สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน! กลับมาพบกับผม ‘เซียนเงินบ่น’ อีกเช่นเคยนะครับ ช่วงนี้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีคึกคักเหลือเกิน จนเพื่อนซี้ของผม ‘พี่หมูบิน’ ที่เพิ่งกระโดดเข้าสู่สังเวียนนี้ได้ไม่นาน ถึงกับมาบ่นหูชาว่า “เฮ้ย! บิตคอยน์ (Bitcoin) มันก็ขึ้นเอาๆ ทำไมไอ้เหรียญอัลต์คอยน์ (Altcoin) ตัวอื่นที่ฉันถืออยู่มันนิ่งสนิทเป็นสากกะเบือเลยวะ?”
ฟังแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ครับ เพราะนี่แหละครับคือสิ่งที่นักลงทุนคริปโทมือใหม่หลายคนมักจะงงงวย แต่สำหรับนักลงทุนที่เจนสนามแล้ว นี่คือสัญญาณสำคัญที่พวกเขาใช้ในการอ่านเกมตลาด และวันนี้ผมจะมาเฉลยเคล็ดลับนั้นให้ฟัง นั่นก็คือการทำความเข้าใจกับ “บิตคอยน์โดมิแนนซ์” (Bitcoin Dominance) หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า “btcdom” นั่นเองครับ!

**บิตคอยน์โดมิแนนซ์คืออะไร? เข็มทิศลับของนักลงทุน!**
ลองนึกภาพตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเหมือนโรงเรียนใหญ่ๆ สักแห่งครับ บิตคอยน์ก็เปรียบเสมือน ‘ประธานนักเรียน’ คนแรกและคนเดียวที่ก่อตั้งโรงเรียนนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและมีอิทธิพลอย่างมหาศาล ส่วนอัลต์คอยน์อื่นๆ ก็คือนักเรียนคนอื่นๆ ที่ค่อยๆ ทยอยเข้ามาในภายหลัง บางคนก็เป็นรองประธาน บางคนก็เป็นหัวหน้าห้อง บางคนก็เป็นเด็กหลังห้องที่ยังไม่มีใครรู้จัก
ทีนี้ ‘บิตคอยน์โดมิแนนซ์’ ก็คือการวัดว่า ประธานนักเรียนคนนี้มี ‘ส่วนแบ่งอิทธิพล’ ในโรงเรียนทั้งหมดกี่เปอร์เซ็นต์ครับ? หรือพูดเป็นภาษาทางการเงินก็คือ มันคืออัตราส่วนของมูลค่าตลาดรวม (Market Capitalization) ของบิตคอยน์ เทียบกับมูลค่าตลาดรวมของคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมดนั่นแหละครับ หลักการคำนวณก็ง่ายๆ เลยครับ แค่นำมูลค่าตลาดของบิตคอยน์มาหารด้วยมูลค่าตลาดรวมของเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีชั้นนำ 125 อันดับแรก แล้วเอาไปคูณด้วยหนึ่งร้อย ก็จะได้ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วครับ
วัตถุประสงค์หลักของการใช้เจ้า btcdom ตัวนี้ก็คือการประเมินขนาดและอิทธิพลของบิตคอยน์เมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม เพราะด้วยความที่บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์คริปโทฯ ตัวแรกสุด และยังคงเป็นเจ้าตลาดที่มีมูลค่ามากที่สุด ตัวเลขการครอบงำของมันจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจและติดตามอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เหมือนเป็นเข็มทิศคอยบอกทิศทางลมของตลาดคริปโทฯ นั่นเอง
**ทำไมเจ้า ‘บิตคอยน์โดมิแนนซ์’ ถึงสำคัญขนาดนั้น?**
เจ้าบิตคอยน์โดมิแนนซ์ตัวนี้ไม่ได้เป็นแค่ตัวเลขเท่ๆ นะครับ แต่มันเป็นเหมือน ‘ปรอทวัดไข้’ ของตลาดคริปโทฯ เลยก็ว่าได้ มันสามารถบอกเล่าเรื่องราวความเชื่อมั่นของนักลงทุน และช่วยให้นักลงทุนวางกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างชาญฉลาด ลองมาดูกันว่ามันสำคัญยังไงบ้าง:
