สวัสดีครับทุกคน! ในฐานะคอลัมนิสต์สายการเงินที่คลุกคลีกับโลกดิจิทัลมาสักพัก ยอมรับเลยครับว่าบางทีก็ตามเทคโนโลยีใหม่ๆ แทบไม่ทันเหมือนกัน ช่วงนี้เพื่อนๆ รอบตัวที่เริ่มสนใจคริปโตก็มักจะมาถามผมถึงเหรียญใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ Bitcoin หรือ Ethereum ล่าสุดมีคนถามเรื่อง ‘Hedera Hashgraph’ ว่ามันคืออะไร แล้วเจ้าเหรียญ `hbar coin คือ` อะไร น่าสนใจตรงไหน วันนี้เลยอยากมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ สไตล์บ้านๆ กันครับ

ถ้าพูดถึงโลกคริปโต ส่วนใหญ่เราจะนึกถึง “บล็อกเชน” ใช่ไหมครับ? ที่มันเหมือนสมุดบัญชีที่แต่ละหน้า (บล็อก) ต้องเรียงต่อกันเป็นห่วงโซ่ (เชน) แล้วทุกคนช่วยกันตรวจสอบ แต่บล็อกเชนรุ่นแรกๆ เนี่ย มันก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างครับ อย่างเรื่องความเร็วในการทำธุรกรรมที่ยังช้าอยู่ (นึกภาพถนนแค่เลนเดียว รถติดมหาศาล) ค่าธรรมเนียมก็บางทีก็แพงหูฉี่ แล้วก็เรื่องที่ว่ามันกระจายศูนย์ ปลอดภัย แต่ขยายตัวรองรับคนเยอะๆ ยาก อันนี้เป็นปัญหาที่วงการเรียกว่า “Blockchain Trilemma” (สามปัญหาโลกแตกของบล็อกเชน)

ทีนี้ Hedera Hashgraph เนี่ย เค้าไม่ได้ใช้บล็อกเชนครับ แต่ใช้เทคโนโลยีอีกแบบที่เรียกว่า Directed Acyclic Graph หรือ DAG ซึ่งของ Hedera เค้าเรียกว่า “Hashgraph” ฟังดูยากใช่ไหมครับ? เอาเป็นว่ามันคือโครงสร้างข้อมูลอีกแบบที่ไม่ต้องเรียงเป็นบล็อกๆ ทำให้การทำธุรกรรมสามารถเกิดขึ้นพร้อมๆ กันได้หลายทางเหมือนใยแมงมุม หรือเหมือนถนนหลายเลนที่รถวิ่งไปพร้อมกันได้
ผู้คิดค้นเทคโนโลยี Hashgraph นี้ก็คือ Dr. Leemon Baird ครับ ซึ่งท่านร่วมก่อตั้งบริษัท Swirlds Labs กับ Mance Harmon แล้วก็ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Hedera ขึ้นมาในปี 2017 เพื่อมาแก้ปัญหา Trilemma ของบล็อกเชน โดย Hedera ไม่ได้บริหารแบบรวมศูนย์นะครับ แต่มี Hedera Governing Council ที่ประกอบด้วย 39 องค์กรชั้นนำระดับโลก หมุนเวียนกันดูแลอยู่ เช่น Google, IBM, Dell, LG และอีกหลายบริษัทใหญ่ๆ เลยครับ ซึ่งตรงนี้เองที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและนำประสบการณ์ทางธุรกิจมาพัฒนาเครือข่ายได้อย่างดี

แล้ว `hbar coin คือ` อะไรล่ะ? ก็คือเหรียญยูทิลิตี้ประจำเครือข่าย Hedera นี่แหละครับ ลองนึกภาพว่าเวลาเราจะใช้บริการอะไรบนเครือข่าย Hedera ไม่ว่าจะเป็นการโอนเหรียญ HBAR เอง การใช้งาน Smart Contract หรือการสร้างแอปพลิเคชันต่างๆ เราก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมด้วยเหรียญ HBAR นี่แหละครับ นอกจากนี้ผู้ที่ถือเหรียญ HBAR ยังสามารถนำไป Staking เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลได้ด้วยครับ

