คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

ความรู้คริปโตและวิเคราะห์ราคา

ขายรูป NFT คืออะไร? ไขความลับโอกาสทอง หรือแค่กระแส?

หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องแปลกๆ ในโลกออนไลน์ ว่ามีคนเอา “รูปภาพดิจิทัล” มาขายได้ในราคาหลักล้านบาท หรือแม้แต่หลักพันล้านบาท! ฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง และกำลังเป็นกระแสที่คนทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด ปรากฏการณ์นี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า NFT ครับ หรือที่หลายคนสงสัยว่าจริงๆ แล้ว ขายรูป nft คืออะไรกันแน่ ทำไมถึงฮิตกันขนาดนี้ แล้วมันน่าเข้าไปลองไหม

ในฐานะคนเขียนคอลัมน์การเงินมานาน ผมเห็นเรื่องใหม่ๆ มาเยอะ แต่ NFT นี่จัดว่าน่าสนใจจริงๆ มันไม่ใช่แค่เรื่องการเอาของมาขายแพงๆ แต่มันคือเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ที่กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในหลายวงการ วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องนี้แบบสบายๆ เหมือนคุยกับเพื่อน แต่เน้นให้เข้าใจง่าย ได้สาระ และรู้เท่าทันโลกการเงินยุคใหม่

**NFT คืออะไร? ต่างจากคริปโตฯ ยังไง?**

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจพื้นฐานกันก่อนครับ NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token (อ่านว่า นัน-ฟัน-จิ-เบิล โทเค็น) ชื่อฟังดูซับซ้อน แต่หลักการง่ายๆ คือ มันคือ “โทเค็นดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้”

นึกภาพง่ายๆ ว่า คริปโตเคอร์เรนซี อย่าง Bitcoin หรือ Ethereum มันเหมือนธนบัตร 100 บาทครับ ธนบัตร 100 บาทใบไหนก็มีมูลค่าเท่ากัน แลกเปลี่ยนกันได้ ใครมี Bitcoin 1 เหรียญ ก็มีมูลค่าเท่ากับอีกคนที่มี Bitcoin 1 เหรียญเป๊ะๆ อันนี้เรียกว่า Fungible (ทดแทนกันได้)

แต่ NFT ไม่ใช่แบบนั้นครับ NFT แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร และไม่สามารถเอาอีกชิ้นมาแทนที่กันได้ เหมือนคุณมีงานศิลปะภาพวาด Mona Lisa (โมนาลิซา) ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ (Louvre Museum) ที่ฝรั่งเศส ภาพ Mona Lisa ภาพเดียวในโลกนั้นไม่สามารถเอาภาพวาดอื่นมาแทนที่ได้ ต่อให้เป็นภาพที่สวยเหมือนกันแค่ไหนก็ตาม

แล้ว NFT ทำหน้าที่อะไร? มันทำหน้าที่เป็น “หลักฐานการเป็นเจ้าของ” สินทรัพย์ดิจิทัลนั้นๆ ครับ เช่น ถ้าคุณซื้อ NFT ของภาพวาดดิจิทัลชิ้นหนึ่ง NFT นั้นก็จะบันทึกข้อมูลไว้บนเทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน (Blockchain) ว่าคุณคือเจ้าของภาพต้นฉบับที่เป็นเอกลักษณ์ชิ้นนี้ ข้อมูลนี้ไม่สามารถปลอมแปลงหรือแก้ไขได้ เพราะมันถูกบันทึกและตรวจสอบโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์จำนวนมากบนบล็อกเชน

ดังนั้น เวลาพูดถึง ขายรูป nft คืออะไร ก็คือการที่คุณนำรูปภาพดิจิทัลที่คุณสร้างขึ้นมา (หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ เช่น ไฟล์เพลง วิดีโอ ทวีต ไอเท็มในเกม) มาแปลงให้อยู่ในรูปแบบของ NFT เพื่อให้มันมี “ความเป็นเจ้าของ” ที่ชัดเจน พิสูจน์ได้ และนำไปขายบนแพลตฟอร์มซื้อขายเฉพาะทางนั่นเองครับ

**ทำไม NFT ถึงบูมขึ้นมา?**

กระแส NFT เริ่มมาแรงมากๆ ในช่วงปี 2021 ครับ ข้อมูลจากหลายแหล่งชี้ตรงกันว่า ยอดขาย NFT ทั่วโลกเติบโตแบบก้าวกระโดด จากประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 พุ่งไปกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2021 และแพลตฟอร์มซื้อขายขนาดใหญ่อย่าง OpenSea เคยมีปริมาณซื้อขายสูงสุดถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์บางปีที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ เลย

อะไรที่ทำให้มันฮิตขนาดนี้?

