ในฐานะนักเขียนคอลัมน์การเงินรุ่นเก๋าที่ชอบเล่าเรื่องราวการเงินยากๆ ให้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัว วันนี้ผมมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลกคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะเหรียญที่หลายคนรู้จักดีอย่าง Dogecoin หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า “เหรียญหมาน้อย” มาเล่าให้ฟังครับ

—

ข่าว Dogecoin: เมื่อหมาน้อยไม่ใช่แค่เหรียญมีม…แต่เป็นมหากาพย์การเงินดิจิทัลที่ ‘อีลอน มัสก์’ กุมชะตา?

เพื่อนคนหนึ่งเพิ่งจะส่งข้อความมาถามผมเมื่อเช้านี้ว่า “พี่คะ ข่าว Dogecoin ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ เห็นราคามันขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเลย แถมยังได้ยินชื่อ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) บ่อยมากเลยค่ะ ตกลงเหรียญนี้มันน่าสนใจจริงๆ ไหมคะ?” คำถามของเธอทำให้ผมยิ้มเล็กน้อย เพราะนี่คือคำถามคลาสสิกที่สะท้อนถึงความผันผวนและปัจจัยแปลกใหม่ที่ขับเคลื่อนตลาดคริปโทฯ โดยเฉพาะกับเจ้าเหรียญหมาน้อยตัวนี้

ในโลกคริปโทเคอร์เรนซีที่เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง มีทั้งเหรียญหลักที่จริงจัง และเหรียญมีม (Meme Coin) ที่เกิดมาเพื่อความสนุก แต่กลับสร้างปรากฏการณ์ได้อย่างน่าทึ่ง หนึ่งในนั้นคือ Dogecoin (ดอจคอยน์) ที่มักจะโลดแล่นอยู่บนพาดหัวข่าว และแน่นอนว่าทุกครั้งที่มีชื่อของ “อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลปรากฏขึ้น ข่าว Dogecoin ก็มักจะถูกจับตามองเป็นพิเศษ จนบางครั้งก็ทำให้ราคาพุ่งทะยานราวกับจรวด

หมาน้อย Dogecoin กับเงาของ ‘อีลอน มัสก์’

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชุมชนของ Dogecoin ยังคงยกย่องให้อีลอน มัสก์ เป็นผู้มีอิทธิพลอันดับต้นๆ ในการขับเคลื่อนเหรียญนี้ แม้ว่าช่วงหลังๆ เขาจะพูดถึง Dogecoin น้อยลงไปบ้าง แต่ทุกครั้งที่เขาขยับตัว หรือที่บริษัทของเขามีความเคลื่อนไหว ราคาของ Dogecoin ก็มักจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว คุณอาจจะจำได้ว่าครั้งหนึ่งที่ทวิตเตอร์ (Twitter) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่อีลอน มัสก์ เข้าซื้อ ได้เปลี่ยนโลโก้ชั่วคราวเป็นรูปสุนัขชิบะอินุ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Dogecoin ทำให้ราคาของ DOGE พุ่งขึ้นกว่า 30% อย่างไม่น่าเชื่อ นี่คือพลังของ “อิทธิพล” ที่แท้จริง

นอกจากนี้ การที่บริษัทของอีลอน มัสก์ อย่าง สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) เริ่มรับชำระค่าสินค้าบางอย่างด้วย Dogecoin หรือข่าวที่โรงภาพยนตร์ เอเอ็มซี (AMC) เปิดรับชำระเงินด้วย Dogecoin สำหรับบัตรของขวัญดิจิทัล (e-Gift Card) เหล่านี้ล้วนเป็นข่าวดีที่สร้างความหวังให้ชุมชน Dogecoin ว่าเหรียญนี้กำลังจะถูกนำไปใช้งานจริงมากขึ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ ข่าว Dogecoin ที่น่าเศร้าคือการจากไปของ “คาโบะสึ” สุนัขชิบะอินุตัวจริงที่เป็นภาพลักษณ์ของ Dogecoin ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้คนในวงการรู้สึกใจหาย

เรื่องคดีความก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ อีลอน มัสก์ และ เทสลา (Tesla) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของเขา เพิ่งชนะคดีที่ถูกฟ้องร้องในศาลรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงนักลงทุนด้วยการส่งเสริม Dogecoin นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ ยังยื่นคำร้องถอนคดีฉ้อโกงมูลค่ามหาศาลกว่า 2.58 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ถูกฟ้องไปก่อนหน้านี้อีกด้วย เรื่องราวทางกฎหมายเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า การพยายามสร้างความชัดเจนทางกฎหมายในโลกคริปโทฯ กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น เพื่อปกป้องทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุน

ไม่ใช่แค่เหรียญมีม: เกิดอะไรขึ้นในโลกคริปโทฯ ที่กว้างกว่านั้น?

