คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

ความรู้คริปโตและวิเคราะห์ราคา

Bitcoin ETF คือ: โอกาสทอง หรือแค่เกมเก็งกำไร?

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “บิตคอยน์” (Bitcoin) มาพักใหญ่ๆ แล้วใช่ไหมครับ? บางคนอาจจะเคยลองลงทุน บางคนอาจจะยังงงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ แล้วช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา อยู่ๆ ก็มีข่าวใหญ่ที่ทำให้วงการคริปโตฯ คึกคักสุดๆ นั่นคือ “สหรัฐอเมริกา” ประเทศมหาอำนาจทางการเงิน ได้อนุมัติให้มีสิ่งที่เรียกว่า bitcoin etf คือ อะไรบางอย่างที่ฟังดูเป็นทางการมากขึ้น ซื้อขายได้เหมือนหุ้นเลย! ทีนี้หลายคนก็สงสัยกันใหญ่ว่า นี่มันคือโอกาสครั้งสำคัญ หรือแค่กระแสชั่วคราวกันแน่ วันนี้ผมในฐานะเพื่อนร่วมวงการการเงิน จะมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ สไตล์คุยกันสบายๆ ครับ

เรื่องมันมีอยู่ว่า ปกติแล้วถ้าเราอยากลงทุนใน Bitcoin เนี่ย มันก็มีหลายวิธีใช่ไหมครับ เช่น ไปเปิดบัญชีกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง ซื้อเหรียญมาเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ของตัวเอง ซึ่งอันนี้ก็ต้องดูแลกุญแจส่วนตัว (Private Key) ให้ดีๆ อย่าให้หาย อย่าให้ใครรู้ เพราะถ้ากุญแจหาย Bitcoin ที่มีก็หายไปด้วยเหมือนกัน หรือไม่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยของแพลตฟอร์มที่เราไปซื้อขาย หรือบางคนอาจจะลงทุนผ่านพวกกองทุนส่วนตัวที่เน้นลงทุนในคริปโตฯ อยู่แล้ว แต่มันก็ยังดูเป็นเรื่องที่เฉพาะกลุ่มมากๆ

ทีนี้ลองนึกภาพว่า ถ้ามีเครื่องมือทางการเงินที่ทำให้การลงทุนใน Bitcoin ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น แถมยังซื้อขายได้สะดวกเหมือนหุ้นที่เราคุ้นเคยในตลาดหลักทรัพย์ล่ะ? นั่นแหละครับ คือแนวคิดหลักๆ ของ bitcoin etf คือ กองทุนรวมประเภทหนึ่งที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เหมือนกับหุ้นเลยครับ (ETF ย่อมาจาก Exchange Traded Fund) หน้าที่ของมันก็คือ ทำตัวเป็นเหมือน “ตะกร้า” ที่รวบรวมสินทรัพย์ต่างๆ ไว้ข้างใน แล้วออกเป็นหน่วยลงทุนให้เราซื้อขายกันในตลาด ทีนี้ “ตะกร้า” ที่ว่านี้ ข้างในก็คือ “Bitcoin” นั่นเองครับ

จุดเด่นของ bitcoin etf คือ อะไร? ง่ายๆ ก็คือ มันช่วยให้นักลงทุนอย่างเราๆ ท่านๆ สามารถสัมผัสกับการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin ได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปยุ่งยากกับการเป็นเจ้าของ Bitcoin จริงๆ ไม่ต้องไปตั้งค่ากระเป๋าเงิน ไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแล Private Key ให้ดี เพราะกองทุนเขาจะมีผู้ดูแลทรัพย์สิน (Custodian) ซึ่งมักจะเป็นสถาบันการเงินใหญ่ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญ มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง มาดูแล Bitcoin จำนวนมหาศาลแทนเรา พูดง่ายๆ คือ ซื้อ Bitcoin ETF ก็เหมือนซื้อ “สิทธิ์” ในการรับรู้ผลตอบแทนตามราคา Bitcoin ที่กองทุนถืออยู่ครับ

เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เรื่อง bitcoin etf คือ กลายเป็นประเด็นร้อนระดับโลกในช่วงต้นปี 2567 ก็คือ การที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา หรือ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC – Securities and Exchange Commission) ได้ลงมติอนุมัติให้มีการจัดตั้งและซื้อขายกองทุน Spot Bitcoin ETF อย่างเป็นทางการถึง 11 กองทุน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เลยนะครับ ที่ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่ทรงอิทธิพลมากๆ ได้ให้การรับรองเครื่องมือลงทุนที่อิงกับ Bitcoin โดยตรงแบบนี้

การอนุมัติครั้งนี้มันมีความหมายมากกว่าแค่เรื่องทางเทคนิคในตลาดหลักทรัพย์ครับ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงการยอมรับ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุนจากสถาบันที่เป็นทางการมากๆ ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่หลายแห่งอาจจะยังลังเลที่จะลงทุนใน Bitcoin โดยตรง เพราะความซับซ้อนด้านกฎระเบียบ การดูแลรักษา หรือความกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่พอมี bitcoin etf คือ ตัวเลือกที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดออกมาแล้วเนี่ย มันก็เหมือนเป็นการเปิดประตูบานใหญ่ให้นักลงทุนเหล่านี้ รวมถึงนักลงทุนรายย่อยทั่วไปที่คุ้นเคยกับการซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว สามารถเข้าถึง Bitcoin ได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และรู้สึกมั่นใจมากขึ้นครับ

ทีนี้หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Bitcoin ETF มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทำไมการอนุมัติครั้งนี้มันถึงพิเศษล่ะ? นั่นเพราะก่อนหน้านี้ในสหรัฐฯ เคยมีกองทุน Bitcoin ETF อยู่แล้วครับ แต่เป็นคนละแบบกัน เรียกว่า Bitcoin Futures ETF กองทุนประเภทนี้ไม่ได้ลงทุนใน Bitcoin จริงๆ ครับ แต่ไปลงทุนใน “สัญญาซื้อขายล่วงหน้า” (Futures Contracts) ของ Bitcoin แทน ซึ่งสัญญาพวกนี้จะอ้างอิงราคา Bitcoin ในอนาคต ทำให้บางครั้งผลการดำเนินงานของ Futures ETF อาจจะไม่ตรงเป๊ะกับราคา Bitcoin ที่เราเห็นในตลาดปัจจุบัน (ราคา Spot) เพราะมันมีความซับซ้อนของการบริหารจัดการสัญญา หรือที่เรียกว่า “Roll Over” เข้ามาเกี่ยวข้อง และมักจะได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานที่ดูแลสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Futures Trading Commission – CFTC) มากกว่า

แต่สำหรับ Spot Bitcoin ETF ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติเนี่ย bitcoin etf คือ กองทุนที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin จริงๆ ครับ! กองทุนจะไปซื้อ Bitcoin มาเก็บไว้ แล้วออกเป็นหน่วยลงทุนให้เราซื้อขายในตลาด ทำให้ราคาของ Spot Bitcoin ETF มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาตลาดปัจจุบัน (Spot Price) ของ Bitcoin ได้อย่างใกล้ชิดมากกว่า ซึ่งนี่คือนโยบายที่นักลงทุนจำนวนมากรอคอย เพราะมันสะท้อนราคา Bitcoin ได้ตรงไปตรงมาที่สุด และผู้ดูแล Bitcoin (Custodian) ของกองทุนเหล่านี้ก็มักจะเป็นบริษัทใหญ่ที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น Coinbase ซึ่งมีมาตรฐานความปลอดภัยและอาจมีการประกันภัยด้วยครับ

แล้วพอมี bitcoin etf คือ เครื่องมือการลงทุนที่เข้าถึงง่ายขึ้น สะดวกขึ้น แถมยังได้รับการยอมรับในระดับสถาบันแบบนี้แล้ว ตลาดจะเป็นยังไงต่อไปล่ะ? นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่านี่คือปัจจัยบวกมหาศาลครับ เพราะมันจะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากให้ไหลเข้าสู่ตลาด Bitcoin คาดการณ์กันว่าอาจจะมีเงินไหลเข้าหลักหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว (อย่าง Standard Chartered เคยคาดการณ์ไว้ว่าอาจถึง 50,000 – 100,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2567) เมื่อมีอุปสงค์ (ความต้องการซื้อ) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแบบนี้ นักวิเคราะห์หลายคนก็คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีกมาก บางคนมองไปถึงระดับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียวครับ

นอกจากเรื่องเม็ดเงินและราคาแล้ว การที่ bitcoin etf คือ ตัวเลือกที่ถูกกฎหมายและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ยังช่วยเพิ่ม “ความชอบธรรม” ให้กับ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์การลงทุนในกระแสหลัก (Mainstream) ได้อย่างมาก จากที่เคยถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ของคนเฉพาะกลุ่ม มีความเสี่ยงสูง หรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ภาพลักษณ์ของ Bitcoin ก็จะดูน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับมากขึ้นครับ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อสภาพคล่องในตลาด Bitcoin โดยรวม และอาจทำให้เทคโนโลยีเบื้องหลังอย่างบล็อกเชน (Blockchain) และระบบนิเวศคริปโตฯ ทั้งหมดได้รับความสนใจและมีเม็ดเงินไหลเข้าเพื่อพัฒนาต่อยอดมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกอย่างจะสวยหรูไปหมดนะครับ แม้จะมีข่าวดีเรื่อง bitcoin etf คือ เครื่องมือใหม่ที่น่าสนใจ แต่การลงทุนใน Bitcoin และกองทุนที่อิงกับ Bitcoin ก็ยังมีความเสี่ยงสูงอยู่ดีครับ สิ่งที่เราต้องไม่ลืมเลยก็คือ
1. ความผันผวนสูง: ราคา Bitcoin มีชื่อเสียงเรื่องความผันผวนที่รุนแรงและรวดเร็วมากๆ ครับ สามารถขึ้นหรือลงได้หลายสิบเปอร์เซ็นต์ในเวลาอันสั้น ดังนั้นต้องเตรียมใจรับความเสี่ยงตรงนี้ให้ได้
2. ความเสี่ยงทางไซเบอร์: แม้กองทุนจะมีผู้ดูแลทรัพย์สินที่ปลอดภัย แต่การที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ถือครอง Bitcoin จำนวนมหาศาล ก็อาจกลายเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้ แม้จะมีมาตรการป้องกันและประกันภัย แต่ความเสี่ยงก็ยังคงอยู่ครับ
3. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: การขุด Bitcoin (Mining) ซึ่งเป็นกระบวนการในการสร้าง Bitcoin ใหม่ๆ และตรวจสอบธุรกรรม ยังคงใช้พลังงานไฟฟ้าในปริมาณมหาศาล ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
4. ความเสี่ยงเฉพาะของ Futures ETF: หากคุณไปลงทุนใน Bitcoin Futures ETF (ซึ่งอาจจะยังมีอยู่หรือถูกพัฒนาในรูปแบบอื่น) ก็ต้องเข้าใจว่าผลตอบแทนอาจไม่ตรงกับราคา Spot เสมอไป และมีความเสี่ยงจากการจัดการสัญญาที่ซับซ้อน
5. ค่าธรรมเนียม: การลงทุนผ่าน ETF จะมีค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการกองทุนครับ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละกองทุน (จากข้อมูลพบว่ามีตั้งแต่ 0.20% ไปจนถึง 1.5% ต่อปีสำหรับกองทุนใหญ่ๆ ที่ได้รับอนุมัติ) ซึ่งเราต้องพิจารณาตรงนี้ด้วย
6. การกระจุกตัวและการขัดแย้งกับแนวคิดดั้งเดิม: การที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่เข้ามาถือครอง Bitcoin จำนวนมากผ่าน ETF อาจทำให้เกิดความกังวลเรื่อง “การกระจุกตัว” ของอำนาจ ซึ่งอาจขัดกับแนวคิดดั้งเดิมของ Bitcoin ที่ต้องการให้เป็นระบบกระจายอำนาจ (Decentralized) และเป็น Peer-to-Peer (บุคคลต่อบุคคล) อย่างแท้จริง การซื้อ Bitcoin ETF เราไม่ได้เป็นเจ้าของ Bitcoin จริงๆ ทำให้เราไม่สามารถใช้งานคุณสมบัติบางอย่างของ Bitcoin ได้ เช่น การโอนหากันโดยตรงโดยไม่ผ่านตัวกลาง
7. ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ: กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

