์ (X หรือเดิมคือทวิตเตอร์) ก็ไม่ได้ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอีกต่อไปแล้ว แถมเขายังชนะคดีที่ถูกฟ้องร้องเกี่ยวกับการปั่นราคาด้วย โดยศาลระบุว่าข้อความของเขาเป็นเพียงแค่ “ความใฝ่ฝัน” (Aspiration) ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือ นี่คงเป็นบทเรียนให้เราเห็นว่า แม้แต่คนดังระดับโลกก็ไม่ได้มีอิทธิพลต่อตลาดได้ตลอดไป แรงหนุนจากคนดังอื่น ๆ อย่าง สนูป ด็อกก์ (Snoop Dogg) หรือ ลิล ยอคตี้ (Lil Yachty) ก็ดูเหมือนจะเป็นเพียงกระแสชั่วคราวเท่านั้น ทำให้ `dogecoin ข่าว` ในวันนี้มีมิติที่ซับซ้อนขึ้น

สำหรับแนวโน้มราคาของดอจคอยน์ ดูเหมือนจะมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ คือมักจะพุ่งขึ้นเมื่อราคาอยู่ใกล้ 0.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมักจะร่วงลงเมื่อถึงประมาณ 0.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากเปรียบเทียบก็เหมือนกับการที่รถยนต์คันหนึ่งมีเพดานความเร็วสูงสุดที่พอจะคาดเดาได้ หากคุณเป็นนักขับที่ชอบความตื่นเต้นและอยากลองเสี่ยงกับการเบิ้ลเครื่องในระยะสั้น ๆ ดอจคอยน์อาจจะตอบโจทย์ แต่ก็ต้องระวังโค้งอันตรายและเบรกให้ทัน เพราะความเสี่ยงที่ดอจคอยน์เผชิญนั้นก็มีไม่น้อย ทั้งการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้นจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. หรือ SEC) การแข่งขันจากเหรียญมีมรุ่นน้องอย่าง ชิบะอินุ (Shiba Inu) และดอว์จซ์ เอไอ (Dawgz AI) รวมถึงการขาดการพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเหรียญใหญ่ ๆ อย่างอีเธอเรียม (Ethereum) หรือโซลานา (Solana) แถมระบบอุปทานที่ไม่จำกัดของดอจคอยน์ก็อาจทำให้มูลค่าของมันลดลงในระยะยาวได้อีกด้วย พูดง่าย ๆ คือถ้าเป็นแก้วน้ำ ก็เป็นแก้วที่มีก้นรั่ว อาจรินน้ำได้ไม่เต็มแก้วในท้ายที่สุด

**เมื่อเหรียญมีมปะทะเหรียญใช้จริง: ใครจะอยู่ ใครจะไป?**

ในขณะที่ดอจคอยน์ยังคงโลดแล่นอยู่บนความผันผวนสูง ในตลาดคริปโทฯ ก็มีผู้เล่นอีกหลายรายที่น่าจับตามอง การทำความเข้าใจคู่แข่งและการเปรียบเทียบดอจคอยน์กับเหรียญอื่น ๆ จะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ดีขึ้น ลองมาดูคู่แข่งและเพื่อนร่วมวงการของดอจคอยน์กันครับ

หนึ่งในผู้ท้าชิงที่พยายามไล่ตามดอจคอยน์มาติด ๆ คือ ชิบะอินุ (Shiba Inu) หรือที่หลายคนเรียกว่า “นักฆ่าดอจคอยน์” มูลค่าตลาดของชิบะอินุอยู่ที่ประมาณ 6.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาอยู่ที่ประมาณ 0.00001181 ดอลลาร์สหรัฐฯ นักลงทุนหลายคนก็ยังคงฝันหวานว่าราคาจะไปถึง 0.00004 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากชิบะอินุสามารถแซงมูลค่าตลาดของดอจคอยน์ได้ ปริมาณการซื้อขายของชิบะอินุก็เพิ่มขึ้น 24.3% แสดงถึงแรงส่งที่อาจจะกลับมา ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของตลาดและความแข็งแกร่งของชุมชนผู้ใช้งาน เปรียบได้กับทีมฟุตบอลที่กำลังมีแฟนคลับหนุนหลังอย่างแข็งขันและกำลังพยายามไต่เต้าขึ้นสู่ลีกสูงสุด และ `dogecoin ข่าว` ก็มักจะถูกเปรียบเทียบกับชิบะอินุอยู่เสมอ

