เคยคิดไหมว่าโลกคริปโตฯ มันหวือหวาแค่ไหน? วันนี้ราคาพุ่งพรวด พรุ่งนี้อาจจะร่วงกราว… ซึ่งความหวือหวานี้แหละที่ดึงดูดนักลงทุนจำนวนมาก แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันก็มาพร้อมความเสี่ยงที่คาดไม่ถึงเหมือนกันนะครับ/คะ

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ หรือบางทีก็กำลังใช้แพลตฟอร์ม Bybit อยู่ใช่ไหมครับ/คะ? Bybit นี่เขาเป็นพี่ใหญ่ในวงการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลและอนุพันธ์คริปโตฯ เลยนะ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แล้วก็มีสำนักงานที่สิงคโปร์กับไต้หวันด้วย เขาบอกว่าภารกิจของเขาก็คือ อยากจะทำให้ระบบนิเวศทางการเงินมันเป็นประชาธิปไตย เข้าถึงง่าย และมีประสิทธิภาพ ว่ากันว่าตอนนี้เขามีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 60 ล้านคนแล้วนะ บริการก็มีครบครัน ตั้งแต่ซื้อขายเหรียญทั่วไปแบบ Spot (สปอต) ซื้อขายแบบมีสัญญา (อนุพันธ์) หรือแม้แต่เรื่อง NFT หรือเอาเหรียญไปฝากรับดอกเบี้ย (Staking) ก็มีหมด แถมยังรองรับการฝากเงินบาทหรือเงินสกุลอื่นเข้าไปได้หลายแบบ สะดวกสบายดีเหมือนกันครับ/คะ

ถ้าถามว่า Bybit ดีไหม ในแง่ของฟังก์ชันและขนาดแพลตฟอร์ม เขาก็ถือว่าน่าสนใจ มีเครื่องไม้เครื่องมือให้เทรดเยอะ โดยเฉพาะสายเก็งกำไรที่ชอบใช้ Leverage (เลเวอเรจ) ที่ Bybit นี่เขาให้สูงสุดถึง 100 เท่าสำหรับการเทรดบางคู่เลยนะ ซึ่งอันนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นดาบสองคม ใช้เป็นก็รวยเร็ว ใช้ไม่เป็นก็หมดตัวเร็วเหมือนกัน

เรื่องความปลอดภัย Bybit เขาก็เคลมว่าให้ความสำคัญมากนะ มีระบบแยกเงินทุน (Fund Segregation) แบ่งเป็นกระเป๋าเงินเย็น (Cold Wallet) คือเก็บแบบออฟไลน์ส่วนใหญ่เพื่อป้องกันการแฮ็ก และกระเป๋าเงินร้อน (Hot Wallet) สำหรับใช้หมุนเวียน ซึ่งเขาบอกว่าเงินส่วนใหญ่จะอยู่ในกระเป๋าเงินเย็นที่ปลอดภัยกว่า แต่โลกนี้ไม่มีอะไรเพอร์เฟกต์ครับ/คะ

อย่างที่นักลงทุนหลายๆ คนรู้ดี ตลาดคริปโตฯ มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ความผันผวนของราคา แต่รวมถึงความเสี่ยงด้านเทคนิคและความปลอดภัยของแพลตฟอร์มด้วย อย่างข้อมูลที่เราเห็นจากเว็บไซต์รีวิวอย่าง Trustpilot (ณ วันที่รวบรวมข้อมูล) กลับพบรีวิวเชิงลบเกี่ยวกับ Bybit ค่อนข้างเยอะเลยนะครับ/คะ ประมาณ 70% ของรีวิวให้แค่ 1 ดาวเองนะ ปัญหาที่ผู้ใช้งานหลายคนเจอก็คือ เรื่องการระงับการถอนเงินโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนบ้าง ปัญหาการติดต่อบริการสนับสนุนลูกค้า (Customer Support) ที่ยากเย็นแสนเข็ญ หรือมีข้อพิพาทในการเทรดแบบ P2P (Peer-to-Peer) แล้วการจัดการก็ดูไม่ค่อยเรียบร้อย คะแนนความปลอดภัยบน Trustpilot ก็ค่อนข้างต่ำ แค่ 1.6 เต็ม 5 เอง นอกจากนี้ ณ ตอนนี้ Bybit ก็ยังไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานไหนอย่างเป็นทางการด้วย ซึ่งอันนี้เป็นจุดที่นักลงทุนต้องพิจารณาให้ดีเลยครับ/คะ

