เคยไหมครับที่นั่งไถฟีดข่าวสารการเงินอยู่ดีๆ แล้วก็เจอตัวย่อแปลกๆ โผล่ขึ้นมาให้สงสัยเล่น อย่างเช่น “ABT” เนี่ย พอเห็นแล้วก็งงเลยว่า abt ย่อมาจาก อะไรกันแน่? มันเกี่ยวอะไรกับชีวิตประจำวันเราบ้างหรือเปล่า? วันนี้ในฐานะคอลัมนิสต์สายการเงินที่ชอบเล่าเรื่องยากๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่ายๆ สไตล์เพื่อนคุย ผมจะพาเพื่อนๆ ไปสำรวจโลกของ “ABT” ที่ว่านี้กันครับ รับรองว่าอ่านจบแล้วจะร้อง “อ๋อ” ดังๆ เลยทีเดียว
เรื่องของเรื่องก็คือ โลกการเงินสมัยนี้มันกว้างใหญ่ไพศาลมากครับ ตัวย่อตัวเดียวอาจจะหมายถึงอะไรที่ต่างกันสุดขั้ว เหมือนเวลาเราพูดคำว่า “แอปเปิล” คนหนึ่งอาจนึกถึงผลไม้สีแดงๆ หวานกรอบ แต่อีกคนกลับนึกถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ผลิตไอโฟน นั่นแหละครับ “ABT” ก็เป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจแบบนั้นเลย

เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆ เห็นคำว่า abt ย่อมาจาก ไหน ลองหายใจเข้าลึกๆ แล้วตั้งสติไว้ก่อนนะครับ เพราะในโลกการเงินแล้ว “ABT” เนี่ย มีความเป็นไปได้อยู่ 2 แบบหลักๆ ที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียวครับ มาดูกันทีละแบบดีกว่า
—
**ABT แรก: อนาคตดิจิทัล กับโลกบล็อกเชน (ArcBlock Token)**
มาเริ่มกันที่ “ABT” ตัวแรกกันก่อนเลยครับ ถ้าเพื่อนๆ กำลังสนใจเรื่องของโลกดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี หรือบล็อกเชนอยู่ล่ะก็ เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอคำว่า abt ย่อมาจาก อะไรในบริบทนี้ นั่นหมายถึง “ArcBlock Token” (อาร์คบล็อก โทเค็น) ครับ
ลองจินตนาการภาพตามผมนะครับว่า คุณกำลังจะสร้างบ้านหลังหนึ่ง แต่แทนที่จะต้องไปหาอิฐ หิน ปูน ทราย มาผสมเองทั้งหมด ArcBlock เค้าก็เหมือนโรงงานที่เตรียม “บล็อกเล็ต” (Blocklet) หรือชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่ประกอบกันได้ง่ายๆ มาให้คุณเลือกใช้ คุณแค่ออกแบบบ้านในฝันของคุณ แล้วก็หยิบชิ้นส่วนเหล่านี้มาประกอบเข้าด้วยกันอย่างง่ายดาย นี่แหละครับคือสิ่งที่แพลตฟอร์ม ArcBlock พยายามจะทำเพื่อปฏิวัติการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “dApps” (ดีแอปส์) นั่นเอง
เจ้าแพลตฟอร์ม ArcBlock ที่ว่านี้ มีเป้าหมายอันทะเยอทะยาน คือการทำให้การสร้าง dApps มันง่ายขึ้น เร็วขึ้น และถูกลง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ในยุคที่คนทั่วโลกหันมาใช้แอปฯ แบบกระจายศูนย์กันมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับ “คลาวด์คอมพิวติ้ง” (Cloud Computing) หรือระบบคอมพิวเตอร์บนคลาวด์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น โดยมีเป้าหมายสุดว้าวที่อยากจะประมวลผลธุรกรรมให้ได้ถึง 100,000 รายการต่อวินาทีเลยทีเดียวครับ ลองคิดดูสิครับว่ามันจะเร็วขนาดไหน!
