คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

สกุลเงินดิจิทัลและโทเคน

WAN คืออะไร? เปิดโลกเครือข่ายกว้าง เชื่อมธุรกิจไทยให้ไกลเกินพิกัด!

เอ้า สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน! กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับกับคอลัมน์ที่จะพาไปเจาะลึกเรื่องเงินๆ ทองๆ ในแบบที่เข้าใจง่าย ไม่ต้องนั่งเกาหัวแกรกๆ เหมือนตอนเรียนเลข วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่องที่ฟังดูไกลตัวนิดหน่อย แต่จริงๆ แล้วมันอยู่รอบๆ ตัวเราตลอดเวลา แถมยังเกี่ยวข้องกับปากท้อง การทำมาค้าขายของบ้านเราอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นก็คือเรื่องของ “เครือข่ายบริเวณกว้าง” หรือที่เราชอบเรียกสั้นๆ เท่ๆ ว่า WAN ครับ

คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะถามว่า ไอ้เจ้า wanคืออะไร กันแน่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการเงินการลงทุน? ฟังชื่อแล้วนึกว่าเรื่องแผนที่โลก หรือวิชาภูมิศาสตร์สมัยมัธยมปลายซะอีก ไม่ใช่ครับๆ ใจเย็นๆ WAN ย่อมาจาก Wide Area Network ถ้าแปลตรงๆ ก็คือ เครือข่ายพื้นที่กว้างๆ นั่นแหละครับ ลองนึกภาพดูว่าถ้าในบ้านเรามี Wi-Fi หรือ LAN ที่เชื่อมคอมพิวเตอร์ มือถือ ปริ้นเตอร์ในบ้านเข้าหากัน ไอ้เจ้า WAN เนี่ย มันก็เหมือนถนนหลวงขนาดใหญ่ หรือไม่ก็ระบบรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมเมืองต่อเมือง จังหวัดต่อจังหวัด หรือแม้กระทั่งประเทศต่อประเทศเข้าไว้ด้วยกันนั่นแหละครับ

ทีนี้ พอเราพูดถึงการทำธุรกิจในยุคดิจิทัลเนี่ย มันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ร้านค้าเล็กๆ ในซอย หรือออฟฟิศแค่ที่เดียวแล้วใช่ไหมครับ บริษัทใหญ่ๆ ก็มีสาขาทั่วประเทศ หรืออาจจะไปตั้งโรงงานอีกจังหวัด หรือแม้กระทั่งมีลูกค้า มีคู่ค้า มีพนักงานที่ทำงานจากที่บ้านคนละจังหวัดคนละภาคหมดเลย แล้วพวกเขาจะคุยกัน แชร์ข้อมูลหากันได้อย่างไร? จะส่งเอกสารสำคัญๆ จะประชุมงาน จะใช้โปรแกรมเดียวกัน จะเข้าถึงข้อมูลในส่วนกลางได้อย่างไร? คำตอบก็คือ ต้องพึ่งพาเจ้า WAN นี่แหละครับ

ลองคิดดูนะครับ ถ้าไม่มี WAN (หรือมีแต่ช้ามากๆ ไม่เสถียรเลย) การทำธุรกิจที่ต้องสื่อสารข้ามสาขา ข้ามจังหวัด หรือแม้แต่เชื่อมต่อไปยังคลาวด์ (Cloud คลาวด์) ก็จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก หรืออาจจะทำไม่ได้เลย ยิ่งในยุคที่อะไรๆ ก็อยู่บนออนไลน์ เศรษฐกิจดิจิทัลกำลังมาแรงแซงทางโค้งขนาดนี้ เจ้า WAN นี่แหละครับคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญมากๆ ไม่แพ้ถนน ไฟฟ้า ประปาเลยทีเดียว มันคือเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงให้ข้อมูลและเงินไหลเวียนไปมาได้

wanคืออะไร? สรุปง่ายๆ มันคือโครงข่ายที่เชื่อมโยงระบบเครือข่ายท้องถิ่น (LAN) ที่อยู่ไกลๆ เข้าด้วยกันครับ ทำให้องค์กร บริษัทต่างๆ สามารถสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล และใช้งานทรัพยากรร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันแค่ไหน ถ้าไม่มี WAN เนี่ย ธุรกิจที่ต้องทำงานหลายๆ ที่พร้อมกันนี่แทบจะเดินหน้าไม่ได้เลยนะครับ

