คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

สกุลเงินดิจิทัลและโทเคน

Bitcoin Cash: เงินสดดิจิทัลที่อาจเปลี่ยนชีวิตคุณ?

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้กระผมในฐานะคอลัมนิสต์สายการเงิน ขอพาทุกท่านดำดิ่งสู่โลกของสกุลเงินดิจิทัลที่เราอาจจะคุ้นหูคุ้นตากันมาบ้างอย่าง “บิตคอยน์แคช” (Bitcoin Cash) หรือที่นักลงทุนสายคริปโทฯ เขาเรียกสั้นๆ ว่า BCH นั่นแหละครับ

หลายคนอาจจะเคยบ่นในใจว่า “โอนเงินข้ามประเทศทีไร ทำไมค่าธรรมเนียมแพงจังแถมยังช้าอีก” หรือ “อยากให้เงินในบัญชีเราปลอดภัย ไม่ต้องกลัวว่าวันดีคืนดีธนาคารจะอายัดหรือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแปลกๆ เหมือนอย่างที่เคยเกิดในไซปรัสหรือกรีซเมื่อหลายปีก่อน” ความรู้สึกเหล่านี้แหละครับ คือจุดเริ่มต้นของวิสัยทัศน์ที่อยากจะสร้าง “เงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบเพียร์ทูเพียร์” (Peer-to-Peer Electronic Cash System) หรือเงินที่สามารถโอนหากันได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางอย่างธนาคารหรือสถาบันการเงิน และ บิตคอยน์แคช นี่แหละครับ คือหนึ่งในผู้สืบทอดวิสัยทัศน์นั้นอย่างแน่วแน่

**บิตคอยน์แคช (Bitcoin Cash) คืออะไร? ย้อนรอยต้นกำเนิดที่แสนดราม่า**

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 (ปี 2008) มีคนคนหนึ่งนามว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto) ได้เผยแพร่เอกสารชุดขาว (Whitepaper) ที่ชื่อว่า “Bitcoin: A Peer to Peer Electronic Cash System” ขึ้นมา มันคือพิมพ์เขียวของเงินดิจิทัลที่ไม่ต้องพึ่งพารัฐบาลหรือธนาคาร และซอฟต์แวร์ บิตคอยน์ ตัวแรกก็ถูกปล่อยออกมาในปี 2552 (ปี 2009) มันทำงานได้ดีเยี่ยมอยู่หลายปี จนกระทั่ง…

พอถึงปี 2559-2560 (ปี 2016-2017) บิตคอยน์ เริ่มมีปัญหาเรื่องความแออัดของเครือข่าย ค่าธรรมเนียมก็แพงขึ้นเรื่อยๆ เพราะชุมชนผู้พัฒนาไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะเพิ่มความจุของเครือข่ายยังไงดี บางคนอยากให้ บิตคอยน์ เป็นแค่ชั้นสำหรับการชำระบัญชี (Settlement Layer) เหมือนถนนใหญ่ๆ ที่รถเยอะมากๆ จนขยับไม่ไปไหน แล้วค่อยไปต่อรถเล็กข้างนอกเอา แต่ผู้สนับสนุนอีกฝ่ายบอกว่า “เฮ้ย! บิตคอยน์ ถูกสร้างมาให้เป็นเงินสดอิเล็กทรอนิกส์นะเว้ย! มันต้องใช้งานได้จริง โอนได้เร็ว ค่าธรรมเนียมถูกสิ!”

จากความขัดแย้งนี้เองครับ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2560 (ปี 2017) ที่บล็อก (Block) ที่ 478,559 ก็เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ฮาร์ดฟอร์ก” (Hard Fork) หรือ “การแยกสาย” ขึ้น เหมือนการแยกบ้านนั่นแหละครับ บิตคอยน์แคช ก็ถือกำเนิดขึ้นมาด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการกลับไปสู่รากเหง้าของ บิตคอยน์ นั่นคือการเป็น “เงินสดอิเล็กทรอนิกส์” อย่างแท้จริง โดยเพิ่มขนาดบล็อกจาก 1 MB (เมกะไบต์) ของ บิตคอยน์ เป็น 32 MB เพื่อรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมหาศาลและให้ค่าธรรมเนียมถูกลงนั่นเองครับ

**แล้ว Bitcoin Cash (บิตคอยน์แคช) ทำอะไรได้บ้าง? ทำไมถึงน่าใช้?**

ลองจินตนาการว่าคุณอยากส่งเงินให้เพื่อนที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่ง เพียงไม่กี่วินาทีการทำธุรกรรมก็เสร็จสมบูรณ์ และยืนยันได้ภายในไม่กี่นาที แถมค่าธรรมเนียมก็แสนถูก ต่ำกว่าหนึ่งสตางค์ (น้อยกว่าหนึ่งเพนนี) สำหรับการโอนทั่วไป! นี่คือหัวใจสำคัญของ บิตคอยน์แคช ครับ

