คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

สกุลเงินดิจิทัลและโทเคน

ไขรหัสลับ Filecoin: เจาะลึกข้อมูลที่คุณต้องรู้ก่อนลงทุน!

สวัสดีครับ ผมผู้เขียนคอลัมน์การเงินที่จะพาไปย่อยเรื่องยากๆ ให้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวอีกเช่นเคย

เพื่อนๆ เคยรู้สึกไหมครับว่า โลกของสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) เนี่ย มันช่างวุ่นวายสับสน ตัวเลขจากแหล่งข้อมูลโน้นก็อย่างหนึ่ง แหล่งข้อมูลนี้ก็อีกอย่างหนึ่ง ยิ่งไปดูเหรียญที่มีเทคโนโลยีซับซ้อนอย่าง ไฟล์คอยน์ (Filecoin) ด้วยแล้ว อาจจะยิ่งงงไปกันใหญ่ “เอ๊ะ… ราคาเท่านี้จริงเหรอ มูลค่าตลาดทำไมตัวเลขไม่ตรงกันนะ?”

วันนี้ผมจะพาทุกคนไปแกะกล่อง ไฟล์คอยน์ (Filecoin) ดูกันให้ชัดๆ จากข้อมูลหลากหลายแหล่งที่เราหามาได้ ไม่ว่าจะเป็นจาก คอยน์มาร์เก็ตแคป (CoinMarketCap), คอยน์เกคโค (CoinGecko), คอยน์เบส (Coinbase) หรือ คอยน์โคเด็กซ์ (CoinCodex) เพื่อให้เห็นภาพรวมทั้งตลาดและเจาะลึกเจ้าเหรียญเก็บข้อมูลตัวนี้กันครับ

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจภาพใหญ่ของตลาดคริปโทฯ ในปัจจุบันก่อนครับ ตลาดโดยรวมถือว่ามีขนาดใหญ่มาก อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุด (ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ) มูลค่าตลาดรวมของคริปโทเคอร์เรนซีทั้งโลกอยู่ที่ประมาณ 2.42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ! ฟังดูแล้วขนลุกใช่ไหมครับ ส่วนปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงก็มหาศาลเช่นกัน แต่ตัวเลขนี้ก็แตกต่างกันไปในแต่ละแหล่ง อาจจะอยู่ระหว่าง 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไปจนถึงแสนแปดหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ซึ่งความต่างนี้ก็เป็นเรื่องปกติในโลกคริปโทฯ ที่มีข้อมูลจากหลายที่ให้เราเลือกดู

ในตลาดที่ใหญ่ขนาดนี้ พี่ใหญ่ บิตคอยน์ (Bitcoin) และพี่รอง อีเทอเรียม (Ethereum) ก็ยังคงครองส่วนแบ่งใหญ่ โดย บิตคอยน์ มีส่วนแบ่งตลาด (BTC Dominance) ราวๆ 53-54% ส่วน อีเทอเรียม มีส่วนแบ่งประมาณ 17.6% นอกนั้นก็เป็นเหรียญเล็กเหรียญน้อยอีกกว่า 2.4 ล้านสกุล ที่ซื้อขายกันอยู่บนกระดานเทรดกว่า 780 แห่งทั่วโลก เห็นไหมครับว่ามันมีเหรียญเยอะมากจริงๆ

แล้วตอนนี้บรรยากาศตลาดเป็นยังไง? ตัวชี้วัดหนึ่งที่นิยมดูกันคือ ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ตัวเลขนี้ก็จะบอกอารมณ์ตลาดรวมๆ ซึ่งข้อมูลที่ได้มาก็มีทั้งที่บอกว่าอยู่ในโซนกลางๆ ที่ 53/100 หรือบางแหล่งก็บอกว่าอยู่ในโซนโลภ (Greed) ที่ 74/100 ความต่างนี้ก็สะท้อนว่าตลาดมันมีความผันผวนและมุมมองของนักลงทุนยังไม่นิ่งเท่าไหร่ครับ สรุปคือ ตลาดคริปโทฯ ตอนนี้ใหญ่โต มีผู้เล่นและเหรียญจำนวนมาก แต่ก็ยังคงผันผวนและมีข้อมูลที่ต้องตีความจากหลายแหล่งอยู่ดี