ทีนี้มาดูในมุมของเศรษฐกิจไทยกันบ้าง การที่ประเทศไทยเรามีโครงสร้างพื้นฐาน WAN ที่ดี รวดเร็ว ปลอดภัย มันส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยนะครับ ลองนึกภาพบริษัทไทยที่ต้องติดต่อกับลูกค้าต่างประเทศ หรือต้องส่งข้อมูลให้โรงงานที่อยู่ไกลๆ หรือต้องใช้บริการคลาวด์ระดับโลก ถ้า WAN ของเราช้า ติดๆ ดับๆ มันก็เหมือนวิ่งมาราธอนโดยที่ขาข้างหนึ่งผูกติดกับเสาไฟฟ้า มันไปได้ไม่เต็มที่จริงไหมครับ

ข้อมูลบอกว่า ในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบนี้ ธุรกิจในประเทศไทยก็พึ่งพา WAN มากขึ้นเรื่อยๆ นะครับ ตั้งแต่การสื่อสารภายในองค์กร การติดต่อกับลูกค้าและคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ไปจนถึงการเข้าถึงและใช้งานแอปพลิเคชันและบริการต่างๆ บนคลาวด์ ซึ่งทั้งหมดนี้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินธุรกิจให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ

เรื่องของต้นทุนและประสิทธิภาพ: เลือก WAN แบบไหนดี?

มาถึงเรื่องที่นักธุรกิจและผู้บริหารหลายคนคงจะสนใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือเรื่องของ “ต้นทุน” และ “ประสิทธิภาพ” ครับ เหมือนเวลาเราจะเดินทางไกลๆ เราก็ต้องเลือกว่าจะนั่งรถประจำทาง (ราคาถูกหน่อย แต่ต้องแชร์กับคนอื่น แวะหลายป้าย อาจจะช้าหน่อย) หรือจะเช่ารถส่วนตัว (แพงกว่าเยอะ แต่ไปได้เร็วกว่า ปลอดภัยกว่า ยืดหยุ่นกว่า)

WAN ก็มีทางเลือกคล้ายๆ กันครับ โดยหลักๆ ก็แบ่งได้เป็น:

1. เครือข่ายสาธารณะ (Public WAN): ส่วนใหญ่ก็คือการใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เราใช้กันอยู่ทั่วไปนี่แหละครับ ข้อดีคือ “ต้นทุน” ต่ำ ติดตั้งง่าย ข้อเสียคือ ความเร็วอาจจะไม่สม่ำเสมอ ความปลอดภัยอาจจะไม่เท่าที่ควร และอาจจะมีปัญหาเรื่องความเสถียรบ้าง เพราะต้องแชร์ทรัพยากรกับคนอื่นๆ จำนวนมาก เหมือนใช้ถนนหลวงที่รถเยอะๆ นั่นแหละครับ

2. เครือข่ายส่วนตัว (Private WAN): อันนี้ก็เหมือนเราเช่าถนนส่วนตัว หรือสร้างทางด่วนของเราเองครับ อาจจะใช้เทคโนโลยีเฉพาะอย่าง MPLS หรือมีสายเชื่อมต่อตรงระหว่างสำนักงานเลย ข้อดีคือ “ประสิทธิภาพ” สูงกว่า มีความเร็วและเสถียรภาพที่แน่นอนกว่า แถมยังมีความปลอดภัยของข้อมูลสูงกว่าด้วย ข้อเสียคือ “ต้นทุน” จะสูงกว่าแบบสาธารณะค่อนข้างมากครับ

การเลือกประเภท WAN ที่เหมาะสมนี่สำคัญมากๆ นะครับ มันส่งผลโดยตรงกับ “ต้นทุน” การดำเนินงานของธุรกิจเลย ถ้าเลือกแบบที่แพงเกินไปก็เปลืองเงิน ถ้าเลือกแบบที่ถูกเกินไป “ประสิทธิภาพ” ก็ไม่ดีพอ ทำให้การทำงานสะดุด เสียโอกาสทางธุรกิจได้