คุณสมบัติเด่นๆ ที่ทำให้ บิตคอยน์แคช ยังคงเป็นที่น่าสนใจในตลาดคริปโทฯ มีดังนี้ครับ:

* **รวดเร็วและน่าเชื่อถือ:** ทำธุรกรรมได้ทันใจ ไม่ต้องรอนาน เครือข่ายไม่เคยติดขัด
* **ค่าธรรมเนียมต่ำ:** ส่งเงินได้ทั่วโลกในราคาไม่กี่สตางค์ ถูกกว่าบัตรเครดิตเยอะ!
* **เรียบง่ายและเสถียร:** ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เป็นระบบการชำระเงินที่พิสูจน์แล้วว่าเชื่อถือได้
* **ปลอดภัย:** ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก หมดห่วงเรื่องการปลอมแปลง
* **ควบคุมเงินได้ด้วยตัวเอง:** คุณคือเจ้าของเงินอย่างแท้จริง ไม่มีใครมาอายัดหรือระงับได้
* **อุปทานจำกัด:** มีจำนวนจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ เหมือนทองคำที่ขุดได้จำกัด ทำให้มีมูลค่าคงที่ ไม่เหมือนเงินกระดาษที่รัฐบาลพิมพ์เพิ่มได้เรื่อยๆ (อันนี้น่าจะถูกใจหลายคนนะครับ)
* **ความเป็นส่วนตัว:** มอบความเป็นส่วนตัวมากกว่าระบบชำระเงินแบบดั้งเดิม และมีเครื่องมือเสริมอย่าง CashShuffle และ CashFusion ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรม
* **ประโยชน์ต่อร้านค้า:** ร้านค้าจ่ายค่าธรรมเนเนียมต่ำมาก ไม่มีปัญหาการเรียกคืนเงิน (Chargebacks) ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องการทุจริต และยังได้ลูกค้าใหม่ๆ รวมถึงได้โปรโมตธุรกิจแบบฟรีๆ อีกด้วย

**สถานการณ์ Bitcoin Cash (บิตคอยน์แคช) ในตลาดคริปโทฯ ตอนนี้เป็นยังไง?**

ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Market) ในปัจจุบันยังคงเต็มไปด้วยความผันผวนครับ เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกาที่ต้องจับราวให้แน่นๆ โดยเฉพาะช่วงที่เศรษฐกิจมหภาคมีข่าวอะไรออกมา ข้อมูลเงินเฟ้อ (Inflation) ของสหรัฐอเมริกาที่สูงกว่าคาดการณ์ก็มักจะทำให้สกุลเงินหลักบางตัวอย่าง บิตคอยน์ (BTC) หรือ อีเธอเรียม (ETH) ปรับตัวลดลงไปบ้าง

สำหรับ บิตคอยน์แคช (บิตคอยน์แคช) เองก็หนีไม่พ้นความผันผวนนี้เช่นกันครับ หากดูข้อมูลล่าสุด (จากข้อมูลที่ได้รับมา) ราคา BCH ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 (ปี 2024) อยู่ที่ประมาณ 385.88 ดอลลาร์สหรัฐ และปรับมาอยู่ที่ 336.94 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 21 กันยายน 2567 (ปี 2024) โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 6.712 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และปริมาณการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 254.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

**มองไปข้างหน้า: เมื่อ Bitcoin Cash (บิตคอยน์แคช) อาจเป็นดาวเด่นในปีหน้า? (กรณีศึกษาปี 2568)**

ลองจินตนาการถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นในปี 2568 (ปี 2025) กันหน่อยครับ! มีการรายงานสถานการณ์จำลองในวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ว่าราคาของ บิตคอยน์แคช ปรับตัวขึ้น 2% แตะ 500 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในปีนั้น และมูลค่าตลาดรวมทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไปได้ บิตคอยน์แคช ยังถูกพูดถึงว่าอาจเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 3 วันติดต่อกันในกลุ่ม 20 อันดับแรก แซงหน้าพี่ใหญ่อย่าง บิตคอยน์ (BTC) อีเธอเรียม (ETH) และ คาร์ดาโน (ADA) ไปเลยทีเดียวเชียว! แถมปริมาณการซื้อขายก็แสดงกราฟแท่งสีเขียวต่อเนื่อง บ่งชี้ถึงแรงซื้อที่ยั่งยืนอีกด้วย