แล้ว “ArcBlock Token” หรือ ABT ของเราเนี่ย มันไปทำอะไรอยู่ในระบบนิเวศของ ArcBlock ล่ะ? ก็ต้องบอกว่าเจ้า ABT นี่แหละครับคือหัวใจสำคัญของระบบเลย เปรียบเสมือนเงินตราที่ใช้แลกเปลี่ยนและขับเคลื่อนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม การเข้าถึงบริการพิเศษต่างๆ บนแพลตฟอร์ม หรือแม้แต่การมีส่วนร่วมในการออกเสียงกำกับดูแลเครือข่าย เพื่อให้ทิศทางของแพลตฟอร์มเป็นไปตามที่ชุมชนต้องการ

ที่น่าสนใจคือ ABT ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเป็น “เงินฝืด” (Deflationary) คือจำนวนเหรียญจะค่อยๆ ลดลงเมื่อมีการใช้งานมากขึ้น ซึ่งกลไกนี้จะช่วยรักษาเสถียรภาพและอาจเพิ่มมูลค่าให้กับโทเค็นในระยะยาวได้ นอกจากนี้ยังเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ดึงดูดทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนาเข้ามาในระบบด้วย ใครที่บริจาคทรัพยากรหรือให้บริการเครือข่ายก็มีโอกาสได้รับโทเค็นเป็นรางวัลตอบแทนด้วยครับ
ผู้ก่อตั้งวิสัยทัศน์กว้างไกลเบื้องหลัง ArcBlock คือ คุณ “โรเบิร์ต เหมา” (Robert Mao) และคุณ “ฟลาเวียน ชาร์ลอน” (Flavien Charlon) ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้มีประสบการณ์ในวงการเทคโนโลยีและบล็อกเชนมาอย่างโชกโชนครับ พวกเขาสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมาเพื่อให้นักพัฒนาสร้าง dApps ได้ง่ายขึ้น แถมยังลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลงได้อีกด้วย แถมยังมี “โอเพนเชน แอคเซส โปรโตคอล” (Open Chain Access Protocol หรือ OCAP) ที่ช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถเชื่อมต่อและสลับไปมาระหว่างโปรโตคอลบล็อกเชนต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้การพัฒนาแอปฯ ไม่ถูกจำกัดอยู่แค่บล็อกเชนใดบล็อกเชนหนึ่งเท่านั้นครับ
พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเจอ abt ย่อมาจาก ไหนที่เกี่ยวกับเทคโนโลยียุคใหม่ อินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต หรือการเงินดิจิทัล ให้คิดถึง ArcBlock Token เอาไว้เลยครับ นี่คือโลกของนวัตกรรมที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจของเราอย่างแท้จริง
—
**ABT ที่สอง: ยักษ์ใหญ่แห่งวงการสุขภาพ (Abbott Laboratories)**
เอาล่ะครับ หลังจากที่เราดำดิ่งสู่โลกดิจิทัลกันมาแล้ว คราวนี้เรามาพลิกหน้ากระดาษอีกด้านหนึ่งของ “ABT” กันบ้างครับ “ABT” อีกความหมายหนึ่งนั้นอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด และอยู่คู่โลกมานานกว่าร้อยปีแล้วด้วยครับ
ถ้าเพื่อนๆ เห็นสัญลักษณ์หุ้น “ABT” อยู่ในข่าวตลาดหลักทรัพย์ หรือบทวิเคราะห์หุ้น นั่นหมายถึง “Abbott Laboratories” (แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส) ครับ ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีหน้าใหม่ไฟแรงอะไรที่ไหน แต่เป็นบริษัทยาและเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จดทะเบียนอยู่ใน “ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก” (NYSE: ABT) เลยทีเดียวครับ
Abbott Laboratories ไม่ใช่แค่บริษัทที่ทำยาอย่างเดียวนะครับ แต่ธุรกิจของพวกเขากระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 130 ประเทศ ครอบคลุมทั้งเภสัชภัณฑ์ อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยและเด็ก ไปจนถึงเครื่องมือแพทย์ล้ำสมัยต่างๆ ที่ใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรค สำนักงานใหญ่ของพวกเขาตั้งอยู่ที่เมืองเลคบลัฟฟ์ (Lake Bluff) รัฐอิลลินอยส์ (Illinois) สหรัฐอเมริกาครับ
