คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

ความรู้คริปโตและวิเคราะห์ราคา

5 ปี ETH: บทเรียนราคาที่ไม่ลับ ฉบับนักลงทุน

คุณเคยไหมที่รู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ ที่กำลังฉายภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่ง ซึ่งพล็อตเรื่องเต็มไปด้วยจุดพลิกผัน ชวนตื่นเต้น และบางครั้งก็ทำให้ใจหายวาบ? โลกของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหรียญอีเธอร์เรียม (Ethereum) ก็เป็นแบบนั้นแหละครับ การติดตาม ราคา eth ย้อน หลัง 5 ปี เปรียบได้กับการดูหนังมหากาพย์ ที่เต็มไปด้วยช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์และความท้าทาย

ในฐานะนักเขียนคอลัมน์การเงินที่คลุกคลีกับเรื่องนี้มานาน ผมอยากชวนคุณมาไขปริศนาไปพร้อมกันว่า ทำไมเจ้าอีเธอร์เรียมถึงได้เป็นดาวเด่นในวงการ และที่สำคัญคือ เส้นทางราคาของมันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบอกอะไรเราบ้าง เผื่อว่าใครที่กำลังคิดจะกระโดดเข้าสู่โลกดิจิทัลใบนี้จะได้เตรียมพร้อมรับมือกับการผจญภัยที่รออยู่

ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ “อีเธอร์เรียม” กันสักนิดครับ หลายคนอาจเข้าใจว่ามันเป็นแค่เหรียญคริปโตฯ อีกเหรียญหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วมันเป็นมากกว่านั้นมาก อีเธอร์เรียมคือแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากบิทคอยน์ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เหล่านักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันไร้ศูนย์กลาง (DApps) ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ หรือการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (DeFi) ที่กำลังพลิกโฉมวงการธนาคาร รวมถึงกระแสสุดฮิตอย่างโทเคน NFT (Non-Fungible Tokens) ที่ทำให้งานศิลปะหรือของสะสมดิจิทัลมีมูลค่าขึ้นมาได้ คุณไวทาลิต บูเทริน (Vitalik Buterin) ผู้ก่อตั้งอีเธอร์เรียม ก็เหมือนสถาปนิกที่วางผังเมืองดิจิทัลแห่งนี้ขึ้นมา ให้ทุกคนเข้ามาสร้างสรรค์และใช้ประโยชน์ร่วมกัน

แล้วเส้นทาง ราคา eth ย้อน หลัง 5 ปี เป็นอย่างไรบ้าง? ถ้าจะให้เปรียบก็คงเหมือนกราฟรูปฟันปลาที่ขึ้นๆ ลงๆ ชันบ้าง เรียบบ้าง บอกได้คำเดียวว่า “ผันผวนสุดๆ” ครับ ในช่วงประมาณปี 2565-2566 เราจะเห็นได้ว่าราคาของอีเธอร์เรียมมีการแกว่งตัวอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ชี้ให้เห็นว่า ราคามักจะอยู่ในช่วง 1,185.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึง 1,732.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาเคยแตะจุดสูงสุดที่ 1,732.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และเคยลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ 1,185.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2565 ปริมาณการซื้อขายก็ผันผวนไม่แพ้กัน บางวันพุ่งทะลุหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคึกคักและบางครั้งก็ความตื่นตระหนกในตลาดคริปโตฯ หากมองในระยะยาวแล้ว อีเธอร์เรียมเองก็เคยผ่านช่วงเวลาที่ตลาดซบเซาทำให้ราคาปรับตัวลงไปค่อนข้างมากในช่วงหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากมองภาพรวมตลอด 5 ปี ก็จะพบว่ามันมีการเติบโตที่น่าจับตาในหลายๆ ช่วงเวลาเช่นกัน