ทีนี้เรามาเจาะลึกที่พระเอกของเราวันนี้ นั่นคือ ไฟล์คอยน์ หรือ FIL กันบ้างครับ จากข้อมูล ตัวเลขทางการเงินที่น่าสนใจมีดังนี้

ราคาปัจจุบันของ ไฟล์คอยน์ ก็เป็นจุดแรกที่ตัวเลขจากแต่ละแหล่งแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด บางแห่งบอกประมาณ 3.41 ดอลลาร์สหรัฐ บางแห่งบอกสูงถึง 5.10 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งความต่างนี้ก็อาจมาจากแหล่งที่มาของสภาพคล่องหรือวิธีการคำนวณของแต่ละแพลตฟอร์มครับ

ด้านมูลค่าตลาด (Market Cap) ซึ่งก็คือราคาเหรียญคูณด้วยจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ในระบบ ก็มีตัวเลขที่แตกต่างกันเช่นกัน อยู่ระหว่างประมาณ 2.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง 2.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนมูลค่าตามราคาตลาดแบบเต็มรูปแบบ หรือ Fully Diluted Valuation (FDV) ซึ่งเป็นการคำนวณโดยสมมติว่าเหรียญทั้งหมดที่มีในอนาคตถูกนำออกมาหมุนเวียนแล้ว ตัวเลขนี้ยิ่งต่างกันกว้างกว่า ตั้งแต่ 1.64 พันล้าน ถึง 8.38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ตัวเลข FDV ที่สูงกว่า Market Cap มากๆ ก็อาจบ่งบอกถึงจำนวนเหรียญที่จะถูกปล่อยออกมาในอนาคตค่อนข้างเยอะครับ

ปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงของ ไฟล์คอยน์ ก็อยู่ในระดับที่สูงพอสมควร ราวๆ 108 ล้าน ถึง 444 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตัวเลขนี้สะท้อนว่า ไฟล์คอยน์ ยังคงเป็นเหรียญที่มีสภาพคล่องและมีการซื้อขายกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้เป็นเหรียญที่ถูกทิ้งร้างไปครับ

มาดูเรื่อง “อุปทาน” หรือจำนวนเหรียญกันบ้างครับ อุปทานหมุนเวียน (Circulating Supply) หรือเหรียญที่อยู่ในตลาดตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 556 ถึง 629 ล้าน ฟิล ส่วนอุปทานรวม (Total Supply) หรือเหรียญทั้งหมดที่มีอยู่ตามที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วอยู่ที่ประมาณ 1.96 พันล้าน ฟิล และอุปทานสูงสุด (Max Supply) หรือจำนวนเหรียญที่จะมีได้ทั้งหมดในอนาคตก็มีตัวเลขที่แตกต่างกันอีก บางแหล่งบอก 321 ล้านกว่า บางแหล่งบอก 1.96 พันล้าน ซึ่งข้อมูลตรงนี้อาจต้องไปดูรายละเอียดใน Whitepaper ของโครงการอีกทีเพื่อความแม่นยำสูงสุดครับ

จุดที่น่าสนใจมากๆ ในเชิงเศรษฐศาสตร์ของ ไฟล์คอยน์ คือ อัตราเงินเฟ้ออุปทานรายปี (Annual Supply Inflation Rate) ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 29.69% ตัวเลขนี้ค่อนข้างสูง หมายความว่า ในแต่ละปีจะมีเหรียญ ฟิล ถูกสร้างขึ้นมาใหม่และเข้าสู่ระบบในอัตราที่เกือบ 30% ของอุปทานปัจจุบัน ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาเหรียญในระยะยาวได้หากความต้องการซื้อไม่เพิ่มขึ้นตาม

ลองย้อนดูประวัติศาสตร์ราคาของ ไฟล์คอยน์ กันหน่อยครับ ใครที่ติดตามมานานจะรู้ว่า ไฟล์คอยน์ เคยสร้างประวัติศาสตร์ทำราคาสูงสุดตลอดกาล (ATH – All-Time High) ไว้ที่ประมาณ 236-237 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดคริปโทฯ โดยรวมคึกคักมากๆ ครับ แต่หลังจากนั้น ราคาของ ไฟล์คอยน์ ก็ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง จนเคยทำราคาต่ำสุดตลอดกาล (ATL – All-Time Low) ไว้ที่ 2.54 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อช่วงปลายปี 2565 ครับ จะเห็นว่าราคาปัจจุบันของ ไฟล์คอยน์ นั้น ห่างไกลจากจุดสูงสุดเดิมอย่างมาก