ประวัติความเป็นมาของ Abbott Laboratories ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน บริษัทนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1888 โน่นเลยครับ โดยคุณหมอ “วอลเลซ ซี. แอบบอตต์” (Dr. Wallace C. Abbott) ซึ่งในตอนแรกเริ่มจากการผลิตยาเม็ดเล็กๆ ที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์จากพืชสมุนไพร แล้วค่อยๆ เติบโตขึ้นจนกลายเป็นบริษัทยายักษ์ใหญ่ที่คนทั่วโลกต่างให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพและงานวิจัย
ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้ Abbott Laboratories ก็มีมากมายครับ เช่นในปี 1985 พวกเขาเป็นบริษัทแรกๆ ที่พัฒนาชุดตรวจหาเชื้อ “เอชไอวี” (HIV) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้กับโรคเอดส์ (AIDS) และในปี 2001 ก็ได้เข้าซื้อแผนกเภสัชกรรมจากบริษัท “บีเอเอสเอฟ” (BASF) หรือในปี 2004 ก็ได้แยกแผนกผลิตภัณฑ์โรงพยาบาลออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ชื่อ “ฮอสปิร่า” (Hospira) ซึ่งล้วนแต่เป็นการปรับตัวและขยายธุรกิจเพื่อให้ทันกับความต้องการของตลาดอยู่เสมอครับ

ลองมาดูตัวเลขทางธุรกิจของยักษ์ใหญ่รายนี้กันบ้างครับ เพื่อให้เห็นภาพความยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น จากข้อมูลในปี ค.ศ. 2021 บริษัทมีรายได้รวมสูงถึง 43.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยก็หลายแสนล้านบาทเลยทีเดียว!) และในปี ค.ศ. 2022 พวกเขามีรายได้จากการดำเนินงาน 8.362 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้สุทธิ 6.933 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี ค.ศ. 2021 พวกเขามีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากถึง 113,000 คนเลยครับ ส่วนสินทรัพย์ของบริษัท ณ ปี ค.ศ. 2015 ก็อยู่ที่ 41.247 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและขนาดของธุรกิจที่ใหญ่โตมหาศาลจริงๆ ครับ
ผลิตภัณฑ์หลักๆ ของ Abbott Laboratories ที่เราอาจจะคุ้นเคยกันดีก็อย่างเช่น “ฮูมิร่า” (Humira) ซึ่งเป็นยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ “นอร์เวียร์” (Norvir) และ “คาเลตรา” (Kaletra) ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยเอชไอวี รวมถึง “ดีปาโกต” (Depakote) ยาสำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก “ซินทรอยด์” (Synthroid) ฮอร์โมนไทรอยด์สังเคราะห์ และที่สำคัญและน่าจะคุ้นหูกันมากที่สุดคือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ใหญ่และผู้ป่วยอย่าง “เอ็นชัว” (Ensure) นั่นเองครับ
เห็นไหมครับว่า abt ย่อมาจาก อะไรในตลาดหุ้นนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย มันคือบริษัทที่มีผลต่อสุขภาพและชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกจริงๆ ครับ
—
**สอง ABT คนละขั้ว: แล้วเราจะแยกแยะยังไง?**
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มคันไม้คันมืออยากจะถามแล้วว่า “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่า abt ย่อมาจาก อะไรในแต่ละครั้งที่เราเห็น?” คำตอบง่ายๆ เลยครับคือ “ดูที่บริบท” ครับ
ถ้าคุณกำลังอ่านข่าวเกี่ยวกับวงการคริปโตเคอร์เรนซี บล็อกเชน หรือ “สินทรัพย์ดิจิทัล” ต่างๆ แล้วเจอคำว่า ABT ลอยมาแต่ไกล ก็ให้พุ่งเป้าไปที่ “ArcBlock Token” ได้เลยครับ เพราะนี่คือตัวย่อที่ใช้กันในโลกดิจิทัล ส่วนใหญ่จะปรากฏตามกระดานเทรดคริปโต เว็บไซต์ข่าวบล็อกเชน หรือเว็บบล็อกของนักพัฒนา
