สวัสดีครับทุกคน วันนี้คอลัมน์เราจะมาคุยกันเรื่องคริปโทฯ ตัวหนึ่งที่ช่วงนี้ดูเหมือนจะมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา นั่นก็คือ TRON (TRX) ครับ
ถ้าพูดถึงโลกคริปโทเคอร์เรนซี หลายคนคงนึกถึง Bitcoin หรือ Ethereum เป็นหลักใช่ไหมครับ แต่ในมุมของนักลงทุนและคนที่ติดตามเทคโนโลยีบล็อกเชนเนี่ย ยังมีเหรียญอีกหลายตัวที่น่าสนใจและมีบทบาทสำคัญในวงการ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ TRON (TRX) นี่แหละครับ

ลองนึกภาพตามนะครับ สมมติว่าคุณเป็นคนสร้างสรรค์เนื้อหาดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเพลง วิดีโอ หรืออะไรก็ตาม คุณอยากให้ผลงานของคุณไปถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ได้รับค่าตอบแทนอย่างยุติธรรม โดยไม่ต้องผ่านคนกลางที่อาจจะหักส่วนแบ่งไปเยอะๆ หรือมีอำนาจควบคุมมากเกินไป TRON เกิดขึ้นมาด้วยแนวคิดนี้แหละครับ
**TRON คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจ?**
TRON (TRX) เขาเรียกตัวเองว่าเป็น ระบบปฏิบัติการบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Blockchain Operating System) ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 โดย Tron Foundation เป้าหมายหลักๆ เลยก็คือ การสร้างอินเทอร์เน็ตแบบกระจายอำนาจ ที่คืนอำนาจความเป็นเจ้าของเนื้อหาดิจิทัลให้กับผู้สร้างโดยตรง
แรกเริ่มเดิมทีเนี่ย TRON เขาก็เป็นแค่โทเค็น (Token) ประเภท ERC-20 ที่อยู่บนเครือข่าย Ethereum นี่แหละครับ แต่ต่อมาในปี 2018 เขาก็พัฒนาตัวเองจนมีเครือข่ายบล็อกเชนเป็นของตัวเอง เรียกว่าเป็น เครือข่ายอิสระ (Independent Network) เต็มตัวแล้ว
บนเครือข่ายนี้เนี่ย เขาสามารถรองรับ สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ได้ด้วยนะ ทำให้สามารถสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า dApps ขึ้นมาได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นจุดเด่นของ TRON ในการสนับสนุนการสร้างเนื้อหาและแอปพลิเคชันต่างๆ
สำหรับกลไกเบื้องหลังที่ทำให้เครือข่ายทำงานได้ เขาใช้ระบบที่เรียกว่า Delegated Proof-of-Stake (DPoS) ซึ่งเป็นกลไกฉันทามติ (Consensus Mechanism) แบบหนึ่ง ผู้ถือเหรียญ TRX สามารถนำเหรียญไป Freeze หรือตรึงไว้ เพื่อให้ได้สิ่งที่เรียกว่า Tron Power (TP) ซึ่ง Tron Power นี้แหละที่จะใช้ในการโหวตเลือกผู้ดูแลเครือข่ายที่เรียกว่า Super Representatives (SRs) นอกจากนี้ การ Freeze เหรียญยังให้ Energy และ Bandwidth ซึ่งจำเป็นต่อการทำธุรกรรมหรือใช้งานสัญญาอัจฉริยะบนเครือข่าย โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในบางกรณีด้วย

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ ในปี 2021 เครือข่าย TRON ได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็น TRON DAO ซึ่งหมายความว่า เครือข่ายจะถูกขับเคลื่อนและบริหารจัดการโดยชุมชนผู้ถือเหรียญ TRX ผ่านการโหวตกันมากขึ้น ทำให้มีความเป็น การกระจายอำนาจ (Decentralization) สูงขึ้นไปอีกครับ
**ทำไม TRON (TRX) ถึงถูกพูดถึงบ่อยในแง่ของการโอนเงินหรือ Stablecoin?**
ถ้าคุณอยู่ในวงการคริปโทฯ มาสักพัก หรือเคยโอน Stablecoin อย่าง USDT ไปมาระหว่างกระดานเทรดหรือกระเป๋าเงินดิจิทัล คุณน่าจะเคยเห็นชื่อ “TRC20” บ่อยๆ ใช่ไหมครับ TRC20 นี่แหละคือมาตรฐานโทเค็นบนเครือข่าย TRON ที่ทำให้ USDT โอนย้ายได้รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำมากๆ จนกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับการโอน Stablecoin ไปแล้ว
ลองนึกภาพตามนะครับ สมมติว่าคุณต้องส่งเงินจำนวนมากไปให้เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ หรือต้องย้ายเงินทุนระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ ถ้าใช้ช่องทางแบบดั้งเดิมอาจจะใช้เวลานาน ค่าธรรมเนียมแพง แต่การใช้ TRC20-USDT บนเครือข่าย TRON เนี่ย มันเหมือนมีช่องทางด่วนพิเศษที่เกือบจะฟรี! ทำให้มันเหมาะมากๆ สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน การเทรดหรือกู้ยืมในโลก DeFi (Decentralized Finance – การเงินแบบกระจายอำนาจ) การชำระเงินสำหรับสินค้าและบริการในโลกออนไลน์ รวมถึงในวงการ NFT และ GameFi ด้วย