1. **ยุคแห่งดิจิทัลและของสะสม:** ผู้คนคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ และการสะสมของก็เป็นพฤติกรรมพื้นฐานของมนุษย์ NFT เป็นการนำสองสิ่งนี้มารวมกัน คุณสามารถสะสม “ของหายาก” ในรูปแบบดิจิทัลได้
2. **ศิลปินและผู้สร้างสรรค์ได้ประโยชน์โดยตรง:** เดิมที ศิลปินดิจิทัลอาจจะประสบปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือต้องผ่านตัวกลางหลายชั้นในการขายผลงาน แต่ NFT ช่วยให้พวกเขาสามารถ ขายรูป nft คือ ผลงานของตัวเองได้โดยตรงบนแพลตฟอร์ม และที่เจ๋งกว่านั้นคือ ศิลปินสามารถตั้งค่าให้ได้รับ “ค่าลิขสิทธิ์” (Royalty) จากการขายซ้ำในอนาคตได้ด้วย! สมมติคุณขายภาพ NFT ไป 100 บาท แล้วคนซื้อเอาไปขายต่อได้ 1000 บาท ถ้าคุณตั้งค่าไว้ว่าจะได้ Royalty 10% คุณก็จะได้เงินเพิ่มอีก 100 บาทจากการขายครั้งที่สองนี้ เป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนสำหรับผู้สร้างครับ
3. **นักลงทุนหน้าใหม่ให้ความสนใจ:** ด้วยกระแสและตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้น NFT กลายเป็นช่องทางการลงทุนและการเก็งกำไรที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่หลายคน พวกเขาเชื่อว่า NFT บางชิ้นจะได้รับความนิยมและมีราคาสูงขึ้นในอนาคต เหมือนกับการซื้อขายงานศิลปะหรือของสะสมทั่วไป แต่ย้ายมาอยู่บนโลกดิจิทัล
4. **การใช้งานที่หลากหลาย:** NFT ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รูปภาพ แต่ขยายไปสู่ วงการเกม (ไอเท็มหายาก ตัวละคร), ดนตรี (เพลงพิเศษ อัลบั้มลิมิเต็ด), กีฬา (ช่วงเวลาเด็ดๆ ของนักกีฬา เช่น NBA Top Shot), ที่ดินเสมือน (ในโลกเสมือนจริงอย่าง Decentraland หรือ The Sandbox) และยังมีศักยภาพจะนำไปใช้กับสินทรัพย์อื่นๆ ได้อีกในอนาคต แม้แต่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มมีการพูดถึงการนำ NFT มาใช้เป็นหลักฐานการเป็นเจ้าของหรือสิทธิ์ต่างๆ ครับ

**ตัวเลขที่ทำให้ตาโต**

ลองมาดูตัวอย่างการ ขายรูป nft คือ และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ที่ทำราคาสูงจนน่าตกใจบ้างครับ ตัวเลขเหล่านี้มาจากข้อมูลจริงที่เกิดขึ้น:

* ผลงานชื่อ “Everydays: The First 5,000 Days” ของศิลปินดิจิทัลชื่อดัง Beeple ถูกประมูลไปในราคา 69.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประมาณ 2,204 ล้านบาท! นี่คือการประมูลงานศิลปะที่ยังมีชีวิตอยู่ที่มีราคาสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว
* ทวีตแรกในประวัติศาสตร์ของ Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ถูกขายเป็น NFT ได้ในราคา 1,630 Ether (สกุลเงินดิจิทัล) ซึ่งในตอนนั้นมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 90 ล้านบาท
* ภาพถ่ายที่เป็นมีม (Meme) โด่งดัง “Disaster Girl” ก็ถูกขายเป็น NFT ได้ราคาถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ
* การ์ดสะสมดิจิทัลของช็อตดัง Lebron James (เลอบรอน เจมส์) ในโครงการ NBA Top Shot ถูกขายไปในราคามากกว่า 6.6 ล้านบาท
* NFT รูป Bored Ape (ลิงหน้าเบื่อ) จากคอลเลกชัน Bored Ape Yacht Club ที่ Justin Bieber (จัสติน บีเบอร์) ซื้อ ถูกรายงานว่ามีราคาสูงถึง 500 ETH คิดเป็นเงินไทยตอนนั้นประมาณ 45 ล้านบาท
* คอลเลกชันภาพเซลฟี่ “Ghozali Everyday” ของหนุ่มชาวอินโดนีเซีย Ghozali Ghozalu ซึ่งเขาถ่ายรูปตัวเองทุกวันเป็นเวลาหลายปี แล้วนำมา ขายรูป nft คือ ผลงานชุดนี้ทำมูลค่ารวมได้ถึง 304 ETH หรือประมาณ 33 ล้านบาท! จากการถ่ายเซลฟี่ธรรมดาๆ กลายเป็นเศรษฐี NFT ไปเลย
* ในไทยเองก็มีตัวอย่าง อย่างเสียง Tagline ของ YOUNGOHM (ยังโอม) แร็ปเปอร์ชื่อดัง ที่ถูกนำมาทำเป็น NFT ในโปรเจกต์ NFT1 ก็ประมูลได้ราคาสูงถึง 129,000 บาทในการประมูลล่าสุด

