สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน! วันนี้ผมมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับหนึ่งใน “ดาวเด่น” แห่งโลกคริปโทเคอร์เรนซีที่ชื่อว่า USDT หรือที่รู้จักกันในนาม Tether มาเล่าให้ฟังครับ
เพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมชื่อ “น้องก้อย” เพิ่งจะอินกับการลงทุนคริปโทฯ ได้ไม่นาน เธอมักจะถามผมด้วยความสงสัยว่า “พี่คะ หนูเห็นคนพูดถึง USDT กันเยอะมากเลย มันคืออะไรเหรอคะ แล้วทำไมมันถึงไม่ผันผวนเหมือน Bitcoin ล่ะ?” คำถามของน้องก้อยสะท้อนให้เห็นถึงความสงสัยที่หลายคนอาจจะมี และนั่นคือเหตุผลที่ผมหยิบยกเรื่องนี้มาขยายความให้เข้าใจกันง่ายๆ ครับ
ลองนึกภาพว่าคุณมี “เงินดอลลาร์ดิจิทัล” อยู่ในมือ ที่ไม่ว่าตลาดคริปโทฯ จะขึ้นจะลงแรงแค่ไหน มูลค่าของมันก็ยังคงตรึงอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดเวลา ฟังดูมหัศจรรย์ใช่ไหมครับ? นั่นแหละครับคือหัวใจสำคัญของ USDT – มันคือ “เหรียญ Stablecoin (เหรียญที่มีมูลค่าคงที่)” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดความผันผวนของราคาในตลาดคริปโทฯ นี่เองครับ ไม่เหมือนกับ btc/usdt คือ คู่เทรดที่ราคา Bitcoin สามารถพุ่งขึ้นลงได้ตลอดเวลา แต่ USDT พยายามรักษามูลค่าให้คงที่เสมือนเงินสดในกระเป๋าดิจิทัลของคุณ
—

**ตลาด USDT คึกคักแค่ไหน? “เงินดอลลาร์ดิจิทัล” ที่หลายคนขาดไม่ได้**
คุณอาจจะสงสัยว่า “แล้ว USDT มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมบอกได้เลยว่า “มากครับ!” เพราะ USDT ถือเป็น Stablecoin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกคริปโทเคอร์เรนซีมายาวนาน มูลค่าตลาดรวมของมันพุ่งทะลุไปกว่า 96,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024) ซึ่งทำให้มันติดอันดับต้นๆ ของเหรียญคริปโทฯ ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดเสมอ รองจาก Bitcoin และ Ethereum เลยทีเดียว
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นน่ะหรือครับ? ลองนึกภาพเวลาตลาดคริปโทฯ อยู่ในช่วงขาลง หรือเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาเหรียญอื่นๆ ดิ่งเหว นักลงทุนส่วนใหญ่จะรีบ “พักเงิน” ของตัวเองไว้ใน Stablecoin อย่าง USDT เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุน เพราะไม่ว่า Bitcoin จะราคาเท่าไร เช่น btc/usdt คือ 100,000 หรือ 50,000 USDT แต่ USDT ก็ยังคงมูลค่า 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เสมอ (ในทางทฤษฎีนะครับ) ทำให้มันเป็นเหมือน “ท่าเรือที่ปลอดภัย” ในยามที่พายุโหมกระหน่ำ นอกจากนี้ USDT ยังถูกใช้เป็นสกุลเงินคู่ในการซื้อขายคริปโทฯ อื่นๆ แทบจะทุกแพลตฟอร์ม ทำให้การคำนวณราคาเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายกว่ามากครับ
ผมจำได้ว่าเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2022 ตลาดคริปโทฯ ทั่วโลกต้องเจอพายุลูกใหญ่เมื่อเหรียญ Stablecoin อีกตัวอย่าง UST ประสบปัญหามูลค่าหลุด Peg (ราคาต่ำกว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ) อย่างรุนแรงจนล้มละลายไปในที่สุด แต่ USDT ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ก็เคยเจอเหตุการณ์หลุด Peg ลงไปต่ำกว่า 95 เซนต์ต่อเหรียญเช่นกัน ทว่ากลับสามารถฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ 0.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ภายใน 24 ชั่วโมง นั่นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อ USDT ที่ยังคงแข็งแกร่งอยู่ครับ