1. **ตัวบ่งชี้ทิศทางและความเชื่อมั่นของตลาด:**
* **ถ้าบิตคอยน์โดมิแนนซ์สูงปรี๊ด:** เหมือนตอนที่ปรอทวัดไข้พุ่งขึ้นสูง นั่นแปลว่านักลงทุนส่วนใหญ่กำลังรู้สึกไม่มั่นใจในตลาดโดยรวม พวกเขาจะเริ่มดึงเงินออกจากอัลต์คอยน์ต่างๆ แล้วโยกไปพักไว้ในบิตคอยน์ เพราะมองว่าบิตคอยน์คือ ‘ทองคำดิจิทัล’ (Digital Gold) หรือสินทรัพย์ปลอดภัยที่แข็งแกร่งกว่าในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงที่เศรษฐกิจมหภาคมีข่าวร้าย หรือมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น บิตคอยน์โดมิแนนซ์มักจะพุ่งสูงขึ้น เพราะทุกคนวิ่งเข้าหาที่หลบภัย
* **แต่ถ้าบิตคอยน์โดมิแนนซ์เริ่มลดต่ำลงเรื่อยๆ:** อันนี้แหละครับคือสัญญาณที่ดีสำหรับอัลต์คอยน์! มันหมายความว่านักลงทุนเริ่มมีความกล้าหาญมากขึ้น พร้อมที่จะรับความเสี่ยงกับเหรียญอื่นๆ ที่อาจให้ผลตอบแทนสูงกว่า บ่อยครั้งที่เราจะเห็นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้น (Bull Market) และมีการเก็งกำไรในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า หรือที่เรียกกันว่า “ฤดูอัลต์คอยน์” (Altcoin Season) นั่นเองครับ!
2. **เครื่องมือช่วยในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio Diversification):**
* เหมือนเรามีตะกร้าผลไม้ที่มีทั้งทุเรียน (บิตคอยน์) และผลไม้อื่นๆ (อัลต์คอยน์) หากบิตคอยน์โดมิแนนซ์สูงลิ่ว ก็อาจเป็นสัญญาณว่าเราควรจะพิจารณา ‘กระจายความเสี่ยง’ ไปลงทุนในอัลต์คอยน์บ้าง เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาทุเรียนมากเกินไป แต่ในทางกลับกัน ถ้าบิตคอยน์โดมิแนนซ์อยู่ในระดับที่ต่ำมากๆ นั่นอาจเป็นโอกาสที่เราจะมองหาจังหวะในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบิตคอยน์ ซึ่งอาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคตก็เป็นได้ครับ

3. **สะท้อนถึงวุฒิภาวะและความหลากหลายที่เพิ่มขึ้นของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี:**
* ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 บิตคอยน์เคยครอบงำตลาดเกือบทั้งหมด ด้วยสัดส่วนที่สูงกว่า 90% เสียอีกครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตลาดคริปโทฯ ก็เติบโตขึ้น มีเหรียญใหม่ๆ ที่มีนวัตกรรม มีคุณสมบัติ และมีกรณีการใช้งานที่หลากหลายผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก การลดลงของบิตคอยน์โดมิแนนซ์เมื่อเวลาผ่านไป จึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีความหลากหลายและพัฒนาไปสู่ความสมบูรณ์มากขึ้น เหมือนโรงเรียนของเราที่มีนักเรียนเก่งๆ จากหลายสาขา ไม่ใช่แค่ประธานนักเรียนคนเดียวที่โดดเด่นครับ คุณเวรา ลิม (Vera Lim) นักวิเคราะห์จาก Bitfinex เคยให้มุมมองที่น่าสนใจไว้ในปี 2023 ว่า “การที่บิตคอยน์โดมิแนนซ์ไม่ได้ครองเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนในอดีต สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของระบบนิเวศคริปโทฯ ที่แข็งแกร่งและซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม”