จุดเด่นที่ทำให้ Hedera Hashgraph น่าจับตามองมากๆ และแตกต่างจากเครือข่ายอื่นๆ คือเรื่องความเร็วและความสามารถในการรองรับปริมาณงานครับ ด้วยกลไกแบบ Hashgraph Consensus ที่ใช้เทคนิค “Gossip about Gossip” (เหมือนโหนดต่างๆ แลกเปลี่ยนข้อมูลที่ได้รับมาระหว่างกันอย่างรวดเร็ว) และ “Virtual Voting” (โหนดต่างๆ เห็นพ้องต้องกันโดยไม่ต้องส่งข้อความโหวตไปมาทั้งหมด) ทำให้ Hedera สามารถประมวลผลธุรกรรมได้สูงสุดถึง 10,000 ธุรกรรมต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าบล็อกเชนรุ่นเก่าอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum มากๆ ครับ (ก่อน Ethereum จะอัปเกรดนะครับ) และเวลาแฝง (Latency) ก็ต่ำมาก ทำให้ธุรกรรมได้รับการยืนยันอย่างรวดเร็วแทบจะในทันที

นอกจากความเร็วแล้ว ค่าธรรมเนียมก็เป็นอีกจุดเด่นของ Hedera ครับ ลองนึกภาพว่าเวลาใช้เครือข่ายบล็อกเชนบางแห่ง ค่า Gas Fee (ค่าธรรมเนียมธุรกรรม) เนี่ยพุ่งขึ้นลงตามความหนาแน่นของเครือข่าย บางทีแพงจนทำธุรกรรมเล็กๆ ไม่ไหว แต่ Hedera เค้าออกแบบมาให้ค่าธรรมเนียมคงที่และคาดเดาได้ครับ อยู่ที่ประมาณ 0.0001 ดอลลาร์สหรัฐต่อธุรกรรมเท่านั้นเอง! ถูกมากๆ และไม่ผันผวนตามการใช้งาน ทำให้เหมาะกับการทำธุรกรรมจำนวนมากๆ หรือการใช้งานในระดับองค์กรมากๆ ครับ

Hedera ยังมีบริการหลักๆ ที่น่าสนใจอีก 3 ตัวครับ คือ:
1. **Hedera Token Service (HTS)**: บริการนี้ทำให้นักพัฒนาหรือธุรกิจสามารถสร้างโทเคนดิจิทัลของตัวเองได้ง่ายมากๆ ครับ จะเป็นโทเคนแบบเปลี่ยนกันได้ (Fungible Tokens) เหมือนเงินดิจิทัลทั่วไป หรือจะเป็น Non-Fungible Tokens (NFT) ที่แต่ละโทเคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครก็ได้ เหมาะกับการสร้างระบบแต้มสะสม, โทเคนในเกม, หรือการสร้าง NFT จากผลงานศิลปะต่างๆ ครับ
2. **Hedera Consensus Service (HCS)**: อันนี้เหมือนบริการประทับตราเวลาและบันทึกข้อมูลลงบน Hedera ครับ ข้อมูลที่บันทึกผ่าน HCS จะโปร่งใส ปลอดภัย และแก้ไขไม่ได้ เหมาะกับงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง เช่น การติดตามสินค้าในซัพพลายเชน (รู้ว่าสินค้าชิ้นนี้มาจากไหน ผ่านอะไรมาบ้าง), การจัดการระบบโหวต หรือการบันทึกข้อมูลเหตุการณ์สำคัญต่างๆ
3. **Hedera Smart Contract Service**: บริการนี้สำหรับนักพัฒนาที่อยากจะสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Dapps) บน Hedera ครับ รองรับภาษา Solidity เหมือน Ethereum ทำให้นักพัฒนาที่คุ้นเคยกับ Ethereum สามารถย้ายมาพัฒนาบน Hedera ได้ง่ายขึ้น Smart Contract บน Hedera เองก็มีจุดเด่นที่เรียกว่า Smart Contract 2.0 คือ นอกจากค่าธรรมเนียมจะถูกและคงที่แล้ว ยังสามารถอัปเกรดตัว Smart Contract ได้ด้วย (ถ้าผู้สร้างกำหนด Admin Key ไว้) ซึ่งผู้ใช้งานก็ตรวจสอบได้ว่ามีการอัปเกรดอะไรไปบ้าง และอีกข้อคือการทำธุรกรรมบน Hedera จะถูกประมวลผลตามลำดับที่มันเข้ามา ไม่ใช่ว่าใครจ่ายค่าธรรมเนียมสูงกว่าจะได้ทำก่อน ซึ่งทำให้เครือข่ายมีความยุติธรรมมากขึ้นครับ