ส่วนหนึ่งที่ทำให้อีเธอร์เรียมแตกต่างและน่าสนใจคือ “วิวัฒนาการ” ของมันครับ ในช่วงที่ผ่านมา อีเธอร์เรียมได้ทำการอัปเกรดครั้งใหญ่ที่เรียกว่า “The Merge” หรืออีเธอร์เรียม 2.0 (Ethereum 2.0) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านกลไกการยืนยันธุรกรรมจาก Proof-of-Work (PoW) ไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ลองนึกภาพดูว่า เหมือนเราเปลี่ยนรถยนต์รุ่นเก่าที่กินน้ำมันเยอะๆ มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานและเร็วกว่าเดิมมาก เป้าหมายหลักของการอัปเกรดนี้คือ การเพิ่มขีดความสามารถของเครือข่ายให้รองรับธุรกรรมได้มากขึ้น เร็วขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งจะทำให้ DApps และ DeFi สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต การอัปเกรดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมงานในการพัฒนาและปรับปรุงเครือข่ายให้แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อรองรับการใช้งานในระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่าการพัฒนาเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและอาจมีส่วนต่อ ราคา eth ย้อน หลัง 5 ปี ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นอีเธอร์เรียมหรืออื่นๆ นั้น “มีความเสี่ยงสูงมาก” ครับ เหมือนกับการเดินป่าที่ไม่คุ้นเคย เราไม่มีทางรู้เลยว่าข้างหน้าจะเจออะไรบ้าง นักวิเคราะห์การเงินหลายคนมักจะย้ำเตือนเสมอว่า “ผลงานในอดีตไม่สามารถบ่งชี้ผลลัพธ์ในอนาคตได้” การที่ราคาอีเธอร์เรียมเคยพุ่งทะยานในอดีต ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำได้อีกในอนาคตอันใกล้ และการที่ราคาเคยร่วงหนัก ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะร่วงเสมอไป การเทรดสินทรัพย์ทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาพร้อมกับ “เลเวอเรจ” (Leverage) สูงๆ ยิ่งต้องระวังให้มาก เพราะมันสามารถนำมาซึ่งผลกำไรมหาศาล และในขณะเดียวกันก็สร้างความเสียหายให้เงินลงทุนของคุณได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ “อย่าลงทุนด้วยเงินที่คุณไม่สามารถสูญเสียได้” เหมือนคำเตือนที่ Cryptosiam และแพลตฟอร์มการลงทุนต่างๆ มักจะย้ำอยู่เสมอว่า ข้อมูลต่างๆ ที่เรานำเสนอ ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ไม่ใช่การชักชวนให้ซื้อหรือขาย และพวกเขาไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลเหล่านั้น แม้แต่หน่วยงานกำกับดูแลอย่าง NFA ในสหรัฐอเมริกาเอง ก็ยังไม่มีอำนาจครอบคลุมผลิตภัณฑ์สกุลเงินดิจิทัล แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของกฎระเบียบในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก และนักลงทุนต้องแบกรับความเสี่ยงส่วนนี้เอง

สุดท้ายนี้ การเดินทางของอีเธอร์เรียมในช่วง ราคา eth ย้อน หลัง 5 ปี และต่อไปในอนาคตยังคงน่าจับตา ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ความรู้” และ “การเตรียมพร้อม” ครับ
* **ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด:** ทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณกำลังจะลงทุนให้ถ่องแท้ ไม่ใช่แค่ตามกระแส
* **กระจายความเสี่ยง:** อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว แบ่งเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์หลายประเภท
* **เริ่มต้นจากน้อยๆ:** โดยเฉพาะมือใหม่ ลองลงทุนในจำนวนที่คุณรับความเสี่ยงได้
* **เตรียมพร้อมรับมือความผันผวน:** ตลาดคริปโตฯ ไม่เคยหลับใหล และความผันผวนคือเรื่องปกติ

จำไว้เสมอว่า การลงทุนในโลกคริปโตฯ ก็เหมือนการผจญภัยในป่าลึก ถ้าคุณเตรียมตัวให้พร้อม มีแผนที่ (ข้อมูล) และอุปกรณ์ครบครัน (ความรู้และการจัดการความเสี่ยง) การเดินทางของคุณก็จะปลอดภัยและสนุกสนานขึ้นเยอะเลยครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุน!

LEAVE A RESPONSE