—

**เบื้องหลังเหรียญ ‘มั่นคง’ มีอะไรซ่อนอยู่? ไขปริศนา ‘Proof of Reserves’ ของ Tether**
มาถึงประเด็นที่หลายคนตั้งคำถามและถกเถียงกันมาตลอดนั่นคือเรื่องของ “ความโปร่งใส” ครับ บริษัท Tether Limited ผู้สร้าง USDT เขาก็ยืนยันว่าทุกเหรียญ USDT ที่หมุนเวียนในตลาดนั้นมี “เงินทุนสำรอง (Proof of Reserves – PoR)” หนุนหลังอยู่แบบ 1:1 เป๊ะๆ กับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สิ่งที่หลายคนกังวลคือ รายละเอียดขององค์ประกอบสินทรัพย์สำรองเหล่านั้นครับ
ในรายงานคลังทรัพย์สำรองไตรมาส 2 ปี 2024 ของ Tether พบว่าสินทรัพย์สำรองไม่ได้เป็นเงินสดทั้งหมดอย่างที่บางคนเข้าใจนะครับ แต่ประกอบไปด้วย:
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด:** 84.24% (ส่วนใหญ่เป็นตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ)
* **สินเชื่อแบบมีหลักประกัน:** 5.55%
* **Bitcoin:** 4.00%
* **โลหะมีค่า:** 3.22%
* **หุ้นกู้:** 0.01%
* **การลงทุนอื่นๆ:** 2.98%
คุณอาจจะสงสัยว่า “เอ๊ะ! ทำไมไม่เป็นเงินสดทั้งหมดล่ะ?” ลองนึกภาพแบบนี้ครับ มันก็เหมือนกับคุณฝากเงินแบงก์ แต่แบงก์ไม่ได้เก็บเงินสดไว้ 100% ในตู้เซฟทั้งหมดนะครับ แบงก์เอาเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในพันธบัตร ไปปล่อยกู้ หรือไปทำอย่างอื่นเพื่อให้งอกเงย ซึ่ง Tether ก็ทำในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่สัดส่วนของสินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ใช่เงินสด อาจทำให้บางคนกังวลในเรื่องของ “สภาพคล่อง (Liquidity)” หากเกิดเหตุการณ์ที่ผู้คนต้องการถอน USDT ออกมาพร้อมๆ กันจำนวนมาก
แม้ Tether จะมีการตรวจสอบบัญชีสำรองโดยบริษัทบัญชีระดับโลกอย่าง BDO และออกรายงานเป็นประจำทุกไตรมาส แต่ประเด็นเรื่องความโปร่งใสขององค์ประกอบสินทรัพย์สำรองก็ยังคงเป็นจุดที่นักลงทุนควรพิจารณาและทำความเข้าใจให้ดีครับ เพราะแม้จะบอกว่า 1 USDT = 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เบื้องหลังการค้ำประกันอาจไม่ได้ “เป็นเงินสดทั้งหมด” เหมือนที่คุณคิดเสมอไปครับ
—

**ทำไม USDT ถึงเป็น ‘ของมันต้องมี’ ในโลกคริปโทฯ? ประโยชน์และกรณีการใช้งานจริง**
แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องความโปร่งใส แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า USDT มีบทบาทสำคัญและเป็นเครื่องมือที่ “ขาดไม่ได้” สำหรับนักลงทุนคริปโทฯ ยุคนี้ครับ ประโยชน์หลักๆ ของมันคือ:
1. **ลดความผันผวน:** นี่คือจุดประสงค์หลักเลยครับ เมื่อตลาดคริปโทฯ ผันผวนหนักๆ การแปลงเหรียญไปเป็น USDT เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการ “พักเงิน” เหมือนคุณเอาเงินไปฝากธนาคารไว้ชั่วคราว เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนใหม่ หรือหลีกเลี่ยงการขาดทุนเพิ่มเติม
