ช่วงนี้ตลาดคริปโทฯ ดูคึกคักอยู่เหมือนกันนะครับ บางวันเขียวสดใส บางวันก็แดงเถือก ใครที่ติดตามตลาดนี้คงรู้ดีว่ามันเหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกาตลอดเวลา มีเหรียญให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด มากกว่า 2.4 ล้านรายการเลยทีเดียว กระดานเทรดก็มีเกือบพันแห่ง มูลค่าตลาดรวมทั่วโลกนี่สูงลิ่ว ทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว แม้บางช่วงจะมีย่อตัวลงมาบ้าง แต่ปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันยังถือว่าสูงมากอยู่ดี

แน่นอนว่าพี่ใหญ่อย่างบิตคอยน์ (Bitcoin) ก็ยังคงมีอิทธิพลสูง กินส่วนแบ่งตลาดไปครึ่งหนึ่ง ตามมาด้วยอีเธอเรียม (Ethereum) ที่ก็แข็งแกร่งไม่แพ้กัน ซึ่งสถานการณ์ตลาดโดยรวมตอนนี้ถ้าดูจากดัชนีวัดความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ก็จะเห็นว่าแหล่งข้อมูลก็ให้ค่าไม่ตรงกันเป๊ะทีเดียว มีตั้งแต่โซนกลางๆ ไปจนถึงโซนโลภเลยครับ แปลว่าตลาดไม่ได้กลัวจนหัวหด แต่ก็ไม่ได้โลภจนลืมตัว ถือว่าเป็นช่วงที่น่าสนใจทีเดียว
ท่ามกลางเหรียญนับล้านที่มีอยู่ในตลาด ก็มีเหรียญหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานพอสมควร และกำลังมีการเคลื่อนไหวที่น่าจับตามากๆ นั่นคือเหรียญ EOS หรือที่เราจะเรียกง่ายๆ ว่า eos coin นี่แหละครับ โปรเจกต์นี้มีมาตั้งแต่ยุคบูมแรกๆ ของคริปโทฯ เลยก็ว่าได้ ซึ่งใครที่อยู่ในตลาดมานานๆ คงเคยได้ยินชื่อนี้ หรืออาจจะเคยถือครองด้วยซ้ำ
ย้อนกลับไปดูราคาในอดีตของ eos coin นี่น่าทึ่งมากนะครับ ราคาสูงสุดตลอดกาล (All-Time High) ของมันเคยพุ่งไปถึงประมาณ 14-22 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว นั่นมันเมื่อปี 2018 นู่น! ส่วนราคาต่ำสุดตลอดกาลก็อยู่แถวๆ 0.44-0.47 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งในปี 2017 และที่น่าสนใจคือในบางข้อมูลก็ระบุว่าราคาต่ำสุดเกิดขึ้นล่าสุดในปี 2024 นี้เองด้วย ซึ่งราคานี้ใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันที่อยู่แถวๆ 0.51-0.65 ดอลลาร์สหรัฐมากๆ ครับ

ถ้าเทียบกับยุคทองเมื่อ 6 ปีก่อน ราคา eos coin ในวันนี้ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดมากๆ ครับ นั่นทำให้หลายคนอาจจะมองว่าโปรเจกต์นี้ซบเซาไปแล้วหรือเปล่า? แต่ถ้าเราลองดูข้อมูลล่าสุดในช่วงสั้นๆ นี้ กลับพบแนวโน้มที่น่าสนใจนะครับ ราคาในช่วง 7 วันหรือ 30 วันที่ผ่านมา มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในเชิงบวกอยู่บ้าง แม้ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุดหรือในรอบ 1 ปีจะยังติดลบอยู่เมื่อเทียบกับพี่ใหญ่บิตคอยน์และอีเธอเรียม แต่ก็ถือว่ามีสัญญาณการฟื้นตัวในระยะสั้น-กลางที่น่าจับตา
ปัจจุบัน eos coin ยังถือเป็นโปรเจกต์คริปโทฯ ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1.0 – 1.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีปริมาณการซื้อขายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ค่อนข้างสูง นั่นหมายถึงมีสภาพคล่องในการซื้อขายพอสมควรครับ แต่ถ้ามองในแง่ของความผันผวน ราคาของ eos coin จัดว่าผันผวนสูงทีเดียว ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 6.41% ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจสำหรับตลาดคริปโทฯ โดยทั่วไป
ประเด็นเรื่องอุปทาน (Supply) หรือจำนวนเหรียญที่มีอยู่ในตลาดก็เป็นอีกจุดที่ต้องดูครับ ปัจจุบันมี eos coin หมุนเวียนอยู่ประมาณ 1.5 – 2.06 พันล้านเหรียญ ซึ่งตรงนี้มีข่าวสำคัญมากๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐศาสตร์โทเค็น หรือ Tokenomics ใหม่ของโปรเจกต์นี้ครับ เพราะก่อนหน้านี้ EOS มีอัตราเงินเฟ้อของอุปทานค่อนข้างสูง แต่ล่าสุดได้มีการประกาศปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ กำหนดอุปทานสูงสุดของ eos coin ไว้ที่ 2.1 พันล้านโทเค็น และนำกลไก Halving คล้ายๆ ของบิตคอยน์มาใช้ด้วย ซึ่งกลไกนี้จะช่วยควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุปทานในอนาคตครับ ถือเป็นความพยายามในการสร้างความหายากและเพิ่มมูลค่าให้กับเหรียญในระยะยาว
นอกจากการปรับเปลี่ยน Tokenomics แล้ว โปรเจกต์ eos coin กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกอย่างที่เรียกว่า “การรีแบรนด์” หรือเปลี่ยนชื่อใหม่นั่นเองครับ ชื่อใหม่คือ “Vaulta” ซึ่งกระบวนการแลกเปลี่ยนโทเค็นใหม่ก็ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การเปลี่ยนชื่อนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนโลโก้ แต่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเริ่มต้นบทใหม่ ทิ้งประเด็นต่างๆ ในอดีตไว้ข้างหลัง และก้าวไปข้างหน้าด้วยทิศทางใหม่