ข้อมูลจาก Cointelegraph ก็ยืนยันชัดเจนเลยครับว่า TRON กลายเป็น เครือข่ายหลัก (Main Network) สำหรับธุรกรรม Stablecoin โดยเฉพาะ USDT ไปแล้ว เห็นได้จากตัวเลขที่น่าทึ่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการประมวลผลการโอน USDT บนเครือข่าย TRON ไปกว่า 6.9454 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว! และที่น่าสนใจคือ กว่า 4.112 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจำนวนนี้ มาจาก ธุรกรรมขนาดใหญ่ (Whale Transactions) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า “วาฬ” นั่นแหละครับ แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดก็ใช้เครือข่ายนี้กันอย่างคึกคัก
ปัจจุบัน TRON ถือเป็น เครือข่ายที่โฮสต์ USDT ที่ใหญ่ที่สุดในโลกคริปโทฯ เลยนะ มี USDT หมุนเวียนอยู่บนเครือข่ายนี้กว่า 50% ของอุปทาน USDT ทั้งหมด ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราวๆ 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว ตัวเลขนี้ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ TRON ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานของการโอน Stablecoin ไปทั่วโลกครับ
**มาดูตัวเลขและสถิติสำคัญของ TRON (TRX) กันบ้าง**
ในฐานะคอลัมนิสต์ที่ติดตามเรื่องการเงิน ตัวเลขและสถิติเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ครับ และสำหรับ TRON (TRX) ตัวเลขต่างๆ ก็บ่งชี้ถึงการเติบโตที่น่าสนใจทีเดียว
ข้อมูลล่าสุด (ซึ่งตัวเลขเหล่านี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลานะครับ ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาและช่วงเวลาที่คุณดู) ชี้ว่า:
* จำนวนบัญชีผู้ใช้รวมบนเครือข่าย TRON ตอนนี้ทะลุ 200 ล้านบัญชีไปแล้ว
* จำนวนธุรกรรมทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นบนเครือข่ายก็พุ่งสูงกว่า 7.3 พันล้านรายการ
* มูลค่าตลาดรวม (Market Cap) ของ TRX อยู่ในช่วงประมาณ 1 หมื่นล้าน ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ TRX ติดอันดับ Global Rank อยู่ที่ประมาณอันดับ 12 ของคริปโทฯ ทั่วโลก (ตัวเลขและอันดับขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่วัด)
* เมื่อดู มูลค่าตลาดตามราคาที่เจือจางเต็มที่ (Fully Diluted Valuation – FDV) ซึ่งคือมูลค่าตลาดหากเหรียญทั้งหมดเข้าสู่ระบบหมุนเวียน จะพบว่าใกล้เคียงกับ Market Cap มาก นั่นแปลว่าอุปทานส่วนใหญ่ของ TRX อยู่ในระบบหมุนเวียนแล้ว
* ปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงก็อยู่ในระดับสูง คือประมาณ 500 – 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
* อุปทานหมุนเวียน (Circulating Supply) และ อุปทานทั้งหมด (Total Supply) อยู่ที่ประมาณ 8.6 – 8.7 หมื่นล้าน TRX
* แต่ที่ต้องรู้ไว้คือ อุปทานสูงสุด (Maximum Supply) ของ TRX คือ ไม่จำกัด (Unlimited หรือ ∞) ซึ่งตรงนี้ก็เป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องพิจารณา
สถิติเหล่านี้บอกอะไรเราครับ? มันบอกว่าเครือข่าย TRON เป็นเครือข่ายที่มีผู้ใช้งานจริง มีกิจกรรมบนเครือข่ายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการประมวลผล Stablecoin อย่าง USDT ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนปริมาณธุรกรรมจำนวนมหาศาล
**มองภาพราคา: TRON (TRX) กำลังอยู่ในช่วงที่น่าจับตาจริงหรือ?**
มาถึงเรื่องที่หลายคนสนใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือเรื่องของ ราคา และ แนวโน้มตลาด ครับ
ในเชิงการวิเคราะห์ทางเทคนิคเนี่ย TRX กำลังเข้าใกล้ระดับ Breakout ที่สำคัญมากๆ ในรอบหลายปีเลยทีเดียว เหมือนนักวิ่งที่กำลังจะพุ่งตัวออกจากจุดสตาร์ทที่อัดแรงมานาน