แล้วเรื่องที่ทำให้หลายคนตกใจและอาจจะเริ่มลังเลว่า Bybit ดีไหม ก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมานี่เองครับ/คะ Bybit โดนแฮ็กเกอร์โจรกรรมเหรียญ Ethereum (อีเธอเรียม) ไปมูลค่ามหาศาลถึงประมาณ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยก็กว่า 50,330 ล้านบาท! เหตุการณ์นี้อาจจะกลายเป็นการโจรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกคริปโตฯ เลยก็ว่าได้นะ

ข่าวออกมาว่าแฮ็กเกอร์ใช้ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยบางอย่างในการโอนเงินออกไป พอมีข่าวนี้ออกมา มูลค่าของเหรียญ Ethereum ก็ร่วงลงไปประมาณ 4% ทันที แต่ทาง เบน โจว ผู้ก่อตั้ง Bybit ก็รีบออกมายืนยันผ่านโซเชียลมีเดียเลยว่า เงินของผู้ใช้งานทุกคนปลอดภัย 100% และทางบริษัทจะรับผิดชอบชดเชยให้ทั้งหมด ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทุนว่าจะพอไหม เพราะ Bybit มีสินทรัพย์รวมอยู่ประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอาจจะมีการกู้ยืมจากพันธมิตรเข้ามาเสริมด้วย ส่วนทางบริษัทก็กำลังเร่งทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่เพื่อตามหาตัวแฮ็กเกอร์อยู่

เหตุการณ์แฮ็ก Bybit ครั้งนี้มันตอกย้ำเลยนะครับ/คะ ว่าความเสี่ยงด้านความปลอดภัยยังคงเป็นเงาตามติดตลาดสกุลเงินดิจิทัลอยู่เสมอ ขนาดแพลตฟอร์มที่ใหญ่และบอกว่ามีมาตรการความปลอดภัยที่ดี ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้เลย ถ้าเทียบกับเหตุการณ์โจรกรรมครั้งใหญ่ในอดีต อย่าง Ronin Network (โรนิน เน็ตเวิร์ก) ที่โดนไป 625 ล้านดอลลาร์ หรือ Poly Network (โพลี เน็ตเวิร์ก) 611 ล้านดอลลาร์ หรือแม้แต่ Coincheck (คอยน์เช็ค) 532 ล้านดอลลาร์ เหตุการณ์ Bybit นี้ก็ใหญ่กว่าเยอะมาก ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่านักโจมตีพวกนี้มีวิธีการที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ

เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตฯ อย่างแน่นอนครับ/คะ ไม่ใช่แค่กับ Bybit แต่รวมถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย เพราะนักลงทุนอาจจะเริ่มกังวลว่า ถ้าแพลตฟอร์มใหญ่ขนาดนี้ยังโดนได้ แล้วแพลตฟอร์มอื่นล่ะจะปลอดภัยแค่ไหน

ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ก็เคยให้มุมมองที่น่าคิดเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยในวงการคริปโตฯ ว่าเป็นประเด็นที่สำคัญมากๆ และยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอ อาจจะมีการอ้างถึงกลุ่มแฮ็กเกอร์ระดับโลกบางกลุ่ม อย่าง กลุ่ม Lazarus (ลาซารัส) ที่พุ่งเป้าโจมตีตลาดคริปโตฯ โดยเฉพาะ ท่านเน้นย้ำว่า นอกเหนือจากมาตรการของแพลตฟอร์มแล้ว ผู้ใช้งานเองก็ต้องดูแลความปลอดภัยของตัวเองให้ดีที่สุดด้วย

แล้วในฐานะนักลงทุนอย่างเราๆ ล่ะครับ/คะ พอเจอข่าวแบบนี้ หรือเห็นรีวิวแย่ๆ เกี่ยวกับการถอนเงิน แล้วถ้าจะถามว่า Bybit ดีไหม ควรลงทุนบนแพลตฟอร์มนี้ดีหรือเปล่า?