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและเม็ดเงินมหาศาลที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด NFT ซึ่งดึงดูดทั้งศิลปิน นักสะสม และนักลงทุนเข้ามาอย่างล้นหลาม

**แล้วในประเทศไทยล่ะ?**

กระแส NFT ก็เข้ามาในประเทศไทยเช่นกันครับ มีแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขาย NFT สัญชาติไทยเปิดให้บริการแล้วหลายแห่ง และแบรนด์ใหญ่ๆ ในไทยก็เริ่มให้ความสนใจและนำ NFT มาใช้ในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้โทเค็นพิเศษสำหรับเข้าพื้นที่ หรือการจัดงานให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังมองว่า NFT อาจมีบทบาทสำคัญในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในอนาคตได้ด้วย เช่น การนำมาใช้บันทึกสิทธิ์การซื้อ ขาย หรือเช่า ที่ดินหรืออาคารในรูปแบบดิจิทัล

ความสนใจนี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยก็กำลังจับตาดูและอยากทำความเข้าใจว่า ขายรูป nft คือ โอกาสใหม่ในการสร้างรายได้และลงทุนหรือไม่

**ข้อดีและข้อควรระวัง: เหรียญสองด้านของ NFT**

ทุกเรื่องราวที่มีโอกาสมักมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอครับ NFT ก็เช่นกัน เรามาดูข้อดีและข้อควรระวังกัน

**ข้อดี:**

* **ยืนยันความเป็นเจ้าของที่ชัดเจน:** อย่างที่บอกไป NFT ช่วยให้คุณพิสูจน์ได้ว่าเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลชิ้นนั้นๆ อย่างถูกต้อง ไม่ต้องกลัวการปลอมแปลง
* **ตลาดตรงสำหรับผู้สร้าง:** ศิลปิน นักดนตรี หรือผู้สร้างสรรค์เนื้อหาสามารถเข้าถึงตลาดและผู้ซื้อได้โดยตรง ตัดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายของตัวกลางไปได้เยอะ
* **บันทึกธุรกรรมปลอดภัยบนบล็อกเชน:** ทุกการซื้อขายและข้อมูลความเป็นเจ้าของถูกบันทึกบนบล็อกเชน ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและตรวจสอบได้

**ข้อควรระวังและความเสี่ยง:**

* **ราคาผันผวนสูงมาก:** มูลค่าของ NFT ขึ้นอยู่กับความต้องการ (อุปสงค์) และความพอใจของผู้คนเป็นหลัก มันไม่ได้มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมารองรับเหมือนหุ้น หรือไม่ได้มีหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเหมือนเงินตรา ทำให้ราคาขึ้นอยู่กับ “กระแส” และ “การให้คุณค่า” เป็นอย่างมาก ซึ่งหมายความว่าราคาอาจพุ่งขึ้นสูงลิ่ว และตกลงมาแรงแบบไม่ทันตั้งตัวได้เช่นกัน คล้ายๆ กับความเสี่ยงของภาวะ “ฟองสบู่” ที่นักลงทุนบางส่วนเป็นกังวล
* **ความซับซ้อนของเทคโนโลยี:** การจะเข้าสู่โลก NFT ได้ คุณต้องเข้าใจเรื่องบล็อกเชน กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่ใช้เก็บ NFT และสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงศัพท์เฉพาะทางอื่นๆ อย่าง “วลีรหัส” (Seed Phrase) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึง Wallet ของคุณ หากทำหายหรือหลุดไปอาจสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดได้
* **ค่าธรรมเนียมเครือข่าย (Gas Fee):** การทำธุรกรรมบางอย่างบนบล็อกเชน (โดยเฉพาะบนเครือข่าย Ethereum ในช่วงที่คนใช้งานเยอะๆ) มีค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า Gas Fee ซึ่งบางครั้งอาจมีราคาสูงมาก ทำให้การซื้อขาย NFT ชิ้นเล็กๆ อาจไม่คุ้มกับค่าธรรมเนียม
* **ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:** บล็อกเชนบางประเภทที่ใช้ในการสร้าง NFT ยังคงใช้พลังงานในการประมวลผลสูงมาก ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แม้ว่าเทคโนโลยีจะกำลังพัฒนาไปสู่การใช้พลังงานที่น้อยลงแล้วก็ตาม
* **ความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินมหาศาล:** ด้วยความผันผวน ความซับซ้อน และความใหม่ของตลาด หากไม่มีความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอ คุณอาจลงทุนผิดพลาดและสูญเสียเงินทั้งหมดที่ลงทุนไปได้