แล้วใครคือผู้ขับเคลื่อนเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้? นั่นก็คือ EOS Network Foundation (ENF) ซึ่งเป็นองค์กรที่เข้ามามีบทบาทสำคัญมากๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ENF ทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาเครือข่าย eos coin ประสานงานกับชุมชน และจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการต่างๆ ในระบบนิเวศ พวกเขาคือหัวใจหลักในการผลักดันให้โปรเจกต์กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งครับ
นอกจากข่าวดีเรื่องการปรับปรุงภายใน ก็มีข่าวจากภายนอกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือข่าวที่กองทุนคริปโทฯ ที่เชื่อมโยงกับ Donald Trump ได้เข้าซื้อ eos coin มูลค่าเกือบ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่โปรเจกต์จะรีแบรนด์เป็น Vaulta ครับ แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการแปลงเป็นโทเค็นใหม่ Vaulta อย่างไร แต่การที่กองทุนใหญ่ระดับนี้เข้ามาลงทุนก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อโปรเจกต์นี้ได้ดี
แต่ในทางกลับกัน ก็ยังมีข่าวที่ต้องพิจารณาด้วย เช่น Tether บริษัทผู้ออกเหรียญ USDT stablecoin ชื่อดัง ได้ประกาศยุติการสนับสนุน USDT บนเครือข่าย eos coin ซึ่งก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการใช้งานในบางส่วนครับ รวมถึงยังมีประเด็นเรื่องการฟ้องร้อง Block.one ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุน ICO ของ EOS ในช่วงแรกๆ ซึ่งประเด็นทางกฎหมายเหล่านี้ก็ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามและอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของโปรเจกต์ได้
ถ้าดูตัวเลขภาพรวมทางเศรษฐกิจของโปรเจกต์ eos coin ตอนนี้ จะเห็นว่ามีมูลค่าตลาดและปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเหรียญอื่นๆ อีกหลายรายการ แต่ถ้าไปดูตัวเลข Total Value Locked (TVL) ซึ่งหมายถึงมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดที่ถูกล็อกไว้ในแอปพลิเคชัน DeFi (Decentralized Finance) บนเครือข่าย EOS จะพบว่าตัวเลขยังค่อนข้างน้อย อยู่ที่ประมาณ 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นครับ เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวมของ eos coin ถือว่าต่ำมากๆ อัตราส่วน Market Cap / TVL ที่สูงถึง 37.6 แสดงให้เห็นว่าถึงแม้ eos coin จะมีมูลค่าตลาดสูง แต่ระบบนิเวศ DeFi บนเครือข่ายยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร นี่ก็เป็นอีกมุมที่โปรเจกต์อาจจะต้องเร่งพัฒนาต่อไป
สรุปแล้ว eos coin เป็นโปรเจกต์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เคยรุ่งเรืองสุดขีดและก็เคยราคาตกอย่างหนัก ปัจจุบันโปรเจกต์กำลังพยายามฟื้นตัวอย่างจริงจัง มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ปรับเปลี่ยนเศรษฐศาสตร์โทเค็น เปิดโปรแกรม Staking ใหม่ และกำลังรีแบรนด์เป็น Vaulta เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ มีองค์กรอย่าง ENF เป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก และเริ่มมีสัญญาณการลงทุนจากกองทุนใหญ่เข้ามา แต่ก็ยังมีประเด็นจากอดีตและข่าวสารที่ต้องติดตามอยู่ครับ
สำหรับคนที่สนใจหรือกำลังพิจารณา eos coin สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้านนะครับ ไม่ใช่แค่ดูราคาที่ปรับตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ แต่ต้องเข้าใจพื้นฐานของโปรเจกต์ การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น ความเสี่ยงต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงสภาพตลาดคริปโทฯ โดยรวมด้วย
⚠️ หากเงินทุนของคุณมีจำกัด หรือเป็นเงินที่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่างคริปโทเคอร์เรนซี รวมถึง eos coin อาจไม่เหมาะกับคุณ ควรประเมินความเสี่ยงและยอมรับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ทำการบ้านด้วยตัวเอง (DYOR – Do Your Own Research) ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งนะครับ