ถ้ามองจากภาพรวม Bybit เป็นแพลตฟอร์มที่มีข้อดีคือมีบริการครบ มีสภาพคล่องสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเครื่องมือเทรดหลากหลาย โดยเฉพาะสายเก็งกำไร แต่ในอีกมุมหนึ่ง เหตุการณ์แฮ็กครั้งล่าสุดที่มูลค่ามหาศาล รวมถึงปัญหาการบริการลูกค้าและการถอนเงินที่ผู้ใช้หลายคนรายงานเข้ามา ก็เป็นสัญญาณเตือนที่เราต้องรับทราบ และเอามาประกอบการตัดสินใจด้วยครับ/คะ

สรุปแล้ว Bybit ดีไหม? มันไม่มีคำตอบตายตัวว่าดีหรือไม่ดีที่สุดสำหรับทุกคน มันขึ้นอยู่กับว่าคุณรับความเสี่ยงได้แค่ไหน และให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่า ถ้าคุณเป็นคนที่รับความเสี่ยงได้สูง ต้องการแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันเยอะ Bybit อาจจะเป็นตัวเลือกหนึ่ง แต่ถ้าคุณกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ และต้องการแพลตฟอร์มที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างชัดเจน หรือมีฟีดแบ็กจากผู้ใช้ในด้านบริการลูกค้าที่ดีกว่า Bybit อาจจะต้องพิจารณาให้รอบคอบมากขึ้น

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนในโลกคริปโตฯ ไม่ว่าจะเทรดที่ไหนก็ตาม คือ การดูแลตัวเองครับ/คะ ทำเหมือนการขับรถที่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยและตรวจเช็ครถก่อนออกเดินทางเสมอ ลองทำตามคำแนะนำง่ายๆ พวกนี้ดูนะครับ/คะ:

1. **ทำ KYC (Know Your Customer – การยืนยันตัวตน) ให้ครบถ้วน:** เพื่อความปลอดภัยของบัญชีเราเอง และช่วยให้การแก้ไขปัญหาง่ายขึ้นหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
2. **เปิดใช้ 2FA (Two-Factor Authentication – การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น):** เปิดใช้ทุกช่องทางที่มี ทั้ง SMS, Google Authenticator หรืออื่นๆ เพื่อเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้บัญชีอีกด่านหนึ่ง
3. **ระวังมากๆ ในการเทรด P2P:** ต้องตรวจสอบข้อมูลคู่ค้าให้ดีมากๆ ก่อนทำธุรกรรม เพราะความเสี่ยงในการโดนโกงมีสูงกว่าการเทรดแบบ Spot หรือ Derivative โดยตรง
4. **อย่าเก็บเหรียญทั้งหมดไว้ในกระดานเทรดที่เดียว:** กระจายความเสี่ยงไปเก็บในกระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนตัว (Hardware Wallet หรือ Software Wallet ที่เชื่อถือได้) ที่เราเป็นผู้คุม Private Key เอง หรือกระจายไปไว้บนแพลตฟอร์มอื่นๆ บ้าง
5. **ศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนเสมอ:** ก่อนที่จะลงทุนในเหรียญไหน หรือบนแพลตฟอร์มไหน ต้องใช้เวลาศึกษาให้ดี ไม่ใช่แค่ตามกระแส หรือฟังคนอื่นมาบอกว่า Bybit ดีไหม แล้วก็ไปเทรดเลย

เหตุการณ์แฮ็ก Bybit เป็นอุทาหรณ์ชั้นดีว่า แม้แต่แพลตฟอร์มใหญ่ระดับโลกก็ยังไม่ปลอดภัย 100% ความเสี่ยงจากการโจรกรรมทางไซเบอร์ยังคงเป็นความท้าทายใหญ่สำหรับวงการสินทรัพย์ดิจิทัล และเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานอย่างเราต้องตระหนักไว้เสมอ

โลกคริปโตฯ ยังคงน่าตื่นเต้น และมีโอกาสมากมาย แต่ก็มีความเสี่ยงแฝงอยู่ตลอดเวลา การลงทุนทุกรูปแบบมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ/คะ อย่าให้ความหวือหวาของตลาดทำให้เราลืมความปลอดภัยและการบริหารความเสี่ยงไป ขอให้ทุกคนลงทุนอย่างมีสติและปลอดภัยครับ/คะ