คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

ความรู้คริปโตและวิเคราะห์ราคา

ข่าวluna สอนอะไร? ไขบทเรียนเจ็บ คริปโตต้องรู้!

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักการลงทุนและติดตามข่าวสารวงการคริปโตทุกท่าน ผมในฐานะคอลัมนิสต์การเงินที่เห็นตลาดขึ้นๆ ลงๆ มานานหลายปี อดไม่ได้ที่จะหยิบยกเรื่องราวที่เป็นเหมือน “บทเรียนราคาแพง” ของวงการสินทรัพย์ดิจิทัลมาเล่าสู่กันฟังครับ เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ข่าวluna หรือ ข่าวล่มสลายของโปรเจกต์ Terra (เทอร์ร่า)/Luna (ลูน่า) ก็ยังคงเป็นที่พูดถึงและเป็นกรณีศึกษาอยู่เสมอ

จำกันได้ไหมครับว่าช่วงปี 2564 ตลาดคริปโตฯ นี่คึกคักขนาดไหน Bitcoin (บิตคอยน์) ทะยานไปทำจุดสูงสุดใหม่ หลายคนฝันหวานถึงอิสรภาพทางการเงิน แต่แล้วปี 2565 ที่ผ่านมา ตลาดก็เข้าสู่ช่วงที่เรียกว่า “ตลาดหมี” ราคาเหรียญต่างๆ พาเหรดกันดิ่งลง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทำเอาหลายคนหัวใจสลายก็คือ การล่มสลายของเหรียญชื่อดังอย่าง Terra (เทอร์ร่า) และเหรียญคู่บุญอย่าง LUNA (ลูน่า) ครับ

โปรเจกต์ Terra (เทอร์ร่า) นั้นก่อตั้งโดยคุณ แดเนียล ชิน (Daniel Shin) และคุณ โด ควอน (Do Kwon) ซึ่งตอนนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ถูกทางการหลายประเทศตามตัว จุดประสงค์แรกเริ่มคือการสร้าง Stablecoin (สเตเบิลคอยน์) ที่มีชื่อว่า TerraUSD (UST หรือ ยูเอสที) เป็นเหรียญที่มีกลไกตรึงราคาให้เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยใช้วิธี “อัลกอริทึม” ไม่ได้ใช้สินทรัพย์จริงๆ มาค้ำแบบ Stablecoin อื่นๆ อย่าง USDC (ยูเอสดีซี) หรือ USDT (ยูเอสดีที) แต่ใช้เหรียญ LUNA เป็นตัวช่วยรักษาสมดุลผ่านกลไก “พิมพ์และเผา” (Minting & Burning) อธิบายง่ายๆ ก็คือ ถ้าเหรียญ UST ราคาต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ฯ ระบบก็จะพิมพ์ LUNA ออกมาขาย เพื่อเอาเงินไปซื้อ UST กลับมาเผาให้ราคามันเด้งขึ้นไป หรือถ้า UST ราคาสูงกว่า 1 ดอลลาร์ฯ ระบบก็จะให้คนเอา UST มาแลกเป็น LUNA แล้วเอา UST ที่ได้ไปเผา เพื่อลดปริมาณ UST ในระบบ กลไกนี้อาศัยนักเก็งกำไร (Arbitrageur) เป็นตัวช่วยให้ระบบทำงาน

ฟังดูดีใช่ไหมครับ เหรียญ LUNA เนี่ยเคยมีมูลค่าตลาดสูงติดอันดับต้นๆ ของโลกคริปโตฯ เลยทีเดียว แต่จุดอ่อนสำคัญของระบบนี้ก็คือ ถ้าเหรียญ LUNA ตัวที่เป็นกลไกหลักในการรักษาสมดุลเกิด “ไร้มูลค่า” ขึ้นมา ระบบทั้งหมดก็จะพังครืนลงทันที ซึ่งสิ่งที่หลายคนกลัวก็เกิดขึ้นจริงในเดือนพฤษภาคม ปี 2565 ครับ อยู่ๆ เหรียญ UST ก็เริ่มหลุดการตรึงราคา (หลุด Peg) จาก 1 ดอลลาร์ฯ และเมื่อ UST หลุด Peg นักลงทุนก็พากันเทขาย LUNA เพื่อหนีตาย ราคา LUNA ก็ดิ่งลงเหวอย่างรุนแรง ชนิดที่ว่าลดลงกว่า 99% ในเวลาไม่กี่วัน มูลค่าความเสียหายในตลาดจากเหตุการณ์ Terra (เทอร์ร่า)/LUNA (ลูน่า) นี้สูงถึงกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ทำลายโปรเจกต์ แต่ยังสั่นคลอนความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตฯ ทั่วโลกอย่างรุนแรง ข่าวluna กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง

