เคยไหมครับ เปิดแอปฯ กระดานเทรดมาดู แล้วเห็นตัวเลขวิ่งขึ้นวิ่งลงของเจ้าเหรียญตัวหนึ่งชื่อ BNB? หรืออาจจะเคยได้ยินเพื่อนที่เทรดคริปโตพูดถึงอยู่บ่อยๆ? สำหรับหลายคนในไทย การดูราคาเหรียญนี้เทียบกับเงินบาท (`bnb ราคาบาท`) ถือเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่รู้ไหมครับว่าเจ้า BNB นี่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขบนหน้าจอ แต่เป็นหัวใจสำคัญของโลกคริปโตใบใหญ่ที่ชื่อว่า Binance เลยนะ แล้วทำไมราคาของมันถึงน่าสนใจ? มีกลไกอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลัง? วันนี้เรามาเจาะลึกเรื่องนี้แบบเข้าใจง่ายๆ สไตล์คอลัมนิสต์การเงินที่อยากเล่าให้เพื่อนฟังกันดีกว่าครับ

ก่อนอื่นเลย BNB ย่อมาจาก Binance Coin ครับ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามันผูกกับ Binance ซึ่งเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก เจ้าเหรียญ BNB เนี่ย เปรียบเสมือน ‘กุญแจสารพัดประโยชน์’ ในระบบนิเวศของ Binance เลยครับ มันถูกสร้างขึ้นครั้งแรกผ่านการระดมทุนแบบ ICO (การเสนอขายโทเคนครั้งแรก) ในปี 2560 ก่อนที่กระดานเทรด Binance จะเปิดตัวเสียอีก เดิมทีมันอยู่บนเครือข่าย Ethereum (อีเธอเรียม) ในรูปแบบ ERC-20 แต่ต่อมาในเดือนเมษายน ปี 2562 Binance ก็พัฒนาเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเองขึ้นมาเรียกว่า Binance Chain (ต่อยอดมาเป็น BNB Chain ในปัจจุบัน) และย้าย BNB ทั้งหมดมาอยู่บนเครือข่ายนี้ในอัตราส่วน 1:1 เพื่อให้การทำธุรกรรมต่างๆ รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แล้วเจ้ากุญแจสารพัดประโยชน์นี้เอาไปทำอะไรได้บ้าง? เยอะแยะเลยครับ หลักๆ ที่คนใช้กันบ่อยคือเอาไปจ่ายค่าธรรมเนียมการเทรดบนกระดานเทรด Binance ซึ่งจะได้ส่วนลดด้วย (ยิ่งถือ BNB เยอะและเทรดมาก ส่วนลดก็ยิ่งเยอะตามเงื่อนไข) นอกจากนี้ BNB ยังใช้เป็นตัวกลางในการเข้าร่วมโครงการขายโทเคนใหม่ๆ บน Binance Launchpad (คล้ายๆ การจองซื้อหุ้น IPO ในตลาดหุ้น แต่เป็นโลกคริปโต) ใช้ขับเคลื่อนการทำงานบน Binance DEX (การแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจของ Binance) และมีแอปพลิเคชันอื่นๆ อีกมากมายในระบบนิเวศของ BNB Chain ทั้งเรื่อง DeFi (การเงินแบบกระจายอำนาจ), เกม, NFT (Non-Fungible Token) และอื่นๆ อีกเพียบครับ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมความต้องการใช้งาน BNB ถึงยังมีอยู่ต่อเนื่อง และส่งผลต่อ `bnb ราคาบาท` ที่เราเห็นนั่นแหละครับ
ทีนี้มาดูเรื่องที่คนให้ความสนใจมากที่สุดคือ ‘ราคา’ ครับ ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2567 ที่ผมอ้างอิงข้อมูลล่าสุด ราคา BNB วิ่งอยู่ราวๆ 600.76 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเหรียญครับ ซึ่งถ้าแปลงเป็น `bnb ราคาบาท` ก็จะอยู่ที่ประมาณสองหมื่นกว่าบาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในตอนนั้น มูลค่าตลาดรวมของ BNB ตอนนี้ใหญ่มากๆ ครับ อยู่ที่ประมาณ 88.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มันเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัล (Digital Currency) ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก อยู่ในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว (ปัจจุบันคืออันดับ 4 ครับ) ปริมาณการซื้อขายในรอบ 24 ชั่วโมงก็สูงถึง 1.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ามีการซื้อขายค่อนข้างคึกคักครับ