ด้วยจุดเด่นเหล่านี้ ทำให้ Hedera Hashgraph ถูกมองว่าเป็น “Trust Layer of the Internet” หรือชั้นความน่าเชื่อถือของอินเทอร์เน็ต คือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ทำให้การทำธุรกรรมและการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนโลกออนไลน์มีความปลอดภัย สะดวก และน่าเชื่อถือมากขึ้น มีการนำไปประยุกต์ใช้หลากหลายมากๆ ครับ ตั้งแต่ Real-World Asset Tokenization (การแปลงสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น อสังหาริมทรัพย์ ศิลปะ หรือหุ้น ให้เป็นโทเคนดิจิทัลบนเครือข่าย), ระบบชำระเงิน, การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi), สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC), การบริหารจัดการซัพพลายเชน, การดูแลสุขภาพ, ไปจนถึงวงการเกมและ NFT ครับ

แล้วเรื่องที่หลายคนอยากรู้… เรื่องราคา `hbar coin คือ` มีแนวโน้มเป็นอย่างไร? ณ ตอนที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ ราคา `hbar coin คือ` ประมาณ… (ใส่ราคาปัจจุบันโดยประมาณ อาจจะอ้างอิงจากแหล่งข้อมูล เช่น ~$0.162) มันเคยขึ้นไปทำ All-Time High (จุดสูงสุดตลอดกาล) ที่ประมาณ $0.5692 ด้วยนะ แต่ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวนสูงมากๆ ครับ ขึ้นลงได้ตลอดเวลา

ส่วนการคาดการณ์ราคาในอนาคตเนี่ย… (อ้างอิงแหล่งที่มา เช่น gate.com, securities.io) เค้ามองว่า `hbar coin` อาจจะมีแนวโน้ม (ใช้คำว่า ‘อาจจะมีแนวโน้ม’) เป็นแบบนี้…
* ปี 2025: ราคาเฉลี่ยอาจอยู่ที่ประมาณ $0.16 – $0.22
* ปี 2030: ราคาเฉลี่ยอาจขยับไปอยู่ที่ประมาณ $0.30 – $0.47
* ปี 2035: ราคาเฉลี่ยอาจจะสูงถึงประมาณ $0.57 – $0.87 หรือมากกว่านั้น (ROI ที่เป็นไปได้จากราคาปัจจุบันอาจสูงถึง 300-400% หรือมากกว่านั้น ตามการคาดการณ์)

ย้ำนะครับ! ตัวเลขเหล่านี้เป็นแค่การคาดการณ์จากข้อมูลในอดีตและโมเดลทางสถิติต่างๆ ไม่ใช่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน 100% โลกคริปโตเปลี่ยนแปลงเร็วมากๆ ครับ ปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจโลก กฎหมาย การแข่งขัน การยอมรับในวงกว้าง มีผลต่อราคาหมดเลย

ดังนั้น คำเตือนสำคัญที่สุด! การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงมากๆ ครับ ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ `hbar coin` หรือเหรียญอื่นๆ ก็ตาม

ก่อนจะตัดสินใจลงทุนใน `hbar coin` หรือคริปโตตัวไหนก็ตาม โปรดศึกษาข้อมูลให้ดีมากๆ ด้วยตัวเอง (Do Your Own Research – DYOR) ทำความเข้าใจในเทคโนโลยี การใช้งานจริง ทีมงาน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ประเมินความเสี่ยงที่คุณรับได้ และลงทุนเฉพาะเงินที่คุณพร้อมจะเสียไปจริงๆ นะครับ ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถรับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้เลยครับ ถ้าเพิ่งเริ่มต้น อาจจะลองเริ่มจากเงินจำนวนน้อยๆ ก่อน หรืออาจจะแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหลายๆ ประเภทเพื่อกระจายความเสี่ยงก็ได้ครับ

สรุปแล้ว Hedera Hashgraph กับ `hbar coin คือ` หนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามากๆ ในโลก DLT ที่นำเสนอทางออกที่แตกต่างจากบล็อกเชน ด้วยจุดเด่นด้านความเร็ว ค่าธรรมเนียมที่ถูกและคาดเดาได้ การกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือ และการเป็นเครือข่ายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Carbon Negative) มีศักยภาพในการนำไปใช้งานจริงในหลากหลายอุตสาหกรรม แต่อย่าลืมนะครับว่าการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงเสมอ ต้องศึกษาให้ดีและลงทุนอย่างระมัดระวังครับ