ความผันผวนของราคา ไฟล์คอยน์ โดยรวมจัดอยู่ในระดับปานกลางที่ประมาณ 3.38% แต่ถ้าดูการเปลี่ยนแปลงราคาในแต่ละช่วงเวลา จะเห็นความแตกต่างและผันผวนสูงในระยะยาวครับ เช่น ใน 1 ชั่วโมง อาจจะบวกเล็กน้อย, ใน 24 ชั่วโมง บางแหล่งบอกบวก บางแหล่งบอกลบ 5% กว่าๆ, ใน 7 วัน ส่วนใหญ่บวกเล็กน้อย, แต่ใน 1 เดือน หรือ 1 ปี ตัวเลขกลับต่างกันอย่างมาก บางแหล่งบอกลบ 27-29% บางแหล่งกลับบอกว่าบวก 50% หรือแม้แต่ในรอบปี บางแหล่งบอกบวก 9-38% แต่อีกแหล่งบอกลบ 36% ตัวเลขที่ต่างกันสุดขั้วนี้ อาจเกิดจากวิธีการคำนวณค่าเฉลี่ย ราคาอ้างอิง หรือช่วงเวลาที่แตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละแพลตฟอร์ม ซึ่งนักลงทุนต้องพึงระวังและอย่าเชื่อตัวเลขจากแหล่งเดียวครับ

แล้ว ไฟล์คอยน์ (Filecoin) มันมีดีอะไร ทำไมถึงยังมีคนสนใจอยู่? หัวใจหลักของโครงการนี้คือการเป็น “เครือข่ายจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์” (Decentralized Storage Network) ครับ ลองคิดง่ายๆ มันเหมือนเรามีฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่มากๆ ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ไม่ได้รวมศูนย์อยู่ที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งอย่างที่เราใช้บริการคลาวด์ (Cloud Storage) เจ้าใหญ่ๆ ทั่วไป การทำงานจะแบ่งเป็น ผู้ใช้งานที่ต้องการเก็บข้อมูล ผู้ขุด (Miner) ที่มีพื้นที่เก็บข้อมูล และผู้ขุดที่ช่วยดึงข้อมูล โดยใช้โทเคน FIL เป็นค่าธรรมเนียมและแรงจูงใจให้ทุกคนในระบบทำงานร่วมกัน

กรณีการใช้งานของ ไฟล์คอยน์ มีหลากหลายมากครับ ไม่ใช่แค่เก็บไฟล์ส่วนตัวหรือไฟล์งาน แต่รวมไปถึงการเก็บข้อมูลของแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ วิดีโอ ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลส่วนตัว การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน การเป็นที่เก็บข้อมูลให้กับบล็อกเชน (Blockchain) อื่นๆ รวมถึงข้อมูลสำหรับซัพพลายเชน (Supply Chain) และอื่นๆ อีกมากมาย พูดง่ายๆ คือ ทุกอย่างที่เป็นข้อมูลดิจิทัล สามารถนำมาเก็บไว้บนเครือข่าย ไฟล์คอยน์ ได้ครับ

จากข้อมูลที่เราเห็นทั้งหมด ไฟล์คอยน์ เป็นโครงการที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและมีการใช้งานจริงในโลกของการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานในยุคดิจิทัลนี้ ข้อมูลสถิติทางการเงินก็แสดงให้เห็นว่ามีมูลค่าตลาดและปริมาณการซื้อขายที่สูงพอสมควรเมื่อเทียบกับเหรียญอื่นๆ ไม่ใช่โครงการเล็กๆ ที่ไม่มีใครสนใจ

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขก็ยังเล่าเรื่องอีกด้านให้เราเห็น นั่นคือ ราคาที่ร่วงลงมามหาศาลจากจุดสูงสุด และอัตราเงินเฟ้ออุปทานที่ค่อนข้างสูงเกือบ 30% ต่อปี ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อราคาเหรียญ FIL ได้