กราฟราคาระยะยาวแสดงให้เห็นว่า TRX กำลังซื้อขายอยู่ใกล้ แนวต้านสำคัญ (Significant Resistance) ที่เป็นระดับราคาที่เขาเคยขึ้นไปแตะแล้วร่วงลงมาหลายครั้งในช่วงประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา ใต้แนวต้านนี้ตั้งแต่ปี 2018 เราสังเกตเห็นรูปแบบที่เรียกว่า Volatility Contraction Pattern (VCP) หรือ รูปแบบการบีบอัดความผันผวน ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาได้มีการบีบตัวแคบลงเรื่อยๆ ใต้แนวต้านใหญ่ สะสมพลังงานมานานมากแล้ว
นักวิเคราะห์บางท่านอย่าง Disrupt Yourself ใน X (เดิมคือ Twitter) มองว่า หาก TRX สามารถทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 0.28 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปได้อย่างแข็งแกร่ง อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายถัดไปที่ระดับ 0.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 0.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้เลยทีเดียว ซึ่งเป้าหมายแรกอย่าง 0.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ เนี่ย มันใกล้เคียงกับราคาสูงสุดตลอดกาล (All-Time High – ATH) ที่ TRX เคยทำไว้เมื่อนานมาแล้วด้วยนะ (ATH เคยอยู่ที่ประมาณ 0.44 – 0.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนราคาต่ำสุดตลอดกาลอยู่ที่ 0.00148369 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2017)
นอกจากนี้ เมื่อดูคู่ TRX/DXY (ราคา TRX เทียบกับดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ) ก็พบว่าอยู่ในรูปแบบ Descending Wedge ระยะยาว และกำลังใกล้ Breakout เช่นกัน พร้อมกับมี สัญญาณ Bullish Divergence จาก RSI ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคหลายคนให้ความสนใจ
สัญญาณเหล่านี้ในเชิงเทคนิคบ่งชี้ถึง “ศักยภาพ” ในการเคลื่อนไหวของราคา หากปัจจัยต่างๆ สนับสนุนครับ
เมื่อดูผลการดำเนินงานของราคา TRX ในช่วงที่ผ่านมา ก็ถือว่าค่อนข้างดีนะ (อีกครั้ง ตัวเลขอาจแตกต่างกันตามแหล่งและเวลาที่ดู) ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50-140% เลยทีเดียว ในช่วง 1 เดือนก็บวกไปราว 7-10% ส่วนในรายสัปดาห์และราย 24 ชั่วโมงก็มีความผันผวนตามภาวะตลาดปกติครับ
**กรณีการใช้งานอื่นๆ และระบบนิเวศของ TRON (TRX)**
นอกจากการเป็นช่องทางโอน Stablecoin ที่เร็วและถูกแล้ว TRON ยังมีกรณีการใช้งานอื่นๆ ที่น่าสนใจ และมี ระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเลยทีเดียวครับ
อย่างที่เกริ่นไปตอนแรก TRON อยากเป็นพื้นที่สำหรับนักพัฒนาในการสร้าง dApps โดยเฉพาะที่เน้นเรื่องเนื้อหาดิจิทัล การแชร์ และการให้รางวัลโดยตรงระหว่างผู้สร้างกับผู้บริโภค ที่สำคัญคือค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบน TRON เกือบจะเป็นศูนย์ ทำให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและนักพัฒนามาก
เราสามารถใช้เหรียญ TRX ได้ในหลากหลายสถานการณ์บนเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น:
* **ชำระค่าธรรมเนียม:** แม้ส่วนใหญ่จะเกือบเป็นศูนย์ แต่บางธุรกรรมหรือการใช้งานสัญญาอัจฉริยะขนาดใหญ่อาจต้องใช้ Bandwidth หรือ Energy ซึ่งเราได้จากการ Freeze TRX หรือซื้อเพิ่มก็ได้
* **โหวต Super Representatives:** ใช้ Tron Power ที่ได้จากการ Freeze TRX เพื่อโหวตผู้ดูแลเครือข่าย ซึ่งเป็นการมีส่วนร่วมในการ กำกับดูแล (Governance) เครือข่ายนั่นเอง
* **Staking:** การนำ TRX ไปวางค้ำประกันในระบบ เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย และรับรางวัลเป็นการตอบแทน
ในส่วนของระบบนิเวศ TRON ก็มีเครื่องมือและแพลตฟอร์มต่างๆ รองรับมากมาย เช่น:
* Tronscan: เครื่องมือดูข้อมูลบล็อกเชน (Blockchain Explorer) ที่เราสามารถเข้าไปตรวจสอบธุรกรรม บัญชี หรือข้อมูลต่างๆ บนเครือข่ายได้
* TRON Wallet: กระเป๋าเงินดิจิทัล ที่รองรับเหรียญ TRX และโทเค็นอื่นๆ บนเครือข่าย