สำหรับคนที่สนใจและอยากลองลงทุนใน bitcoin etf คือ ตอนนี้ทำได้ยังไงบ้าง? สำหรับนักลงทุนรายย่อยในประเทศไทย ตอนนี้ (ณ เวลาที่เขียนบทความนี้) เรายังไม่สามารถซื้อ Spot Bitcoin ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้โดยตรงผ่านโบรกเกอร์ไทยทั่วไปครับ แต่ถ้าใครมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างประเทศกับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่น่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานระดับสากล ก็อาจจะสามารถเข้าถึง Spot Bitcoin ETF เหล่านี้ได้ครับ

ขั้นตอนง่ายๆ ก็คือ
* เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ
* ดำเนินการยืนยันตัวตน (KYC – Know Your Customer) ให้เรียบร้อย
* ฝากเงินเข้าบัญชีซื้อขาย
* ค้นหา Bitcoin ETF ที่สนใจ (ลองหาชื่อกองทุนที่ได้รับอนุมัติ เช่น IBIT ของ BlackRock, GBTC ของ Grayscale, FBTC ของ Fidelity เป็นต้น ซึ่งแต่ละกองทุนก็จะมีรหัสตัวย่อหรือ Ticker Symbol เป็นของตัวเอง)
* เลือกประเภทคำสั่งซื้อ (เช่น Limit Order กำหนดราคาที่ต้องการซื้อ หรือ Market Order ซื้อที่ราคาตลาดปัจจุบัน)
* ยืนยันคำสั่งซื้อ
* หลังจากซื้อแล้ว ก็ต้องติดตามพอร์ตการลงทุน ข่าวสาร และแนวโน้มของตลาดอย่างสม่ำเสมอ

ลองนึกภาพเปรียบเทียบกับสินทรัพย์อื่นที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง “ทองคำ” ดูก็ได้ครับ การลงทุนในทองคำก็มี Gold ETF ให้เลือกเหมือนกัน แต่ bitcoin etf คือ อะไรที่แตกต่างออกไปพอสมควรครับ สินทรัพย์พื้นฐานต่างกันชัดเจน (Bitcoin vs ทองคำแท่ง) รูปแบบการถือครองในกองทุนก็ต่างกัน (ดิจิทัล vs ทองคำจริงในคลัง) ที่สำคัญคือเรื่อง “ความผันผวน” ครับ Bitcoin ETF จะมีความผันผวนสูงกว่า Gold ETF ที่มักถูกมองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพกว่ามาก ขณะที่กฎระเบียบของ Bitcoin ETF ยังใหม่และเปลี่ยนแปลงได้ ส่วน Gold ETF มีกรอบกำกับดูแลที่ค่อนข้างจัดตั้งแล้ว ทั้งคู่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เหมือนกัน แต่ตลาดที่จดทะเบียนและกลุ่มนักลงทุนเป้าหมายอาจแตกต่างกันไป

สรุปง่ายๆ นะครับ การอนุมัติ Spot bitcoin etf คือ ก้าวสำคัญมากๆ ที่เปิดโลกการลงทุนใน Bitcoin ให้กว้างขวางและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับนักลงทุนสถาบันและรายย่อยจำนวนมหาศาลทั่วโลก มันเพิ่มความน่าเชื่อถือและอาจดึงดูดเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ตลาด ทำให้ราคา Bitcoin มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาวได้

⚠️ ข้อควรระวัง: แม้จะมีปัจจัยบวก แต่การลงทุนใน Bitcoin หรือ Bitcoin ETF ก็ยังคงมีความเสี่ยง “สูงมาก” จากความผันผวนของราคา อาชญากรรมทางไซเบอร์ และปัจจัยอื่นๆ ที่ยังไม่แน่นอน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน “ต้อง” ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทำความเข้าใจความเสี่ยงให้ถ่องแท้ และพิจารณาจากสถานะทางการเงินและระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ หากคุณเป็นมือใหม่มากๆ อาจจะยังไม่เหมาะที่จะนำเงินก้อนใหญ่ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงแบบนี้ครับ อาจจะลองศึกษาดูก่อน เริ่มจากเงินจำนวนน้อยๆ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่มีใบอนุญาตเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณนะครับ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอครับ

LEAVE A RESPONSE