คุณอาจจะตั้งคำถามว่า “แล้ว ไฟล์คอยน์ น่าสนใจลงทุนไหมในตอนนี้?” นี่คือคำถามที่ไม่มีใครตอบได้แบบฟันธงครับ แต่สิ่งที่เราทำได้คือวิเคราะห์จากข้อมูลที่เรามี

ในแง่ของศักยภาพทางเทคโนโลยีและการใช้งานจริง ไฟล์คอยน์ มีจุดแข็งในด้านการเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของ Web3 และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

แต่ในแง่ของการลงทุนในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัล ตัวเลขราคาที่ผันผวนสุดขีดจาก ATH และการที่อุปทานเหรียญจะเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต (จากอัตราเงินเฟ้อเกือบ 30%) ถือเป็นความท้าทายสำคัญที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบครับ การที่ราคาเคยขึ้นไปสูงมากในอดีต ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่าราคาจะกลับไปถึงจุดนั้นอีกครั้งในเร็ววันครับ

ข้อมูลทั้งหมดนี้รวบรวมมาจากแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถืออย่าง คอยน์มาร์เก็ตแคป (CoinMarketCap), คอยน์เกคโค (CoinGecko), คอยน์เบส (Coinbase) และ คอยน์โคเด็กซ์ (CoinCodex) รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการจาก วิกิพีเดีย (Wikipedia) และเว็บไซต์หลัก ไฟล์คอยน์ ดอท ไอโอ (Filecoin.io) แสดงให้เห็นว่า ไฟล์คอยน์ เป็นโครงการที่มีตัวตนและมีการรายงานข้อมูลอย่างกว้างขวาง ผู้พัฒนาโครงการคือ โปรโตคอล แล็บส์ (Protocol Labs) ซึ่งก็เป็นทีมงานที่มีชื่อเสียงในวงการ

สำหรับคนที่กำลังพิจารณา ไฟล์คอยน์ (Filecoin) หรือเหรียญคริปโทฯ อื่นๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง” หรือที่เรียกกันว่า DYOR (Do Your Own Research) ครับ อย่าเพิ่งเชื่อตามกระแส หรือตามตัวเลขที่เห็นเพียงผิวเผิน

คุณควรทำความเข้าใจโมเดลธุรกิจ หรือในกรณีของ ไฟล์คอยน์ ก็คือโมเดลของเครือข่ายจัดเก็บข้อมูลนี้ให้ลึกซึ้ง รวมถึงทำความเข้าใจเกี่ยวกับโทเคนโนมิคส์ (Tokenomics) หรือเศรษฐศาสตร์ของเหรียญ FIL ด้วย โดยเฉพาะเรื่องอุปทานทั้งหมด อัตราการปล่อยเหรียญ และอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อราคาในระยะยาวครับ

หากคุณสนใจจะลองซื้อขาย ไฟล์คอยน์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ก็มีแพลตฟอร์มซื้อขายหลายแห่งที่เปิดให้บริการครับ อย่างเช่น Moneta Markets (โมเนต้า มาร์เก็ตส์) หรือแพลตฟอร์มระหว่างประเทศอื่นๆ ซึ่งแต่ละแห่งก็อาจมีเงื่อนไขการเทรด ประเภทบัญชี หรือค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป นักลงทุนควรเปรียบเทียบและเลือกใช้แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและเหมาะสมกับความต้องการของตัวเองครับ การเลือกแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ มีการกำกับดูแลที่ดี ก็เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารความเสี่ยงเช่นกัน

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะมอง ไฟล์คอยน์ ในแง่ของเทคโนโลยีที่น่าสนใจ หรือในแง่ของโอกาสในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักเสมอคือ “ความเสี่ยง” ครับ

⚠️ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงมาก ราคาสามารถผันผวนได้อย่างรุนแรงและรวดเร็วภายในเวลาสั้นๆ คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ หากไม่มีความเข้าใจเพียงพอ หรือใช้เงินที่ไม่พร้อมจะสูญเสียไป (เงินเย็น) ควรใช้เงินที่สามารถยอมรับความสูญเสียได้เท่านั้น และศึกษาข้อมูล รวมถึงพิจารณาความเสี่ยงของตัวเองอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอครับ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ ไฟล์คอยน์ และภาพรวมตลาดคริปโทฯ ได้ชัดเจนขึ้นนะครับ แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์หน้า สวัสดีครับ

LEAVE A RESPONSE