แต่ถ้าคุณกำลังอ่านรายงานผลประกอบการบริษัท บทวิเคราะห์หุ้น หรือข่าวจาก “ตลาดหลักทรัพย์” ดังๆ อย่างตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก แล้วเจอสัญลักษณ์ “ABT” พาดหัวอยู่ล่ะก็ ฟันธงได้เลยครับว่านั่นคือ “Abbott Laboratories” บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่แน่นอน เพราะในตลาดหุ้น สัญลักษณ์เหล่านี้จะถูกใช้เป็นรหัสประจำตัวของบริษัทแต่ละแห่งอย่างชัดเจนครับ
เรื่องนี้ก็เหมือนเวลาเพื่อนเล็กน้อยของผมโทรมาถามว่า “คุณว่าธุรกิจอะไรดีนะช่วงนี้?” แล้วผมตอบไปว่า “ลองดู ABT สิ” ถ้าผมพูดลอยๆ แบบนี้เพื่อนก็อาจจะงงได้ แต่ถ้าผมบอกว่า “ช่วงนี้กระแส ‘บล็อกเชน’ มาแรงนะ ลองดู ‘ArcBlock Token’ หรือที่เรียกว่า ABT สิ” หรือ “ถ้าอยากลงทุนในธุรกิจที่มั่นคง ‘Abbott Laboratories’ หรือหุ้น ABT ก็น่าสนใจนะ” แค่นี้เพื่อนก็เข้าใจทันทีแล้วครับ
—
**สรุปและข้อคิดปิดท้าย: ความรู้คือการลงทุนที่ดีที่สุด**
สุดท้ายนี้ครับ ไม่ว่า abt ย่อมาจาก อะไร ไม่ว่าจะเป็น “ArcBlock Token” ที่เป็นโทเค็นยูทิลิตี้แห่งโลกบล็อกเชน หรือ “Abbott Laboratories” บริษัทเภสัชกรรมยักษ์ใหญ่ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนอย่างเราๆ คือ “ความรู้และความเข้าใจ” ครับ
ในโลกการเงินที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว มีตัวย่อใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบทุกวัน เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง แต่เราควรจะรู้ “วิธีการหาข้อมูล” และ “วิธีการทำความเข้าใจ” ในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของเรา
หากคุณกำลังพิจารณาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างเช่น ArcBlock Token หรือคริปโตเคอร์เรนซีอื่นๆ ก็ต้องจำไว้ว่าตลาดนี้มีความผันผวนสูงมาก ราคาอาจขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วได้ในเวลาอันสั้น ⚠️ ดังนั้น หากสภาพคล่องทางการเงินของคุณไม่สูง หรือเป็นเงินที่จำเป็นต้องใช้ในเร็วๆ นี้ แนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ประเมินความเสี่ยงที่รับได้ และลงทุนในจำนวนที่พร้อมจะเสียได้เท่านั้นนะครับ อย่า “ตามกระแส” เด็ดขาด และที่สำคัญคือต้องเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่น่าเชื่อถือด้วย อย่างเช่นแพลตฟอร์ม Moneta Markets (โมเนต้า มาร์เก็ตส์) หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่มีมาตรฐานการกำกับดูแลที่ดี มักจะมีทางเลือกสำหรับสินทรัพย์หลากหลายประเภท และมีข้อมูลให้ศึกษาเยอะครับ
ในทางกลับกัน ถ้าคุณสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Abbott Laboratories ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ก็ต้องศึกษาพื้นฐานของบริษัทให้ดี ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการ ยอดขาย สินทรัพย์ หนี้สิน คู่แข่ง รวมถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมสุขภาพโดยรวม แม้ว่าจะเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงสูง แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ เช่น นโยบายภาครัฐ การแข่งขันในตลาด หรือแม้กระทั่งการวิจัยและพัฒนายาตัวใหม่ๆ ที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังได้เสมอไป
จำไว้เสมอครับว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน” ประโยคนี้ไม่ใช่แค่คำเตือนทั่วไป แต่มันคือหัวใจของการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวครับ เพราะเมื่อคุณเข้าใจว่า abt ย่อมาจาก อะไร และเข้าใจในสินทรัพย์ที่คุณกำลังจะลงทุนอย่างถ่องแท้ ไม่ว่าโลกการเงินจะซับซ้อนแค่ไหน คุณก็จะสามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นใจแน่นอนครับ!