“`html
เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า โลกของคริปโทเคอร์เรนซีที่เราได้ยินข่าวกันบ่อยๆ เนี่ย มันมีอะไรมากกว่าแค่ Bitcoin หรือ Ethereum รึเปล่า? แล้วไอ้การโอนเงินข้ามประเทศที่บางทีก็แพงหูฉี่แถมยังช้าอีกต่างหาก มันจะมีวิธีที่เร็วกว่า ถูกกว่าไหมนะ?
ท่ามกลางเหรียญดิจิทัลกว่า 2.4 ล้านเหรียญในตลาดคริปโทฯ ที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ตัวเลขนี้เปลี่ยนทุกวันนะ เหมือนราคาข้าวแกงเลย) โดยมีพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin (BTC) ครองตลาดกว่า 50% และ Ethereum (ETH) ตามมาติดๆ ที่เกือบ 20% เนี่ย ยังมีเหรียญอีกมากมายที่ซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นคือเหรียญที่ชื่อว่า xlm coin หรือที่เรียกชื่อเต็มๆ ว่า **Stellar Lumens** (สเตลลาร์ ลูเมนส์) ซึ่งมีเป้าหมายที่น่าสนใจมากๆ เลยล่ะครับ
ถ้าให้เล่าแบบง่ายๆ xlm coin คือเชื้อเพลิงและหัวใจหลักของเครือข่ายบล็อกเชนที่ชื่อว่า Stellar (สเตลลาร์) ซึ่งโปรเจกต์นี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับ Bitcoin ในแง่ของการเป็น ‘ทองคำดิจิทัล’ แต่ Stellar เขาเน้นไปที่การเป็น ‘สะพานเชื่อม’ ระบบการเงินทั่วโลกเข้าด้วยกันต่างหาก ฟังดูยิ่งใหญ่นะ! เป้าหมายหลักคือทำให้การโอนเงินข้ามพรมแดน หรือการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลกับสินทรัพย์แบบเดิมๆ (อย่างเงินดอลลาร์ เงินบาท) มันง่าย เร็ว และถูกลงกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ลองนึกภาพตามนะครับ สมมติคุณอยากส่งเงินให้เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ ปกติอาจจะต้องผ่านธนาคาร หรือบริการโอนเงินต่างๆ ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมสูง ใช้เวลาหลายวันกว่าเงินจะถึงมือเพื่อน แถมบางทีอัตราแลกเปลี่ยนก็ไม่ค่อยดีอีก Stellar มองเห็นปัญหานี้มาตั้งแต่ปี 2014 ที่ก่อตั้งโดย Jed McCaleb (เจด แม็คเคเล็บ) ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple (ริปเปิล) มาก่อน ร่วมกับ Joyce Kim (จอยซ์ คิม) โดยมี **มูลนิธิ Stellar Development Foundation** ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเป็นผู้ดูแลและขับเคลื่อนหลัก
เคล็ดลับที่ทำให้เครือข่าย Stellar และ xlm coin มันพิเศษกว่าเหรียญอื่นๆ ก็คือเทคโนโลยีเบื้องหลังที่ชื่อว่า **Stellar Consensus Protocol (SCP)** (สเตลลาร์ คอนเซนซัส โปรโตคอล) ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้การทำธุรกรรมต่างๆ บนเครือข่ายมันเร็วมากกกก เฉลี่ยแล้วใช้เวลาแค่ประมาณ 5.8 วินาทีเท่านั้นเองต่อการยืนยันรายการ! เทียบกับบล็อกเชนรุ่นเก่าๆ ที่อาจใช้เวลาเป็นนาทีหรือเป็นสิบๆ นาที Stellar นี่เรียกว่าติดจรวดเลย แถมค่าธรรมเนียมต่อรายการก็น้อยสุดๆ แค่ 0.00001 xlm coin ต่อรายการเท่านั้นเอง นี่มันถูกกว่าค่าไฟที่เรากดเปิดคอมอีกนะ!
นอกจากความเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินแล้ว Stellar ยังมีระบบที่เรียกว่า **Anchors** (แองเคอร์) ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทน หรือสะพานที่เชื่อมสินทรัพย์จริง (เช่น เงินบาท ดอลลาร์ ทองคำ) ให้เข้ามาอยู่ในรูปแบบดิจิทัลบนเครือข่าย Stellar ได้ ทำให้การแลกเปลี่ยนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลกับเงินจริง หรือระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกันเองบนเครือข่าย Stellar มันง่ายและรวดเร็ว เหมือนกับการแลกชิปในคาสิโนนั่นแหละครับ และด้วยความสามารถนี้ Stellar เลยถูกมองว่ามีศักยภาพสูงในการนำไปใช้ในโครงการเกี่ยวกับการโอนเงินข้ามประเทศ การชำระเงิน หรือแม้แต่การออกสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ๆ ที่มีมูลค่าอิงกับสินทรัพย์จริง
แน่นอนว่าทุกบัญชีบนเครือข่าย Stellar จำเป็นต้องมี xlm coin ขั้นต่ำติดบัญชีไว้ 1 เหรียญนะ อันนี้ไม่ใช่เพราะจะเอาเงินเรา แต่เป็นกลไกเล็กๆ น้อยๆ ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันสแปม หรือการสร้างบัญชีปลอมจำนวนมหาศาลเพื่อโจมตีเครือข่าย ทำให้เครือข่ายยังคงทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ทีนี้มาดูเรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจของ xlm coin กันบ้างครับ เหมือนเวลาดูราคาหุ้น ดูราคาทองนั่นแหละ ปริมาณเหรียญทั้งหมดของ Stellar (Total Supply) ตอนนี้ถูกจำกัดไว้ที่ 50,000 ล้านเหรียญ หลังจากที่ปี 2019 มีการลดอุปทานครั้งใหญ่ไปเกือบครึ่ง ซึ่งก่อนหน้านั้น Stellar เคยมีกลไกเงินเฟ้อคือสร้างเหรียญใหม่เพิ่ม 1% ต่อปีด้วยนะ แต่ก็ยกเลิกไปแล้ว ปัจจุบันมี xlm coin ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด (Circulating Supply) ประมาณ 28,980 – 30,600 ล้านเหรียญ ส่วนที่เหลือบางส่วนก็ยังอยู่ที่ **มูลนิธิ Stellar Development Foundation** เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการ และสนับสนุนการเติบโตของเครือข่ายในระยะยาวครับ
ส่วนราคาซื้อขาย xlm coin ณ ตอนนี้ (ซึ่งต้องย้ำว่าราคาคริปโทฯ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนนกรู้เลยนะ) อยู่ในช่วงประมาณ 0.089 ถึง 0.097 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเหรียญ คิดเป็นมูลค่าตลาดรวม (Market Cap) ก็ราวๆ 2.6 – 2.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ xlm coin ถือเป็นหนึ่งในเหรียญที่มีมูลค่าตลาดค่อนข้างสูง ติดอันดับต้นๆ ของโลกคริปโทฯ เลย (อันดับก็ขยับขึ้นลงตามราคาและเหรียญอื่นๆ นะครับ) ปริมาณการซื้อขายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาก็อยู่ที่ประมาณ 45.96 – 75.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงว่ามีการแลกเปลี่ยน ซื้อขายกันค่อนข้างคึกคักเลย
น่าสนใจคือถ้าไปดูประวัติศาสตร์ราคา xlm coin เคยทำราคาสูงสุดตลอดกาล (All-Time High – ATH) ไว้ที่ประมาณ 0.93 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี 2018 นู่นนน… ซึ่งเทียบกับราคาปัจจุบันก็ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดเดิมอยู่กว่า 90% เลยทีเดียว ส่วนราคาต่ำสุดตลอดกาล (All-Time Low – ATL) เคยลงไปถึงประมาณ 0.0012 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2014 หลังก่อตั้งได้ไม่นานเองครับ ตัวเลขนี้บอกเราว่าราคา xlm coin มีความผันผวนสูงมากๆ และยังคงมีโอกาสทั้งขึ้นและลงได้อีกมากในอนาคต
สรุปแล้ว Stellar (XLM) ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการบล็อกเชนที่มีวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจมากๆ ในการทำให้โลกการเงินมันเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และถูกลงกว่าเดิม ด้วยจุดเด่นเรื่องความเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และระบบ Anchors ที่ช่วยเชื่อมโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินจริงเข้าด้วยกัน ทำให้ xlm coin มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายเหล่านี้
แต่! ก่อนจะกระโดดเข้ามาในโลกของ xlm coin หรือคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ **”ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน”** ทำความเข้าใจว่าเทคโนโลยีทำงานยังไง โปรเจกต์มีเป้าหมายอะไร มีความเสี่ยงอะไรบ้างในตลาดคริปโทฯ ที่มีความผันผวนสูงมากๆ แบบนี้ ราคาขึ้นแรงก็ลงแรงได้ตลอดเวลา
⚠️ **คำเตือน:** การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งหมด หากคุณยังเป็นมือใหม่ หรือมีเงินทุนหมุนเวียน (สภาพคล่อง) ไม่สูง ควรพิจารณาและประเมินความเสี่ยงอย่างถี่ถ้วนมากๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงแบบนี้นะครับ การลงทุนควรใช้เงินเย็นที่ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน และเริ่มต้นจากจำนวนน้อยๆ เพื่อเรียนรู้ทำความเข้าใจตลาดก่อนเสมอ จะได้ไม่เสียใจภายหลังนะ!
“`