2. **สะดวกในการซื้อขาย:** ลองนึกภาพการซื้อขาย btc/usdt คือ คู่เทรดที่คุณเจอได้บ่อยที่สุดในกระดานเทรด การที่มูลค่า USDT คงที่ ทำให้การคำนวณกำไร-ขาดทุนเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ทำได้ง่ายและชัดเจนขึ้นมาก ไม่ต้องมาแปลงหน่วยจาก Bitcoin ไปเป็นดอลลาร์ให้ยุ่งยาก
3. **โอนเงินข้ามประเทศเร็วปรื๋อ ค่าธรรมเนียมถูกเว่อร์:** นี่คืออีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ USDT ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายครับ โดยเฉพาะบนเครือข่ายบล็อกเชนอย่าง Tron (TRC20-USDT) ค่าธรรมเนียมการโอนแทบจะเป็นศูนย์ หรือน้อยมากๆ แค่ 0.000005 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย Ethereum (ERC20-USDT) ที่เฉลี่ยประมาณ 1.02 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งยังถือว่าถูกกว่าการโอนเงินผ่านระบบธนาคารแบบดั้งเดิมหลายเท่าตัว ทำให้การส่งเงินให้ญาติที่ต่างประเทศ หรือการชำระสินค้าและบริการข้ามพรมแดนเป็นเรื่องง่ายและประหยัดครับ
4. **ใช้ในระบบ DeFi (Decentralized Finance – การเงินไร้ศูนย์กลาง):** USDT ยังเป็นหัวใจสำคัญของแพลตฟอร์ม DeFi ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฟาร์ม (Yield Farming) หรือการให้กู้ยืม (Lending) เพื่อสร้างผลตอบแทน นักลงทุนสามารถนำ USDT ไปวางค้ำประกันเพื่อกู้ยืม หรือนำไปเพิ่มสภาพคล่องให้กับแพลตฟอร์มเพื่อรับค่าธรรมเนียม ถือเป็นการต่อยอดการลงทุนให้งอกเงยอีกขั้น
—
**’ด้านมืด’ และ ‘คู่แข่ง’: ความเสี่ยงที่ต้องรู้และทางเลือกอื่นๆ**
แม้จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงครับ USDT เองก็เช่นกัน
* **ความเสี่ยงจากการหลุด Peg:** อย่างที่เล่าไปถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2022 แม้จะฟื้นตัวได้ แต่ก็เป็นเครื่องเตือนใจว่า Stablecoin ก็มีโอกาสหลุด Peg ได้เช่นกัน หากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่บริษัทไม่สามารถรักษาสภาพคล่องหรือความเชื่อมั่นได้
* **ความกังวลเรื่องการค้ำประกัน:** ประเด็นเรื่องสัดส่วนสินทรัพย์สำรองที่ไม่ใช่เงินสดทั้งหมด ยังคงเป็นข้อถกเถียงที่สำคัญ หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสินทรัพย์เหล่านั้น อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของ USDT ได้
* **ถูกใช้ในทางที่ผิด:** ด้วยคุณสมบัติที่โอนย้ายได้รวดเร็วและตรวจสอบได้ยากในบางกรณี ทำให้ USDT ถูกนำไปใช้ในการฟอกเงินหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นที่หน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศจับตามอง
**แล้วมีทางเลือกอื่นไหม?** แน่นอนครับ! ในตลาด Stablecoin ไม่ได้มีแค่ USDT เท่านั้น ตัวอย่างที่โดดเด่นและเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจคือ **USDC (USD Coin)** ที่ออกโดยบริษัท Circle Internet Financial และ Coinbase
ถ้า USDT คือพี่ใหญ่ที่ดูลึกลับหน่อยๆ USDC ก็คือ Stablecoin น้องเล็กที่ใจใสกว่าเยอะครับ USDC ได้รับการยอมรับว่ามีความโปร่งใสในการสำรองสินทรัพย์มากกว่า โดยส่วนใหญ่จะค้ำประกันด้วยเงินสดและตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ แบบ 1:1 อย่างแท้จริง และมีการตรวจสอบที่เข้มงวดกว่า นักลงทุนหลายคนที่กังวลเรื่องความโปร่งใสของ USDT จึงหันมาใช้ USDC แทน ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยง ลองกระจายการถือ Stablecoin ไว้หลายๆ เหรียญก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ
—
**บริษัท Tether: ผู้อยู่เบื้องหลัง ‘เงินดอลลาร์ดิจิทัล’ และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล**
มาทำความรู้จักกับ “Tether Limited” บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง USDT กันสักนิดครับ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยคุณ Brock Pierce, Reeve Collins และ Craig Sellars โดยมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินดั้งเดิมให้มาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้ผู้คนเข้าถึงการเงินได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Tether ไม่ได้มีแค่ USDT (เงินดอลลาร์ดิจิทัล) เท่านั้นนะครับ เขายังมี Stablecoin อื่นๆ อีกด้วย เช่น EURT (ยูโรดิจิทัล), CNYT (หยวนดิจิทัล) หรือแม้แต่ XAUt (Tether Gold – ทองคำดิจิทัล) นอกจากนี้ Tether ยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin และเทคโนโลยีบล็อกเชนอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้เล่นสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลให้เติบโตต่อไปครับ
—
**สรุปและคำแนะนำจากนักเขียน**
สรุปแล้ว USDT คือเหรียญ Stablecoin ที่มีบทบาทสำคัญมากๆ ในโลกคริปโทฯ ครับ มันเป็นเหมือน “สะพานเชื่อม” ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถสลับไปมาระหว่างโลกคริปโทฯ ที่ผันผวนกับโลกของเงินเฟียต (Fiat Currency – สกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล) ได้อย่างราบรื่น ช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อขาย และเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน หรือแม้แต่การชำระค่าสินค้าบริการบางอย่าง
แต่! **คำเตือนที่สำคัญที่สุดคือ อย่าเพิ่งลงสนามถ้ายังไม่พร้อม!** แม้ USDT จะพยายามตรึงมูลค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลยนะครับ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องความโปร่งใสของการสำรองสินทรัพย์และการหลุด Peg ที่เคยเกิดขึ้น หากคุณวางแผนจะใช้ USDT เพื่อพักเงิน หรือลงทุนในคู่เทรดอย่าง btc/usdt คือ สิ่งที่ต้องศึกษาให้ลึกซึ้งที่สุด
**คำแนะนำส่งท้ายสำหรับนักลงทุน:**
1. **ทำความเข้าใจโครงสร้าง:** ศึกษาให้ดีว่า Tether มีนโยบายการสำรองสินทรัพย์อย่างไร และสินทรัพย์เหล่านั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง
2. **กระจายความเสี่ยง:** อย่าถือ Stablecoin แค่เหรียญเดียว ลองพิจารณาทางเลือกอื่นๆ เช่น USDC เพื่อกระจายความเสี่ยง
3. **ติดตามข่าวสาร:** ข้อมูลในโลกคริปโทฯ เปลี่ยนแปลงเร็วมาก การติดตามข่าวสารและพัฒนาการของ Stablecoin รวมถึงนโยบายกำกับดูแลต่างๆ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล
โลกคริปโทเคอร์เรนซีนั้นเต็มไปด้วยโอกาส แต่ก็มีความท้าทายซ่อนอยู่เสมอ การที่เรามีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง จะเป็นเหมือนเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดให้กับเงินในกระเป๋าของคุณครับ ขอให้ทุกท่านลงทุนอย่างชาญฉลาดและปลอดภัยนะครับ!