4. **ปัจจัยสำคัญในกลยุทธ์การซื้อขาย:**
* สำหรับนักเทรดมือฉมัง พวกเขาใช้บิตคอยน์โดมิแนนซ์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจว่าจะลงทุนในบิตคอยน์หรืออัลต์คอยน์ หากบิตคอยน์โดมิแนนซ์เพิ่มขึ้น เทรดเดอร์ก็อาจจะคาดการณ์ว่าบิตคอยน์จะทำผลงานได้ดีกว่าอัลต์คอยน์ในระยะสั้น แต่ในทางกลับกัน ถ้ามันลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะหันไปโฟกัสที่อัลต์คอยน์ที่กำลังมีกระแสและมีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าได้
**แล้วอะไรกันล่ะที่ปั่นป่วนเจ้า ‘บิตคอยน์โดมิแนนซ์’ ให้เต้นระบำขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้?**
ทีนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วอะไรกันแน่ที่ทำให้เจ้าบิตคอยน์โดมิแนนซ์มันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ขนาดนี้? จริงๆ แล้วมันมีหลายปัจจัยเลยครับ ทั้งจากภายในและภายนอกตลาดคริปโทฯ เอง:
* **ความเชื่อมั่นของนักลงทุน:** แน่นอนครับว่าอารมณ์ของนักลงทุนนี่แหละคือตัวการใหญ่ ถ้าทุกคนแห่กันไปซื้อบิตคอยน์เพราะเชื่อมั่นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย btcdom ก็พุ่ง แต่ถ้าทุกคนเริ่มกล้า เปิดใจลองของใหม่ ก็ไปลงอัลต์คอยน์ btcdom ก็ลด
* **ข่าวสารด้านกฎระเบียบ:** เรื่องกฎหมายนี่สำคัญมากครับ ถ้ามีข่าวดีเรื่องกฎระเบียบที่ชัดเจน หรือการยอมรับคริปโทฯ ในระดับสถาบัน บิตคอยน์มักจะได้รับอานิสงส์ก่อน เพราะเป็นตัวแรกและใหญ่ที่สุด แต่ถ้ากฎระเบียบเข้มงวดกับเหรียญบางประเภท ก็อาจจะทำให้เงินไหลกลับมาที่บิตคอยน์
* **ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปิดตัวอัลต์คอยน์ใหม่ๆ:** นึกภาพว่ามีอัลต์คอยน์น้องใหม่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด พร้อมกับนำเสนอเทคโนโลยีสุดล้ำ หรือมีโซลูชันที่แก้ปัญหาโลกแตกได้ ก็จะดึงดูดความสนใจและเงินทุนจากนักลงทุนไปได้ ทำให้ส่วนแบ่งของบิตคอยน์ลดลงได้ในที่สุด
* **การเติบโตของตลาดโดยรวม:** ขนาดและสภาพคล่องของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมดก็มีผลครับ ถ้าตลาดโตขึ้นอย่างมหาศาล เม็ดเงินอาจจะกระจายไปตามเหรียญต่างๆ มากขึ้น ทำให้สัดส่วนของบิตคอยน์ลดลงได้
* **สถานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ ของบิตคอยน์:** อันนี้เป็นปัจจัยที่ยั่งยืนครับ ไม่ว่าตลาดจะดีหรือร้าย บิตคอยน์ก็ยังคงถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และเป็นเหมือนประตูแรกที่คนส่วนใหญ่จะเข้ามาในโลกคริปโทฯ
**เครื่องมือเด็ดๆ ที่ช่วยให้คุณส่อง ‘บิตคอยน์โดมิแนนซ์’ ได้แบบเรียลไทม์!**
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า แล้วเราจะไปดูเจ้าบิตคอยน์โดมิแนนซ์ได้จากที่ไหน? ง่ายนิดเดียวครับ!