หลังมรสุม ข่าวluna สงบลง ก็ถึงคิวการดำเนินคดีทางกฎหมายครับ ทางการเกาหลีใต้ (South Korea) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณ โด ควอน (Do Kwon) ก็ประกาศออกหมายจับเขาและทีมงานทันทีในข้อหาที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนกฎหมายระดมทุน ไม่ใช่แค่ที่เกาหลีใต้ครับ ในสหรัฐฯ (United States) คุณ โด ควอน ก็เจอข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงไม่แพ้กันจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) และกระทรวงยุติธรรม ทั้งข้อหาฉ้อโกงหลักทรัพย์ ฉ้อโกงผ่านระบบโทรคมนาคม ฉ้อโกงสินค้าโภคภัณฑ์ และสมคบกันฟอกเงิน ซึ่งคุณ โด ควอน ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในศาลสหรัฐฯ แต่สุดท้ายในการพิจารณาคดีแพ่งที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ เป็นโจทก์ คณะลูกขุนในแมนฮัตตัน (Manhattan) ก็ตัดสินว่าเขาและบริษัท Terraform Labs (Terraform Labs) มีความผิดฐานฉ้อโกงนักลงทุน และล่าสุดทั้งคู่ก็ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับและชดใช้ความเสียหายจำนวนมหาศาลรวมแล้วกว่า 4.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำให้เห็นว่า ภายใต้คำว่า “อัลกอริทึม” หรือ “เทคโนโลยี” อาจมีช่องโหว่หรือแม้แต่การฉ้อฉลซ่อนอยู่

นอกจากความเสี่ยงจากระบบที่ซับซ้อนและอาจล่มสลายเหมือนที่เกิดขึ้นกับ ข่าวluna แล้ว ตลาดคริปโตฯ ยังมีความเสี่ยงและกลโกงอื่นๆ อีกที่นักลงทุนต้องระวังนะครับ อย่างที่ได้ยินบ่อยๆ คือ “Rug Pull” (ดึงพรม) ซึ่งก็คือการที่เจ้าของโปรเจกต์คริปโตฯ ถอนเงินของนักลงทุนที่เข้ามาถือเหรียญออกไปจนหมด หรือการ “ปั่นราคา” เหรียญ ทำให้ราคาพุ่งสูงผิดปกติก่อนจะทุบขายทำกำไร และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในประเทศไทย (Thailand) คือ กรณี “แชร์ลูกโซ่” ที่อ้างการลงทุนในคริปโตฯ ล่าสุด DSI (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายจำนวนมากในหลายคดี สูญเงินกันไปเป็นพันล้านบาท ซึ่งผู้ที่เข้ามาหลอกลวงมักจะสร้างโปรไฟล์ให้ดูน่าเชื่อถือมากๆ เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ

บทเรียนจาก ข่าวluna และเหตุการณ์ต่างๆ ในตลาดคริปโตฯ ชี้ให้เห็นว่า แม้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีความน่าสนใจและมีโอกาส แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่สูงมาก โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านระบบ ความเสี่ยงจากการถูกฉ้อโกง และความเสี่ยงด้านกฎหมายที่ยังไม่ชัดเจนในหลายๆ ส่วน

ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาดนี้ หรือกำลังถือครองเหรียญอยู่แล้ว อยากฝากข้อคิดไว้ให้พิจารณาครับ:

⚠️ ศึกษาให้ลึกซึ้งก่อนตัดสินใจ: ทำความเข้าใจว่าเหรียญหรือโปรเจกต์นั้นคืออะไร มีกลไกทำงานแบบไหน ใครอยู่เบื้องหลัง มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน อย่าเพิ่งรีบลงทุนตามเพื่อนหรือตามกระแส

⚠️ ระวังคำสัญญาที่ดูดีเกินจริง: ถ้ามีใครเสนอผลตอบแทนที่สูงลิ่วและรับประกันว่าจะได้กำไรแน่ๆ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นกลโกง โดยเฉพาะรูปแบบแชร์ลูกโซ่ที่เน้นการหาคนใหม่ๆ มาต่อยอด

⚠️ ยอมรับความเสี่ยง: ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเฉพาะเงินที่คุณพร้อมจะเสียไปได้ทั้งหมด เพราะราคาสามารถผันผวนรุนแรงและมีโอกาสล่มสลายได้เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับ ข่าวluna ในอดีต

⚠️ ติดตามข่าวสารและกฎระเบียบ: ตลาดคริปโตฯ ยังมีการเปลี่ยนแปลงและถูกจับตาจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก การรับรู้ข่าวสารล่าสุดจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น

ตลาดคริปโตฯ ยังคงเติบโตและมีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอครับ แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยโอกาส ก็ย่อมมีภัยซ่อนอยู่เสมอ การลงทุนอย่างมีสติ รอบคอบ และไม่ประมาท คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนแห่งนี้ได้ครับ.

LEAVE A RESPONSE