ลองจินตนาการว่าโลกคริปโทฯ เปรียบเสมือนมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ มีคลื่นลมแรงและกระแสที่เชี่ยวกราก ไม่ได้มีแค่ Dogecoin ที่โลดแล่นอยู่คนเดียว เหรียญดิจิทัลขนาดใหญ่อื่นๆ ก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างเช่น คาร์ดาโน (Cardano) หรือ ADA (เอด้า) ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลง และอาจมีราคาลดลงต่อเนื่องหากไม่สามารถประคองแนวรับสำคัญไว้ได้ สภาพตลาดโดยรวมยังคงเป็น “ตลาดหมี” (Bear Market) ที่นักลงทุนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะแย่ไปหมดนะครับ อนาโตลี ยาโกเวนโก (Anatoly Yakovenko) ผู้ร่วมก่อตั้งโซลาน่า (Solana) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มาแรง ก็ยังมองว่าเหรียญมีมอย่าง Dogecoin หรือเหรียญมีมอื่นๆ ที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายของโซลาน่า อย่าง ด็อกวิฟแฮท (dogwifhat) มีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์กับตลาดคริปโทฯ (Product-Market Fit) เพราะมันทำให้คนสนใจและเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มมากขึ้น

และใช่ครับ แม้แต่ ชิบะอินุ (Shiba Inu) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหรียญมีมคู่แข่งของ Dogecoin แม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะลดลง แต่ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อย่างการที่ แซมซุง เซ็นโก (Samsung ZenGo) ซึ่งเป็นกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล (Crypto Wallet) ชื่อดัง ได้เพิ่มเหรียญ Shiba Inu เข้าไปในระบบ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับและการใช้งานที่เพิ่มขึ้นในวงกว้าง

อนาคตคริปโทฯ: เน้นการใช้งานจริง มากกว่าการเก็งกำไร?

แล้วอนาคตของคริปโทฯ จะเป็นอย่างไรต่อไป? สัญญาณที่ชัดเจนอย่างหนึ่งคือการมุ่งเน้นไปที่ “การใช้งานจริง” (Utility) มากกว่าแค่การเก็งกำไร ลองจินตนาการว่าคุณต้องส่งเงินไปให้ญาติที่ต่างประเทศผ่านระบบธนาคารแบบดั้งเดิม อาจจะเจอค่าธรรมเนียมสูง ใช้เวลานาน และต้องผ่านตัวกลางหลายชั้น แต่ตอนนี้มีแพลตฟอร์มที่เรียกว่า “เรมิตทิกซ์” (Remittix) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม เพย์ไฟ (PayFi) หรือแพลตฟอร์มการชำระเงินที่เชื่อมคริปโทฯ กับเงินเฟียต (Fiat Money) หรือเงินที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น บาท ดอลลาร์ ได้อย่างราบรื่น

เรมิตทิกซ์ นำเสนอการแปลงคริปโทเคอร์เรนซีมากกว่า 100 สกุล ให้เป็นเงินเฟียตกว่า 30 สกุล เพื่อโอนไปยังบัญชีธนาคารทั่วโลก ด้วยจุดเด่นที่ค่าธรรมเนียมคงที่ โอนรวดเร็ว และไม่มีตัวกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมี Pay API (เพย์ เอพีไอ) สำหรับร้านค้าที่ต้องการรับชำระเงินด้วยคริปโทฯ โดยตรง ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โทเค็นของพวกเขามีจำนวนจำกัดเพียง 1.5 พันล้านโทเค็น และได้รับความสนใจอย่างมากในการพรีเซล (Presale) หรือการขายล่วงหน้า สามารถระดมทุนได้มากกว่า 15.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างแท้จริง

ภูมิทัศน์ทางกฎหมายและลมการเมืองที่พัดผ่าน

นอกจากเรื่องราคาและการใช้งานแล้ว ประเด็นทางกฎหมายก็เป็นสิ่งสำคัญที่กำหนดทิศทางของตลาดคริปโทฯ การที่อีลอน มัสก์ ชนะคดีและถอนฟ้องในประเด็น Dogecoin ย่อมส่งผลดีต่อภาพรวมของความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรม แต่ก็ยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพใหญ่

และที่น่าสนใจคือ มีข่าวลือว่าถ้า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง เขาอาจจะเสนอตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษาให้กับอีลอน มัสก์ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมีนัยยะสำคัญต่อการยอมรับคริปโทเคอร์เรนซีในอนาคต เพราะมันอาจจะหมายถึงการเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับนโยบายของรัฐบาลเลยทีเดียว

สรุปและข้อคิดจากนักเขียนคอลัมน์

โลกของคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะ ข่าว Dogecoin ในช่วงนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนที่ยังคงอยู่ แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นช่วงเวลาของการพัฒนานวัตกรรมที่มุ่งเน้นการใช้งานจริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินระหว่างประเทศ หรือการชำระค่าสินค้าบริการต่างๆ ซึ่งเป็นการก้าวข้ามจากสินทรัพย์เก็งกำไรไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินในชีวิตประจำวัน

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ หรือแม้แต่มือเก๋า สิ่งสำคัญที่สุดคือการศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่มาพร้อมกับโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่อ่อนไหวต่อข่าวสารและอิทธิพลของบุคคลสำคัญอย่างอีลอน มัสก์

⚠️ คำเตือน: โลกคริปโทฯ ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความผันผวนสูงมาก ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถปรับตัวขึ้นหรือลงได้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ หากคุณมีสภาพคล่องทางการเงินไม่สูงนัก การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นนี้อาจไม่เหมาะสม ควรพิจารณาจากระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหากไม่แน่ใจครับ