ถ้าลองย้อนดูการเคลื่อนไหวราคาในช่วงที่ผ่านมา BNB ค่อนข้างผันผวนครับ ใน 7 วันที่ผ่านมา ราคาลดลงไปประมาณ 12% ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของตลาดคริปโต แต่ถ้ามองในกรอบ 30 วัน 60 วัน หรือ 90 วัน ราคายังคงปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย ประมาณ 2-8% ซึ่งนี่แหละครับคือธรรมชาติของตลาดคริปโตที่มีทั้งขึ้นและลง ราคาต่ำสุดใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 590.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสูงสุดอยู่ที่ 611.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนราคาสูงสุดตลอดกาล (All-Time High) ของ BNB เคยขึ้นไปสูงถึง 720.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ ตัวเลขเหล่านี้บอกเราว่า BNB มีประวัติที่น่าสนใจและมีความผันผวนตามกลไกตลาดอย่างชัดเจน ข้อมูลราคาเหล่านี้ผมอ้างอิงจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น Binance และ CoinMarketCap ณ วันที่ระบุไว้นะครับ
แต่สิ่งที่ทำให้ BNB แตกต่างและน่าสนใจในแง่ของกลไกทางเศรษฐศาสตร์เหรียญ (Tokenomics) ก็คือระบบ ‘การเผาเหรียญ’ หรือ BNB Burn ครับ Binance จะทำการเผาเหรียญ BNB ทิ้งในทุกๆ ไตรมาส ซึ่งเป็นการลดจำนวนอุปทานหมุนเวียน (Circulating Supply) ของเหรียญลงเรื่อยๆ โดยวิธีการคือ Binance จะนำผลกำไรส่วนหนึ่งของบริษัท (ในอดีตเคยมีการระบุว่าประมาณ 20% จากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ BNB) มาซื้อ BNB ในตลาดคืน แล้วนำเหรียญที่ซื้อมานั้น ‘เผา’ ทิ้งไปตลอดกาล ทำให้เหรียญจำนวนนั้นหายไปจากระบบอย่างถาวร เป้าหมายสูงสุดของกลไกนี้คือการลดจำนวนอุปทานทั้งหมด (Total Supply) ของ BNB ที่เดิมมี 200 ล้านเหรียญ ให้เหลือเพียง 100 ล้านเหรียญ หรือครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ปล่อยขายในตอน ICO กลไกนี้สำคัญมากครับ เพราะมันช่วย ‘ลดจำนวน’ เหรียญในระบบอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความต้องการใช้งานยังมีอยู่ ซึ่งตามหลักเศรษฐศาสตร์ง่ายๆ แล้ว เมื่ออุปทานลดลง แต่ความต้องการยังคงเดิม หรือเพิ่มขึ้น ราคาของสิ่งนั้นก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นได้ในอนาคต เป็นเหมือนการสร้างภาวะเงินฝืดให้กับเหรียญนั่นเองครับ นี่คือปัจจัยพื้นฐานที่หลายคนมองว่าอาจส่งผลดีต่อ `bnb ราคาบาท` ในระยะยาว
แล้วคนไทยอย่างเราล่ะ เกี่ยวอะไรกับ `bnb ราคาบาท` โดยตรง? อย่างที่บอกครับ เราสามารถเข้าถึงการซื้อขาย BNB ได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Binance โดยใช้เงินบาทไทย (Thai Baht – THB) ครับ การแปลงระหว่าง BNB และ บาทไทย เป็นเรื่องปกติในการเทรดบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ แม้จะมีข้อจำกัดบางอย่างเกี่ยวกับการควบคุมเงินบาทบนบก (Onshore Baht) ของรัฐบาลไทยสำหรับการแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศโดยตรงเพื่อจำกัดการเก็งกำไร