**มุมมองผู้เชี่ยวชาญและคำแนะนำ**

Raghavendra Rau (รากาเวนทรา เรา) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) เคยให้มุมมองที่น่าสนใจว่า กระแส NFT ที่บูม อาจเป็นผลมาจากการที่ผู้คนไม่มี “ความสนุกเพียงพอ” ในการใช้จ่ายในช่วงที่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 จำกัดกิจกรรมต่างๆ ทำให้หันมาใช้จ่ายกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่แปลกใหม่แทน ซึ่งมุมมองนี้ชี้ให้เห็นว่าเทรนด์นี้อาจไม่ได้คงอยู่ถาวร และมีความเสี่ยงที่จะเป็นเพียงกระแสฉาบฉวย

ผศ. ดร. รุ่งเกียรติ รัตนบานชื่น จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้เคยให้ข้อคิดว่า มูลค่าของ NFT นั้นเกิดจากการที่มนุษย์ “ให้คุณค่า” กับมัน ไม่ใช่ว่า NFT มีมูลค่าในตัวเอง และความเสี่ยงหลักคือเรื่องความผันผวนของราคาที่สูงมาก

**คำแนะนำที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจ** ไม่ว่าคุณจะอยากลอง ขายรูป nft คือ ผลงานของคุณ หรืออยากจะเข้าไปลงทุนซื้อ NFT เก็งกำไรก็ตาม นั่นคือ “**ศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ**”

คุณต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า NFT ทำงานอย่างไร กระเป๋าเงินดิจิทัลใช้ยังไง การดูแลรักษาวลีรหัสสำคัญแค่ไหน ค่าธรรมเนียมต่างๆ มีอะไรบ้าง และแพลตฟอร์มที่คุณจะใช้งานมีความน่าเชื่อถือหรือไม่

อย่าเพิ่งกระโดดเข้าไปเพียงเพราะเห็นตัวเลขราคาที่พุ่งสูง หรือเห็นคนอื่นรวยจากการซื้อขาย NFT เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง และในตลาดที่ใหม่และผันผวนสูงอย่าง NFT ความเสี่ยงยิ่งทวีคูณครับ

**สรุป**

NFT คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำหน้าที่เป็นหลักฐานการเป็นเจ้าของบนเทคโนโลยีบล็อกเชน มันเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้สร้างสรรค์ในการ ขายรูป nft คือ ผลงานและสร้างรายได้โดยตรง รวมถึงเป็นสนามใหม่ให้นักลงทุนได้เข้ามาเก็งกำไร

ตลาดนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว มีตัวเลขการซื้อขายที่น่าทึ่ง และกำลังขยายการใช้งานไปยังวงการต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ในประเทศไทยก็เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม โลกของ NFT ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูง ทั้งจากความผันผวนของราคา ความซับซ้อนทางเทคโนโลยี และความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินลงทุน

⚠️ หากคุณสนใจที่จะเข้าสู่โลกของ NFT ไม่ว่าจะในฐานะผู้สร้างหรือนักลงทุน โปรดจำไว้ว่านี่คือตลาดที่มีความเสี่ยงสูงมาก ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทำความเข้าใจกลไกและความเสี่ยงอย่างถ่องแท้ และ **ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าลงทุนด้วยเงินที่คุณไม่พร้อมจะสูญเสีย หรือเป็นเงินที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต** การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง ควรใช้เงินเย็นเท่านั้น และควรประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ก่อนเสมอ

โลกดิจิทัลก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดนิ่ง NFT เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของนวัตกรรมที่เกิดขึ้น การเรียนรู้และทำความเข้าใจคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณอยู่รอดและอาจคว้าโอกาสในโลกการเงินยุคใหม่นี้ได้ครับ

LEAVE A RESPONSE