แต่ถ้าเราพูดถึงเหรียญที่มีประโยชน์ใช้สอยจริง ๆ จัง ๆ ที่ไม่ใช่แค่กระแส หนึ่งในนั้นก็คือ เอ็กซ์อาร์พี (XRP) ที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 1.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาประมาณ 2.26 ดอลลาร์สหรัฐฯ เอ็กซ์อาร์พีเป็นที่รู้จักกันดีในการนำไปใช้สำหรับการชำระเงินข้ามประเทศ ซึ่งตอบโจทย์ปัญหาจริง ๆ ในโลกการเงิน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดตัว Ethereum Virtual Machine (EVM) sidechain (เครือข่ายข้างเคียงของเครื่องเสมือนอีเธอเรียม) เพื่อลดค่าธรรมเนียมของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) และยังมีการเข้าซื้อกิจการ Hidden Road (ฮิดเดน โร้ด) เพื่อเพิ่มช่องทางให้นักลงทุนสถาบันสามารถกู้ยืมและชำระธุรกรรมได้โดยตรงบนบล็อกเชน (Blockchain) อีกด้วย เอ็กซ์อาร์พีจึงกำลังพัฒนาเครื่องมือสำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อดึงดูดธนาคารและผู้จัดการสินทรัพย์ให้เข้ามาใช้ประโยชน์ ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตสูงมาก หากสามารถดึงสินทรัพย์ในโลกจริงมาสู่บล็อกเชนได้ทั้งหมด การลงทุนในเอ็กซ์อาร์พีอาจสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว แต่ก็คงไม่ได้ทำให้คุณกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืนเหมือนฝันหวานที่เคยได้ยินจาก `dogecoin ข่าว` เมื่อครั้งที่ราคามันพุ่งกระฉูด

นอกจากนี้ ยังมีเหรียญที่มีประโยชน์ใช้สอยจริงอีกเหรียญที่น่าจับตาคือ เรมิตทิกซ์ (Remittix) ซึ่งเป็นโครงการเพย์ไฟ (Pay-Fi) ที่ช่วยให้สามารถส่งคริปโทเคอร์เรนซี อย่างบิตคอยน์ (Bitcoin) และอีเธอเรียม (Ethereum) ไปยังบัญชีธนาคารในรูปแบบเงินเฟียต (Fiat Money) ได้โดยตรง โครงการนี้ระดมทุนจากการระดมทุนรอบแรกได้กว่า 15.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเปิดตัวกระเป๋าสตางค์คริปโทเคอร์เรนซีแล้ว นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าเรมิตทิกซ์จะเป็นหนึ่งในอัลต์คอยน์ (Altcoin) ที่มีผลงานดีที่สุดในปี พ.ศ. 2568 เลยทีเดียว ซึ่งเน้นการแก้ปัญหาจริงในโลกของการชำระเงิน นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ตลาดคริปโทฯ ไม่ได้มีแค่เหรียญมีมเท่านั้น แต่ยังมีโครงการที่มีประโยชน์ใช้สอยจริงที่กำลังเติบโตอย่างน่าสนใจอีกมากมาย