สำหรับข้อมูลแบบสดๆ ร้อนๆ หรือที่เรียกว่า ‘เรียลไทม์’ (Real-time) คุณสามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเตอร์เฟซโปรแกรมประยุกต์ หรือ ‘เอพีไอ’ (API) ของคอยน์มาร์เก็ตแคป (CoinMarketCap) ครับ โดยใช้เอนด์พอยต์ที่เรียกว่า `v1/global-metrics/quotes/latest` ซึ่งจะแสดงข้อมูลล่าสุดให้คุณได้เห็นทันที เหมือนคุณกำลังนั่งดูจอควบคุมการจราจรทางการเงินแบบสดๆ เลย
ส่วนถ้าอยากดูข้อมูลย้อนหลังว่าเจ้า btcdom มันเคยขึ้นลงไปถึงไหนบ้างในช่วงที่ผ่านมา ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ เพียงใช้เอพีไอของคอยน์มาร์เก็ตแคปเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนไปใช้เอนด์พอยต์ `v1/global-metrics/quotes/historical` ซึ่งจะอนุญาตให้คุณระบุช่วงเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดที่คุณต้องการดึงข้อมูลได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนก็ได้หมดครับ
นอกจากนี้ สำหรับนักเทรดที่ชอบความหวือหวาและเครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้น ไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ ยักษ์ใหญ่ ก็ได้เสนอ ‘ดัชนี BTCDOM ของไบแนนซ์’ (Binance’s BTCDOM index) ออกมาให้นักเทรดสามารถเก็งกำไรประสิทธิภาพสัมพัทธ์ของบิตคอยน์เทียบกับคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ ได้ครับ ความพิเศษของดัชนีตัวนี้คือมันไม่ได้ถูกจำกัดค่าระหว่างศูนย์ถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนบิตคอยน์โดมิแนนซ์ทั่วไป ทำให้เหมาะสำหรับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) ที่มีความยืดหยุ่นสูง และช่วยยืนยันความสำคัญของบิตคอยน์ในแต่ละช่วงเวลาได้เป็นอย่างดี เหมือนเป็นตัวชี้วัดความร้อนแรงว่านักลงทุนกำลังให้น้ำหนักกับบิตคอยน์มากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับอัลต์คอยน์อื่นๆ ในช่วงนั้นๆ ครับ

**สรุป: ‘บิตคอยน์โดมิแนนซ์’ คือเพื่อนคู่คิด แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง**
มาถึงตรงนี้แล้ว ท่านผู้อ่านคงพอจะเห็นภาพแล้วนะครับว่าเจ้า ‘บิตคอยน์โดมิแนนซ์’ หรือ btcdom เนี่ย มันเป็นเครื่องมือชั้นยอดที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจกลไกและความรู้สึกของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบ่งบอกความเชื่อมั่น การช่วยกระจายความเสี่ยง หรือการชี้ให้เห็นว่าตลาดกำลังเติบโตและมีความหลากหลายแค่ไหน มันคือเข็มทิศที่ช่วยนำทางเราได้ดีเยี่ยมทีเดียวครับ
แต่! อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ามันคือทุกสิ่งทุกอย่างของจักรวาลคริปโทนะครับ! เพราะตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมันซับซ้อนและผันผวนยิ่งกว่าใจคนที่เราแอบชอบเสียอีก การเปลี่ยนแปลงของบิตคอยน์โดมิแนนซ์เป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัยที่เราต้องพิจารณาเท่านั้นครับ มันไม่ควรเป็นปัจจัยเดียวที่คุณใช้ในการตัดสินใจลงทุน หรือประเมินสุขภาพของตลาดทั้งหมดนะครับ
**คำแนะนำจากเซียนเงินบ่น:**
* **ศึกษาให้รอบด้าน:** การใช้บิตคอยน์โดมิแนนซ์ควรทำควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเหรียญต่างๆ (Fundamental Analysis) และการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) อื่นๆ เหมือนเรากำลังจะเลือกคู่ชีวิต เราก็ต้องดูหลายๆ อย่างประกอบกัน ไม่ใช่แค่หน้าตาดีอย่างเดียวจริงไหมครับ?
* **ทำความเข้าใจวงจรตลาด:** บิตคอยน์โดมิแนนซ์สามารถช่วยให้คุณเข้าใจถึง ‘วงจรตลาดคริปโท’ ได้ดีขึ้น ว่าเมื่อไหร่ที่บิตคอยน์มักจะนำ เมื่อไหร่ที่อัลต์คอยน์จะเริ่มมา แล้วเราควรจะปรับพอร์ตอย่างไรให้เข้ากับกระแส
* **ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ:** ลองฝึกใช้ข้อมูลจากเอพีไอของคอยน์มาร์เก็ตแคป หรือศึกษาดัชนี BTCDOM ของไบแนนซ์ เพื่อให้คุณมีข้อมูลเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
* **⚠️ ระวังความเสี่ยงเสมอ:** ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องมือวิเคราะห์อะไรก็ตาม การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูงมาก และมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้ ควรลงทุนด้วยเงินที่คุณพร้อมจะเสียไปได้เท่านั้น และไม่ควรลงทุนตามกระแสโดยไม่ศึกษาให้ดีก่อนนะครับ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้พี่หมูบินและนักลงทุนทุกท่านเข้าใจโลกของบิตคอยน์โดมิแนนซ์ได้มากขึ้นนะครับ จำไว้ว่าการลงทุนที่ชาญฉลาดคือการลงทุนที่มาพร้อมกับความรู้และความเข้าใจที่ลึกซึ้งครับ! แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ! ลงทุนอย่างชาญฉลาดนะครับ!