ซึ่งอาจทำให้ต้องผ่านกระบวนการบางอย่างที่ซับซ้อนขึ้นสำหรับสถาบันการเงินนอกประเทศ แต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่เทรดบนกระดานเทรดที่รองรับเงินบาท การดู `bnb ราคาบาท` และทำการซื้อขายเป็นเรื่องที่ทำได้สะดวกครับ อัตราแลกเปลี่ยน BNB/THB ที่เราเห็นจะเปลี่ยนแปลงไปตามราคา BNB ในตลาดโลก (ที่อ้างอิงกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหลัก) และอัตราแลกเปลี่ยน THB กับสกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ ดังนั้นเวลาดู `bnb ราคาบาท` ก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยทั้งสองส่วนนี้ด้วย ข้อมูลอัตราแลกเปลี่ยนมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลาครับ

ถ้าลองดูจากตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) ต่างๆ เช่น Oscillators (ตัวชี้วัดออสซิลเลเตอร์) หรือ Moving Averages (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) ในภาพรวม ณ ตอนนี้ สัญญาณจากเครื่องมือเหล่านี้บอกว่าสถานการณ์ของ BNB ยังอยู่ในโซน ‘เป็นกลาง’ ครับ หมายความว่ายังไม่มีสัญญาณซื้อหรือขายที่ชัดเจนมากนักจากมุมมองการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งก็สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสั้นๆ ที่ไม่ได้พุ่งแรงหรือดิ่งลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเท่านั้นนะครับ การวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ดูแนวโน้มราคาจากสถิติในอดีต ไม่ได้การันตีอนาคตครับ
โดยสรุปแล้ว BNB เป็นมากกว่าแค่เหรียญคริปโตทั่วไป แต่เป็นโทเคนยูทิลิตี้ที่มีการใช้งานจริงและมีกลไกทางเศรษฐศาสตร์อย่างการเผาเหรียญคอยสนับสนุน ซึ่งอาจส่งผลต่อ `bnb ราคาบาท` ในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ราคาของ BNB มีความผันผวนสูงมากครับ ทั้งจากปัจจัยภายในของระบบนิเวศ Binance เอง และปัจจัยภายนอกของตลาดคริปโตโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารด้านกฎระเบียบ, สภาพเศรษฐกิจมหภาค หรือแม้แต่อารมณ์ของตลาดโดยรวม (Market Sentiment) ด้วยครับ
ดังนั้น หากคุณสนใจ BNB ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านการใช้งาน (เช่น ลดค่าธรรมเนียม) หรือการลงทุน สิ่งสำคัญที่สุดคือการ ‘ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง’ (Do Your Own Research – DYOR) อย่างรอบด้าน ทำความเข้าใจลักษณะของเหรียญ, กลไกการทำงาน, แผนในอนาคตของโปรเจกต์ และที่สำคัญที่สุดคือ ‘ทำความเข้าใจความเสี่ยง’ อย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจเสมอครับ อย่าลืมว่าการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเสมอ หากเงินส่วนนี้ไม่ใช่เงินเย็น หรือเงินที่คุณพร้อมจะเสียไปได้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด อย่าเพิ่งรีบกระโดดเข้ามานะครับ ค่อยๆ ศึกษาและวางแผนการเงินของตัวเองให้รอบคอบก่อนเสมอ การดู `bnb ราคาบาท` เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการศึกษาเท่านั้นครับ ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณต้องเรียนรู้ก่อนที่จะนำเงินไปลงทุนจริงครับ