**เจาะลึกตัวเลขและสัญญาณเตือนจากดอจคอยน์**

หากเรามองผ่านตัวเลขและตัวบ่งชี้ทางเทคนิค จะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับสถานะของดอจคอยน์ในปัจจุบัน ดอจคอยน์มีมูลค่าตลาดประมาณ 2.538 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาอยู่ที่ประมาณ 0.1692 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนชิบะอินุมีมูลค่าตลาดประมาณ 6.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาประมาณ 0.00001181 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่น่าสนใจคือ ปริมาณการซื้อขายของชิบะอินุเพิ่มขึ้นถึง 24.3% ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายของดอจคอยน์ลดลง 22.52% ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ากังวลเล็กน้อย และมักเป็นหัวข้อหลักใน `dogecoin ข่าว` ในช่วงหลัง

เมื่อเราใช้แว่นขยายทางเทคนิคส่องเข้าไปในดอจคอยน์ เราจะพบสัญญาณเตือนบางอย่างที่นักลงทุนควรให้ความสนใจครับ

* **จำนวนที่อยู่ที่มีการใช้งาน (Active Addresses):** แม้ราคาจะปรับตัวขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่จำนวนที่อยู่ที่มีการใช้งานรายวันของดอจคอยน์ยังคงทรงตัว ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่าการปรับขึ้นของราคาไม่ได้มาจากการสนับสนุนของผู้ใช้งานใหม่หรือผู้ใช้งานที่กลับมา แต่เป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้น
* **MVRV Z-Score:** ตัวชี้วัดนี้ยังคงต่ำกว่าศูนย์ ซึ่งแปลว่าผู้ถือดอจคอยน์ส่วนใหญ่กำลังประสบกับ “ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง” (Unrealized Loss) หากเปรียบง่าย ๆ ก็เหมือนคุณซื้อของมาแพง แต่ตอนนี้ราคาตลาดของมันถูกลง คุณยังไม่ได้ขายออกไป จึงยังไม่ขาดทุนจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้กำไร แสดงว่าตลาดคริปโทฯ ยังไม่มีการสะสมเหรียญจำนวนมากเท่าที่ควร
* **รูปแบบราคา (Price Pattern):** ดอจคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในรูปแบบสามเหลี่ยมขาลง (Descending Triangle) ซึ่งเป็นรูปแบบที่มักจะบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลง มีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 0.17555 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ถูกทดสอบหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้อย่างมั่นคง ส่วนแนวรับใกล้ 0.161 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ถูกทะลุและกลับมาหลายครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณของโครงสร้างราคาที่อ่อนแอ เปรียบเหมือนกำแพงบ้านที่โดนกระแทกบ่อย ๆ จนเริ่มมีรอยร้าว
* **ดัชนีความสัมพันธ์ระหว่างราคา (RSI – Relative Strength Index):** มีแนวโน้มลดลง แม้ราคาดอจคอยน์จะรักษาระดับแนวรับที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลงแบบคลาสสิก บ่งบอกว่าผู้ซื้อกำลังสูญเสียการควบคุมไปเรื่อย ๆ

จากข้อมูลเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่าแรงซื้อของดอจคอยน์นั้นอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีการประเมินมูลค่าที่ต่ำ และยังคงอยู่ในรูปแบบสามเหลี่ยมขาลง ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของการลดลงเพิ่มเติมในอนาคต ทำให้ `dogecoin ข่าว` ในมุมของตัวเลขดูไม่สดใสนัก

นอกจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคแล้ว นโยบายและกฎระเบียบก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อ `dogecoin ข่าว` และตลาดคริปโทฯ โดยรวม นโยบายภาษีที่เสนอโดยโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ซึ่งเคยทำให้ดอจคอยน์ร่วงลงถึง 46% ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2568 แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายระดับมหภาคก็มีผลต่อนักลงทุนอย่างมาก เพราะทำให้พวกเขาต้องลดความเสี่ยงลง แต่ในทางกลับกัน การที่หน่วยงานอย่างจีอีซี (GEC) ยอมรับการชำระค่าจองดาวเทียม Doge-1 ของอีลอน มัสก์ ด้วยเหรียญดอจคอยน์ หรือการที่สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) เริ่มรับชำระค่าสินค้าด้วยดอจคอยน์ ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าดอจคอยน์เริ่มมีประโยชน์ใช้สอยจริงในบางกรณี แม้จะยังจำกัดวงอยู่ก็ตาม