ปัจจัยที่หนุนให้ บิตคอยน์แคช ดูโดดเด่นขึ้นมาในสถานการณ์จำลองนี้ อาจเป็นเพราะมันถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง” (Hedge Asset) จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น ข้อมูลเงินเฟ้อ PCE (Personal Consumption Expenditures) ของสหรัฐฯ ที่สูงกว่าคาด ทำให้คนเริ่มมองหาทางเลือกอื่นที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้

**แต่เดี๋ยวก่อน! การวิเคราะห์ทางเทคนิคไม่ได้บอกแค่ขาขึ้นอย่างเดียว**

แน่นอนครับว่าโลกคริปโทฯ ไม่มีอะไรขึ้นอย่างเดียว หรือลงอย่างเดียว! ในสถานการณ์จำลองปี 2568 (ปี 2025) นั้น นักวิเคราะห์ทางเทคนิคเองก็ส่งสัญญาณเตือนเหมือนกันครับ เมื่อราคา บิตคอยน์แคช ไปแตะ 510 ดอลลาร์สหรัฐ และเกิดรูปแบบที่เรียกว่า “Double Top” (รูปแบบราคาที่บ่งชี้การกลับตัวเป็นขาลง คล้ายภูเขาสองยอดติดกัน) ขึ้นมา แถมดัชนี Relative Strength Index (RSI) หรือที่นักลงทุนสายเทคนิคใช้ดูว่าราคาซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป เหมือนมาตรวัดความเร็วของรถ ที่อ่านค่าได้ 65.79 ซึ่งแสดงภาวะซื้อมากเกินไป และยังมีการเคลื่อนไหวแบบ “Bearish Divergence” (สัญญาณบ่งชี้ว่าโมเมนตัมกำลังลดลง แม้ราคากำลังขึ้น) อีกด้วย

หากแนวรับสำคัญที่ 455 ดอลลาร์สหรัฐไม่สามารถยืนอยู่ได้ บิตคอยน์แคช อาจมีการปรับฐานลงสู่เป้าหมายที่ 425 ดอลลาร์สหรัฐ และ 363 ดอลลาร์สหรัฐได้เลยนะครับ แต่ถ้าอยากให้แนวโน้มขาขึ้นได้รับการยืนยันอย่างแท้จริง ราคาจะต้องปิดสูงกว่า 510 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับ RSI ที่ทะลุ 70 ขึ้นไปได้นั่นเองครับ ใครที่ใจบางๆ อาจจะต้องกำยาหอมไว้แน่นๆ หน่อยนะครับ!

ในระยะยาว นักวิเคราะห์อย่าง คริปโท พาเทล (Crypto Patel) เคยคาดการณ์ว่า บิตคอยน์แคช สามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 10 เท่าจากระดับ 220-230 ดอลลาร์สหรัฐ ไปสู่ 3,000-5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากมีแนวรับที่แข็งแกร่ง ขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Claude AI ก็เคยคาดการณ์ว่า บิตคอยน์แคช อาจแตะ 600 ดอลลาร์สหรัฐได้ใน 6 เดือนข้างหน้า และอาจถึง 920 ดอลลาร์สหรัฐได้เลยทีเดียว!

**ภาพรวมตลาดคริปโทเคอร์เรนซี: ใครกำลังมาแรง?**

นอกเหนือจาก บิตคอยน์แคช แล้ว ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีภาพรวมก็ยังคงน่าจับตามองครับ มูลค่าตลาดรวมคริปโทฯ อยู่ที่ประมาณ 2.42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย บิตคอยน์ (BTC) ยังคงเป็นเจ้าตลาดที่มีอิทธิพลสูงถึง 53.9% ขณะที่ อีเธอเรียม (ETH) ตามมาด้วยอิทธิพล 17.7% ส่วน คาร์ดาโน (ADA) ในช่วงที่ผ่านมาก็มีราคาลดลง 6% ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง

แต่ก็มีเหรียญอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ เช่น Ripple (XRP) ที่ Claude AI คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 400%+ ไปสู่ 10+ ดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2568 (ปี 2025) จากราคา 2.10 ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการยอมรับจากสถาบันและการที่กฎระเบียบมีความชัดเจนขึ้น และยังมี Pi Network (PI) ที่ Claude AI คาดการณ์ว่าอาจพุ่งถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาเพียง 0.56 ดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้ โดยเหรียญนี้เน้นการขุดบนมือถือ ซึ่งเป็นวิธีที่เข้าถึงง่ายสำหรับคนทั่วไป

นอกจากนี้ ยังมีโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่น่าจับตาอย่าง Remittix (RTX) ซึ่งเป็นโทเค็นการชำระเงินแบบคริปโทฯ เป็นเงินจริง ที่กำลังระดมทุนในรอบพรีเซล (Presale) ไปได้กว่า 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นว่าตลาดคริปโทฯ ไม่ได้มีแค่เหรียญใหญ่อย่างเดียว แต่ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาครับ

**บิตคอยน์แคช (Bitcoin Cash) ในชีวิตประจำวัน: ไม่ใช่แค่เก็งกำไร!**

บางคนอาจจะคิดว่าคริปโทฯ มีไว้สำหรับเก็งกำไรเท่านั้น แต่สำหรับ บิตคอยน์แคช แล้วมันถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันด้วยนะครับ ตั้งแต่การชำระเงินระหว่างบุคคล การซื้อสินค้าและบริการทั้งในร้านค้าและออนไลน์ ไปจนถึงการใช้งานใน “เศรษฐกิจไมโครทรานแซกชัน” (Micro-transaction Economies) เช่น การให้ทิปผู้สร้างเนื้อหาหรือการให้รางวัลผู้ใช้แอปพลิเคชันเล็กๆ น้อยๆ นอกจากนี้ยังเหมาะกับการโอนเงินข้ามประเทศที่ต้องการความรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ และยังรองรับการสร้างโทเค็นและสัญญาอัจฉริยะแบบง่ายๆ อีกด้วย

สำหรับผู้ประกอบการหรือร้านค้า การรับชำระด้วย บิตคอยน์แคช มีข้อดีที่ไม่อาจมองข้ามเลยครับ นั่นคือ

* **ค่าธรรมเนียมแสนถูก:** อย่างที่บอกไปครับ ค่าธรรมเนียมเครือข่ายสำหรับการทำธุรกรรม บิตคอยน์แคช ทั่วไปน้อยกว่าหนึ่งสตางค์ ซึ่งถูกกว่าค่าธรรมเนียมการประมวลผลบัตรเครดิตหรือการโอนเงินผ่านระบบธนาคารมากโข!
* **ไม่มีการเรียกคืนเงิน (Chargebacks):** นี่คือฝันร้ายของร้านค้าเลยครับ เวลาโดนลูกค้าปฏิเสธการชำระเงินหรือเรียกเงินคืน แต่กับ บิตคอยน์แคช ไม่มีปัญหาเหล่านี้ครับ ทำให้ร้านค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการป้องกันการฉ้อโกง
* **ได้ลูกค้าใหม่:** ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบและเลือกใช้ บิตคอยน์แคช เป็นวิธีการชำระเงินหลัก
* **การตลาดฟรี:** ร้านค้าสามารถได้รับรายชื่อฟรีในไดเรกทอรีบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ แถมยังเป็นการสร้างการประชาสัมพันธ์ให้กับธุรกิจของตนอีกด้วย

**สรุปและคำแนะนำจากคอลัมนิสต์**

บิตคอยน์แคช (บิตคอยน์แคช) ยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ บิตคอยน์ ในการเป็นเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบเพียร์ทูเพียร์ ที่เน้นการใช้งานจริง ค่าธรรมเนียมต่ำ และความรวดเร็ว แม้ว่าในระยะสั้นอาจมีสัญญาณทางเทคนิคที่เตือนถึงการปรับฐาน แต่ความสนใจจากนักลงทุนยังคงสูง และนักวิเคราะห์หลายคนก็มองเห็นศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวของ บิตคอยน์แคช ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาคและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในตลาดคริปโทเคอร์เรนซีโดยรวม

สำหรับนักลงทุนที่สนใจโลกคริปโทฯ และ บิตคอยน์แคช สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การศึกษาข้อมูล” อย่างละเอียดครับ ไม่ใช่แค่ฟังตามข่าวลือ หรือเชื่อตามที่ใครบอกมา เพราะตลาดนี้มีความผันผวนสูงมาก เหมือนการขับรถบนถนนที่ขรุขระและมีโค้งอันตรายตลอดเวลา

⚠️ **คำเตือนจากคอลัมนิสต์:** การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน และลงทุนด้วยเงินที่พร้อมจะสูญเสียได้เท่านั้น หรือที่เราเรียกว่า “เงินเย็น” ครับ ไม่เหมาะกับคนที่ใจร้อน หรือต้องการผลตอบแทนที่รวดเร็ว เพราะราคาอาจผันผวนอย่างรุนแรงได้ตลอดเวลา โปรดใช้วิจารณญาณและบริหารจัดการความเสี่ยงของตนเองอย่างเคร่งครัดนะครับ

โลกของ บิตคอยน์แคช และตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ยังคงมีเรื่องราวและโอกาสที่น่าสนใจอีกมากมายให้เราได้เรียนรู้และติดตามต่อไปครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และจุดประกายให้ทุกท่านได้ทำความเข้าใจในสินทรัพย์ดิจิทัลนี้มากขึ้นนะครับ แล้วพบกันใหม่ในฉบับหน้าครับ!

LEAVE A RESPONSE