* TRON DApps: มีแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจมากมายบนเครือข่าย TRON ซึ่งบางตัวก็ติดอันดับความนิยม อย่างที่เคยมีข่าวว่า dApps บน TRON ติดอันดับใน Samsung Galaxy Store ด้วย
* BitTorrent Chain (BTTC): เป็น Sidechain ที่เชื่อมต่อกับ TRON เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันและขยายขีดความสามารถของเครือข่าย
* แพลตฟอร์ม DeFi ต่างๆ: เช่น JustStable (แพลตฟอร์ม Lending Stablecoin), JustLend DAO (แพลตฟอร์มกู้ยืมอย่างเป็นทางการ), และ SunSwap (กระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ หรือ DEX)
TRON วางตำแหน่งตัวเองว่าเป็น เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการทำธุรกรรมในระดับโลก (Transaction Efficiency at Global Scale) และพยายามทำให้การเข้าถึงง่ายสำหรับทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้ มี TestNet ให้นักพัฒนาได้ทดลองสร้างสรรค์ก่อนนำขึ้นเครือข่ายจริงด้วย
**สรุปและข้อควรพิจารณาสำหรับการลงทุนใน TRON (TRX)**
มาถึงตรงนี้ เราก็ได้เห็นภาพรวมของ TRON (TRX) ทั้งในแง่ของเทคโนโลยี บทบาทในตลาด Stablecoin ตัวเลขการเติบโต และกรณีการใช้งานต่างๆ แล้วนะครับ
ในมุมมองของผมในฐานะคอลัมนิสต์ด้านการเงิน TRON มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของ ความเร็ว ค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก และบทบาทสำคัญในโลกของ Stablecoin อย่าง USDT ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เครือข่ายมีการใช้งานจริงจำนวนมหาศาล ตัวเลขสถิติต่างๆ ก็สะท้อนถึงการเติบโตของฐานผู้ใช้และกิจกรรมบนเครือข่าย ในขณะที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคก็ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการเคลื่อนไหวของราคาหากสามารถผ่านด่านสำคัญไปได้
อย่างไรก็ตาม ครับ การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีทุกตัวย่อมมีความเสี่ยงสูง TRX ก็เช่นกัน
แม้การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะดูน่าสนใจ แต่ก็เป็นเพียงเครื่องมือในการประเมินโอกาส ไม่ใช่การทำนายอนาคต ราคาอาจจะเคลื่อนไหวตามสัญญาณที่เห็น หรืออาจจะไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายในตลาด
ความผันผวนของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเป็นเรื่องปกติ และราคาของ TRX ก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้เช่นกัน
นอกจากนี้ เรื่องของอุปทานสูงสุดที่ไม่จำกัดของ TRX ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักลงทุนควรนำไปพิจารณาในการประเมินมูลค่าในระยะยาว
**คำแนะนำสุดท้ายจากคอลัมนิสต์:**
สำหรับคนที่สนใจ TRON (TRX) หรือคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ **ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง (Do Your Own Research – DYOR)** อย่างละเอียด ทำความเข้าใจในเทคโนโลยี การใช้งาน ทีมงาน และความเสี่ยงต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน
ประเมินความเสี่ยงที่รับได้ของตัวเอง และจัดสรรเงินลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับพอร์ตโฟลิโอโดยรวมของคุณ
หากคุณสนใจที่จะซื้อขาย TRX หรือคริปโทฯ อื่นๆ ก็มีแพลตฟอร์มการซื้อขายระหว่างประเทศหลายแห่งที่ให้บริการ เช่น Moneta Markets (อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างนะครับ ไม่ได้เป็นการแนะนำให้ใช้แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเป็นการเฉพาะ) แพลตฟอร์มเหล่านี้มักจะมีเครื่องมือและข้อมูลต่างๆ ให้ศึกษาเพิ่มเติม ลองเปรียบเทียบเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมของแต่ละที่ดูก่อนตัดสินใจ
⚠️ **คำเตือน:** การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง อาจสูญเสียเงินลงทุนได้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณมองภาพของ TRON (TRX) ได้ชัดเจนขึ้นนะครับ แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์หน้าครับ!