คุณผู้อ่านบางท่านอาจจะเคยได้ยินคำว่า เทคโนโลยี SD-WAN ใช่ไหมครับ อันนี้เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงเลยในตลาด WAN ของประเทศไทย เปรียบเทียบง่ายๆ เจ้า SD-WAN เนี่ยมันเหมือนโปรแกรมฉลาดๆ ที่มาช่วยจัดการเส้นทางบนถนน WAN ของเราให้ดีขึ้นครับ แทนที่จะวิ่งไปเส้นทางเดียวแบบเดิมๆ SD-WAN มันสามารถเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นๆ ได้แบบอัตโนมัติ อาจจะใช้ทั้งอินเทอร์เน็ตสาธารณะคู่กับสายส่วนตัว แล้วฉลาดพอที่จะรู้ว่าข้อมูลแบบไหนควรวิ่งไปเส้นทางไหนเพื่อให้ถึงที่หมายได้เร็วและปลอดภัยที่สุด

ข้อดีของ เทคโนโลยี SD-WAN ในมุมธุรกิจและมุมเงินๆ ทองๆ ก็คือ มันช่วยลด “ต้นทุน” ลงได้ครับ เพราะบางครั้งเราสามารถใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบธรรมดาๆ ที่ “ต้นทุน” ต่ำกว่า มาทดแทนสายส่วนตัวที่แพงๆ ได้ โดยที่ยังได้ “ประสิทธิภาพ” ที่ดีอยู่ แถมยังบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น มีความ “ยืดหยุ่น” สูงกว่าเดิมมาก ถ้าเกิดปัญหาที่เส้นทางหนึ่ง มันก็ยังสลับไปใช้อีกเส้นทางหนึ่งได้เองอัตโนมัติ ทำให้การดำเนินงานไม่สะดุด

การปรับปรุง “ประสิทธิภาพ” ของ WAN ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง SD-WAN เนี่ย ไม่ใช่แค่เรื่องของความเร็วในการส่งข้อมูลนะครับ แต่มันส่งผลต่อ “ผลิตภาพ” (Productivity ผลิตภาพ) ของพนักงานโดยรวมด้วย ลองนึกภาพว่าถ้าการเชื่อมต่อช้า เข้าโปรแกรมบนคลาวด์ไม่ได้ เปิดไฟล์ขนาดใหญ่ไม่ได้ ต้องรออัปโหลดนานๆ พนักงานก็เสียเวลาใช่ไหมครับ เวลาที่เสียไปก็คือ “ต้นทุน” แฝงที่ธุรกิจต้องแบกรับ แต่ถ้า WAN ดี การทำงานก็ราบรื่นขึ้น พนักงานทำงานได้เร็วขึ้น ประสิทธิภาพโดยรวมก็สูงขึ้นครับ ซึ่งอันนี้แหละคือมูลค่าที่จับต้องได้ในเชิงเศรษฐกิจ

แนวโน้มตลาด WAN ในประเทศไทย และอนาคตจะเป็นอย่างไร?

มองไปที่ “ตลาดWAN ใน “ประเทศไทย” นะครับ แนวโน้มชัดเจนเลยว่ากำลังเติบโตตามการขยายตัวของ “เศรษฐกิจดิจิทัล” คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น ทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจย้ายระบบไปอยู่บนคลาวด์มากขึ้น ความต้องการ “การเชื่อมต่อ” ที่ “รวดเร็ว” และ “เสถียร” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย

อย่างที่บอกไปว่า เทคโนโลยี SD-WAN กำลังเป็นที่นิยมมากๆ ใน “ตลาดWAN ของ “ประเทศไทย” เพราะมันตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจที่อยากได้ทั้งความ “ยืดหยุ่น” ความ “คล่องตัว” ในการจัดการเครือข่าย และที่สำคัญคือช่วยควบคุม “ต้นทุน” ได้ดีกว่าแบบเดิมๆ ครับ

การใช้งาน “เทคโนโลยีWAN ที่ทันสมัย ไม่ใช่แค่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดนะครับ แต่มันช่วยให้ธุรกิจ “ไทย” สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทาง “เทคโนโลยี” และ “เศรษฐกิจ” ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีความสามารถในการ “แข่งขัน” ที่สูงขึ้น ทั้งในประเทศและเวทีโลก

ลองจินตนาการดูนะครับ ถ้าธุรกิจ SME ไทย อยากจะขายของออนไลน์ไปต่างประเทศ หรืออยากจะใช้ระบบบัญชีที่เป็นคลาวด์ระดับโลก หรืออยากจะให้ทีมงานที่ทำงานจากต่างจังหวัดเข้าถึงข้อมูลสินค้าในคลังแบบเรียลไทม์ ทั้งหมดนี้ล้วนต้องพึ่งพา WAN ที่มี “ประสิทธิภาพ” ทั้งสิ้นครับ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน WAN ที่ดี จึงเป็นการลงทุนที่สำคัญมากเพื่อขับเคลื่อน “เศรษฐกิจดิจิทัล” และเพิ่มขีดความสามารถในการ “แข่งขัน” ของธุรกิจ “ไทย” ครับ

สรุปและคำแนะนำสำหรับคุณผู้อ่าน

สรุปง่ายๆ ว่า wanคืออะไร? มันคือหัวใจสำคัญของ “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่เชื่อมโยงโลกธุรกิจในยุค “ดิจิทัล” เข้าไว้ด้วยกันครับ สำหรับ “ธุรกิจ” ไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่ การมี “WAN” ที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่เรื่องของฝ่าย IT แล้วนะครับ แต่มันเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อ “ต้นทุน” “ประสิทธิภาพ” และความสามารถในการ “แข่งขัน” ของธุรกิจเลย

ในฐานะคอลัมนิสต์ด้านการเงิน ผมอยากจะบอกว่า การทำความเข้าใจเรื่อง WAN (wanคืออะไร) และ “เทคโนโลยี” ที่เกี่ยวข้อง เช่น เทคโนโลยี SD-WAN เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักธุรกิจและนักลงทุนในยุคนี้ครับ เพราะมันคือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการดำเนินงานและความสำเร็จของบริษัทต่างๆ ที่เราอาจจะไปลงทุน หรือกำลังทำธุรกิจอยู่ด้วย

คำแนะนำสำหรับ “ธุรกิจไทย” คือ ควรจะพิจารณาประเมินความต้องการ “WAN” ของตัวเองอยู่เสมอครับ “เทคโนโลยี” เปลี่ยนแปลงเร็วมาก อย่ากลัวที่จะศึกษาและนำ “เทคโนโลยี” ใหม่ๆ อย่าง SD-WAN มาปรับใช้ หากมันช่วยลด “ต้นทุน” เพิ่ม “ประสิทธิภาพ” และทำให้ธุรกิจ “ยืดหยุ่น” พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การเติบโตในระยะยาว

⚠️ ข้อควรระวัง: การลงทุนใน “เทคโนโลยีWAN ใหม่ๆ ก็ต้องมีการประเมินอย่างรอบคอบนะครับ ทั้งเรื่อง “ต้นทุน” ในการติดตั้งและดูแลรักษา ความซับซ้อนในการจัดการ และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและวางแผนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ครับ อย่าเพิ่งรีบกระโดดตามกระแสไปซะทั้งหมดโดยที่ยังไม่เข้าใจความจำเป็นและผลกระทบอย่างแท้จริง

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านเข้าใจเรื่อง WAN (wanคืออะไร) ได้มากขึ้น และมองเห็นความเชื่อมโยงกับเรื่องเงินๆ ทองๆ และ “เศรษฐกิจไทย” นะครับ ครั้งหน้าเราจะมาคุยเรื่องอะไรที่น่าสนใจอีก รอติดตามกันนะครับ! ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการทำธุรกิจและการลงทุนครับ สวัสดีครับ!

LEAVE A RESPONSE