**บทสรุปสำหรับนักลงทุน: ควรทำอย่างไรกับดอจคอยน์?**

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงพอจะเห็นภาพรวมของดอจคอยน์และตลาดคริปโทฯ มากขึ้นแล้วครับ ดอจคอยน์ยังคงเป็นเหรียญที่มีความผันผวนสูงมาก ขับเคลื่อนด้วยกระแส แรงหนุนจากบุคคลสำคัญ และความสนใจบนโซเชียลมีเดียเป็นหลัก แม้จะมีโอกาสในการทำกำไรจากการเก็งกำไรระยะสั้น แต่มันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงลิบลิ่ว

หากคุณกำลังพิจารณาที่จะลงทุนในดอจคอยน์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้ ผมขอแนะนำแนวทางปฏิบัติง่าย ๆ ดังนี้ครับ

1. **ศึกษาข้อมูลให้ลึกซึ้ง (Do Your Own Research – DYOR):** อย่าเชื่อแค่ `dogecoin ข่าว` หรือคำพูดบอกเล่าต่อ ๆ กันมา ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ วิเคราะห์ตัวเลขและแนวโน้มต่าง ๆ ด้วยตัวเองให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
2. **เข้าใจความเสี่ยงของตัวเอง:** คุณรับความผันผวนได้แค่ไหน? พร้อมจะขาดทุนเท่าไหร่? หากเงินลงทุนของคุณเป็น “เงินเย็น” (Capital that is not needed for immediate expenses) คือเงินที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น หรือเงินที่พร้อมจะเสียไปได้โดยไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน การลองเสี่ยงกับเหรียญที่มีความผันผวนสูงก็อาจจะเป็นทางเลือก แต่หากเป็นเงินร้อน หรือเงินที่จำเป็นต้องใช้ในเร็ววัน ขอให้หลีกเลี่ยงเป็นดีที่สุดครับ
3. **กระจายความเสี่ยง (Diversification):** อย่าทุ่มเงินทั้งหมดไปกับเหรียญใดเหรียญหนึ่ง ควรแบ่งเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ด้วย ทั้งคริปโทเคอร์เรนซีที่มีประโยชน์ใช้สอยจริง (เช่น เอ็กซ์อาร์พี หรือ เรมิตทิกซ์) หรือสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น หุ้น หรือกองทุน เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน
4. **จับตาดูนโยบายและกฎระเบียบ:** การกำกับดูแลจากภาครัฐมีผลอย่างมากต่อตลาดคริปโทฯ การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษี หรือการพิจารณาคดีต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบต่อราคาได้อย่างรวดเร็ว

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเหมือนมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ มีทั้งกระแสคลื่นที่โหมกระหน่ำ และเกาะแก่งที่มั่นคงให้ได้เลือกพักพิง ดอจคอยน์อาจเป็นเรือเร็วที่แล่นไปได้ไว แต่ก็อาจคว่ำได้ง่ายหากเจอคลื่นลมแรง แต่เหรียญที่มีประโยชน์ใช้สอยจริงก็เหมือนเรือบรรทุกสินค้าที่อาจจะแล่นช้ากว่า แต่ก็ไปถึงจุดหมายได้อย่างมั่นคง

⚠️ หากเงินทุนมีสภาพคล่องไม่สูงนัก และคุณยังไม่เชี่ยวชาญในเรื่องการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล แนะนำให้ประเมินและวางแผนก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้เสมอครับ อย่าให้ความตื่นเต้นจาก `dogecoin ข่าว` เพียงอย่างเดียวมาบดบังวิจารณญาณการลงทุนของคุณ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนครับ!