คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

สกุลเงินดิจิทัลและโทเคน

USDT คืออะไร? ไขความลับสเตเบิลคอยน์ฮิต ที่นักเทรดต้องรู้!

สวัสดีครับทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้วกับคอลัมน์การเงินแบบบ้านๆ ที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรื่องยากๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่ายเหมือนคุยกับเพื่อน วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเหรียญดิจิทัลตัวหนึ่งที่อาจจะฟังดูคุ้นหูมากๆ ในโลกคริปโทฯ แต่บางคนอาจจะยังงงๆ ว่ามันคืออะไรกันแน่ นั่นก็คือ USDT ครับ

เพื่อนผมคนหนึ่งชื่อน้องบี เพิ่งกระโดดเข้าวงการคริปโทฯ ใหม่ๆ แล้วมาถามผมแบบงงๆ ว่า “พี่ครับ ผมเห็นเค้าพูดถึง USDT กันเยอะมากเวลาจะซื้อขายเหรียญอื่นๆ ไอ้ usdt คือ อะไรเหรอ แล้วทำไมต้องใช้มันด้วยครับ ซื้อ Bitcoin ตรงๆ ไม่ได้เหรอ?”

คำถามของน้องบีนี่เป็นคำถามที่ดีมากๆ เลยครับ เพราะ usdt คือ หัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในโลกคริปโทฯ เลยก็ว่าได้ มันไม่ได้มีไว้ให้ราคาพุ่งกระฉูดแบบ Bitcoin หรือ Ethereum แต่มีบทบาทที่เจ๋งไปอีกแบบ เหมือนเป็น “สะพาน” หรือ “ที่พักใจ” ในตลาดคริปโทฯ ที่สวิงแรงยังกับรถไฟเหาะ

ลองนึกภาพตามนะครับ ตลาดคริปโทฯ นี่ขึ้นๆ ลงๆ หวือหวามากๆ วันนี้บวก 10% พรุ่งนี้อาจจะลบ 20% ก็ได้ ถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่อยากซื้อขายเหรียญบ่อยๆ แต่ก็กลัวความผันผวน อยากพักเงินไว้เฉยๆ ตอนตลาดไม่ดี แต่ก็ไม่อยากถอนกลับมาเป็นเงินบาท เงินดอลลาร์ (สกุลเงิน Fiat) เพราะจะเสียเวลาและค่าธรรมเนียม USDT นี่แหละครับ คือพระเอกที่จะเข้ามาช่วยตรงนี้

พูดง่ายๆ เลย usdt คือ เหรียญดิจิทัลประเภทหนึ่งที่เรียกว่า **สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin)** ครับ คำว่า Stable ก็แปลว่า มั่นคง ใช่ไหมครับ? นั่นแหละครับ สเตเบิลคอยน์ถูกออกแบบมาให้มีมูลค่าค่อนข้างคงที่ ไม่ผันผวนเหมือนคริปโทฯ ทั่วไป และ USDT เป็นสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกเลยก็ว่าได้

แล้ว usdt คือ เหรียญที่ผูกค่าไว้กับอะไรล่ะ? คำตอบคือ ผูกไว้กับ **ดอลลาร์สหรัฐ (USD)** ครับ โดยมีเป้าหมายให้ 1 USDT มีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เสมอ! (หรือใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะทำได้) ลองคิดดูสิครับ มีเหรียญดิจิทัลที่เราพอจะมั่นใจได้ว่าค่าไม่แกว่งไปมาเหมือนเหรียญอื่นๆ สะดวกดีไหมล่ะครับ

ทีนี้หลายคนก็อาจจะสงสัยต่อว่า “แล้วมันทำยังไงให้มูลค่าคงที่ได้ล่ะ?” กลไกหลักๆ ที่บริษัทผู้ออก USDT ซึ่งก็คือ บริษัท **Tether Limited** (ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2014 โดยเคยใช้ชื่อเดิมว่า “Realcoin” ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Tether ในภายหลัง) เค้าใช้อ้างอิงก็คือ การสำรองสินทรัพย์ไว้ในจำนวนที่เท่ากับ (หรือมากกว่าเล็กน้อย) จำนวน USDT ที่หมุนเวียนอยู่ในระบบครับ

พูดให้เห็นภาพคือ ถ้าบริษัท Tether ออก USDT มา 1,000 ล้านเหรียญ เค้าก็ต้องมีเงินดอลลาร์หรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่มีค่าเท่ากับ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เก็บสำรองไว้ เพื่อให้มั่นใจว่า ถ้ามีใครอยากแลก USDT กลับเป็นเงินดอลลาร์ เค้าก็มีสินทรัพย์ตรงนั้นเพียงพอ

บริษัท Tether เองก็พยายามแสดงความโปร่งใสด้วยการออกรายงานคลังทรัพย์สำรองเป็นรายไตรมาส และมีการตรวจสอบโดยบริษัทบัญชีภายนอกอย่างเช่น บริษัท BDO เพื่อยืนยันว่าเค้ามีสินทรัพย์สำรองอยู่จริงตามที่กล่าวอ้าง อันนี้ก็เป็นจุดที่สำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือของเหรียญครับ

ข้อดีอีกอย่างที่ทำให้ usdt คือ เหรียญที่คนใช้กันเยอะมากๆ ในตลาดคริปโทฯ ก็เพราะว่ามันใช้งานได้หลากหลายบนเครือข่าย **บล็อกเชน (Blockchain)** ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Tron, Solana, Polygon หรืออื่นๆ อีกเพียบ ทำให้การโอน USDT สะดวก รวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการโอนเงินแบบเดิมๆ ผ่านธนาคารมากๆ ครับ ลองนึกภาพจะส่งเงินไปให้เพื่อนอยู่ต่างประเทศ แค่ไม่กี่คลิก ไม่กี่นาที เงินก็ถึงแล้ว แถมค่าธรรมเนียมไม่กี่สิบบาท (หรืออาจจะต่ำกว่านั้นมาก) ในขณะที่ระบบธนาคารอาจจะใช้เวลาเป็นวันๆ และค่าธรรมเนียมแพงกว่าเยอะ

สรุปจุดเด่นของ USDT ที่ทำให้น้องบี (และอีกหลายๆ คน) ต้องรู้จักมัน ก็คือ

1. **มูลค่ามั่นคง:** ช่วยลดความปวดหัวจากความผันผวนของราคาคริปโทฯ อื่นๆ ได้ดี
2. **ตัวกลางชั้นยอด:** นิยมใช้เป็นคู่เทรดกับเหรียญอื่นๆ บนกระดานแลกเปลี่ยนเกือบทุกแห่ง (เช่น Bitkub หรือกระดานเทรดอื่นๆ ทั่วโลก) ทำให้ซื้อขายคริปโทฯ ได้ง่ายขึ้นมากๆ
3. **ที่พักเงิน:** ช่วงที่ตลาดไม่ดี ราคาเหรียญอื่นๆ ร่วงแรงๆ เราก็สามารถขายเหรียญเหล่านั้นมาถือ USDT เพื่อรักษามูลค่าเงินดิจิทัลของเราไว้ได้ แทนที่จะต้องแปลงกลับเป็นเงินบาทหรือเงินดอลลาร์ แล้วค่อยกลับเข้าไปซื้อใหม่ตอนตลาดฟื้น
4. **สภาพคล่องสูง:** USDT มีปริมาณการซื้อขายหมุนเวียนสูงมากๆ ทำให้ซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนซื้อหรือไม่มีคนขาย
5. **โอนเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ:** เหมาะมากๆ สำหรับการโอนเงินดิจิทัลระหว่างบุคคล หรือระหว่างกระเป๋าต่างๆ ทั่วโลก

ดูๆ ไปเหมือนจะดีไปหมดใช่ไหมครับ? แต่ทุกอย่างในโลกการเงินย่อมมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ usdt คือ เหรียญที่มีข้อดีมากมายจริง แต่ก็มีข้อควรระวังที่เราต้องรู้ไว้เช่นกันครับ

ข้อกังวลใหญ่ที่สุดของ USDT (และ Tether Limited ในฐานะผู้ออกเหรียญ) ก็คือ เรื่องของ **ความโปร่งใส** ในการสำรองสินทรัพย์ครับ แม้บริษัทจะออกรายงานและมีการตรวจสอบ แต่ก็เคยมีประเด็นข้อสงสัยอยู่บ่อยครั้งว่า สินทรัพย์ที่สำรองไว้นั้น เพียงพอและมีสภาพคล่องจริงๆ ไหม? เพราะสินทรัพย์สำรองบางส่วนไม่ได้เป็นเงินสดทั้งหมด แต่เป็นในรูปแบบอื่นๆ เช่น ตั๋วเงินคลัง (Treasury Bills), พันธบัตรอื่นๆ, สินเชื่อ (บางส่วนเป็นสินเชื่อ Bitcoin), โลหะมีค่า หรือแม้แต่หุ้นของบริษัทอื่น

ลองคิดดูนะครับ ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่คนจำนวนมากแห่กันอยากแลก USDT กลับเป็นเงินดอลลาร์พร้อมๆ กัน (เรียกว่า Bank Run หรือ Crypto Run) แล้วสินทรัพย์สำรองส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้มีสภาพคล่องสูงมาก หรือไม่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้อย่างรวดเร็ว อาจจะเกิดปัญหาที่ Tether ไม่สามารถจ่ายคืนได้ทัน ทำให้มูลค่าของ USDT อาจจะไม่สามารถคงอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐได้ หรือที่เรียกว่า **”หลุด Peg”** (Peg หมายถึง การผูกค่า) เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ Stablecoin อื่นๆ ในอดีต

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เกี่ยวกับตัวบริษัท Tether Limited เองด้วยครับ ถ้าบริษัทมีปัญหาทางการเงิน หรือถูกหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ตรวจสอบอย่างเข้มงวด หรือมีข้อกำหนดทางกฎหมายใหม่ๆ ที่เป็นผลลบกับบริษัท นี่ก็อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าและความน่าเชื่อถือของ USDT ได้เช่นกันครับ (ความเสี่ยงจากคู่สัญญา)

อีกประเด็นที่มักจะถูกพูดถึงเกี่ยวกับ usdt คือ การที่มันถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายได้ค่อนข้างง่าย เช่น การฟอกเงิน เนื่องจากลักษณะการโอนที่รวดเร็ว ไม่ต้องผ่านตัวกลางแบบธนาคาร และค่อนข้างเป็นส่วนตัว ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดครับ

เมื่อพูดถึง Stablecoin ยอดนิยม ก็มักจะต้องพูดถึงคู่แข่งอย่าง **USDC** ด้วยครับ USDC เป็น Stablecoin อีกตัวที่ผูกค่ากับดอลลาร์สหรัฐเหมือนกัน ออกโดยบริษัท Circle และ Coinbase สองบริษัทใหญ่ในวงการคริปโทฯ

แล้ว USDT กับ USDC ต่างกันยังไงล่ะ? หลักๆ ที่คนในวงการพูดถึงก็คือ

* **USDT:** ได้รับการยอมรับและมีปริมาณการซื้อขายที่สูงกว่ามากๆ บนกระดานเทรดทั่วโลก ทำให้สภาพคล่องดีเยี่ยม
* **USDC:** โดยทั่วไปแล้ว มักจะถูกมองว่ามีความโปร่งใสในเรื่องการสำรองสินทรัพย์และการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกที่ดีกว่า USDT อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้บางคนเชื่อมั่นในความสามารถในการรักษามูลค่า 1:1 ของ USDC ได้ดีกว่า โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความเครียดสูง หรือช่วงที่ Stablecoin อื่นๆ เคยหลุด Peg ไปบ้าง USDC ก็ยังสามารถรักษามูลค่าไว้ได้ค่อนข้างคงที่

ดังนั้น การจะเลือกใช้ USDT หรือ USDC ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและระดับความเชื่อมั่นในความโปร่งใสและการตรวจสอบของผู้ออกเหรียญแต่ละตัวครับ

กลับมาที่น้องบีและนักลงทุนมือใหม่ทุกคนนะครับ usdt คือ เครื่องมือที่มีประโยชน์มากๆ ในโลกคริปโทฯ ช่วยให้การซื้อขายสะดวกขึ้น เป็นที่พักเงินที่ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงซ่อนอยู่เลย

ดังนั้น ก่อนจะใช้งาน USDT หรือ Stablecoin ตัวอื่นๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำความเข้าใจกลไกของมันจริงๆ ครับ ว่ามันทำงานยังไง มีอะไรค้ำประกันอยู่ และมีข้อกังวลหรือความเสี่ยงอะไรบ้าง ควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทผู้ออกเหรียญอย่าง Tether Limited อยู่เสมอ และพิจารณาถึงประวัติและชื่อเสียงของเหรียญนั้นๆ ครับ ข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็มีให้ศึกษาเยอะเลยครับ ทั้งจากบล็อกความรู้ของกระดานเทรดต่างๆ อย่าง Bitkub Blog หรือสื่อทางการเงินที่น่าเชื่อถืออย่าง ลงทุนแมน, THE STANDARD WEALTH, หรือ AmarinTV ที่เคยนำเสนอประเด็นเหล่านี้

สุดท้ายนี้ อยากจะเน้นย้ำกับทุกคนที่สนใจในโลกคริปโทเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลว่า แม้ usdt คือ เหรียญที่ดูเหมือนจะมั่นคง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอครับ มูลค่าของมันอาจจะไม่เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐเป๊ะๆ ได้ตลอดเวลา หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หรือผู้คนสูญเสียความเชื่อมั่น

⚠️ **ข้อควรระวัง:** การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งหมด โปรดศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุน และควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณพร้อมจะสูญเสียไปเท่านั้นครับ โดยเฉพาะกับสินทรัพย์ที่มีข้อกังวลเรื่องความโปร่งใสอย่าง Stablecoin บางประเภท การกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ หรือ Stablecoin ตัวอื่นที่มีความโปร่งใสสูงกว่า เช่น USDC ก็อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้น้องบีและทุกคนเข้าใจมากขึ้นนะครับว่า usdt คือ อะไร มีประโยชน์ยังไง และต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง แล้วเจอกันใหม่ในคอลัมน์หน้าครับ!

LEAVE A RESPONSE