Metaverse คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร: ไขความลับโลกเสมือน พลิกโฉมการลงทุน!
ในฐานะที่เราวนเวียนอยู่ในแวดวงการเงินมานาน หลายครั้งที่เจอศัพท์แสงใหม่ๆ ผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน แต่มีอยู่คำหนึ่งครับ/ค่ะ ที่ช่วงหลังๆ มานี้ได้ยินบ่อยเสียจนอดหยิบมาพูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือคำว่า “เมตาเวิร์ส” (Metaverse) ครับ/ค่ะ หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ/ค่ะ? บางคนอาจจะนึกถึงแค่โลกในเกม หรือภาพยนตร์ไซไฟล้ำๆ แต่แท้จริงแล้ว “เมตาเวิร์สคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร” และที่สำคัญกว่านั้นคือ มันมีผลต่อกระเป๋าสตางค์และอนาคตการลงทุนของเราได้มากแค่ไหน วันนี้เราจะมาเจาะลึกไปพร้อมๆ กันแบบไม่ซับซ้อน เหมือนเพื่อนเล่าให้เพื่อนฟังครับ/ค่ะ

ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี พ.ศ. 2564 โลกออนไลน์ต้องฮือฮาเมื่อ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอคนดังของเฟซบุ๊ก (Facebook) ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทแม่เป็น “เมตา” (Meta) พร้อมประกาศเป้าหมายใหญ่ว่าจะทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อสร้าง “เมตาเวิร์ส” หลังจากนั้นไม่นาน คำนี้ก็กลายเป็นกระแสร้อนแรงไปทั่วโลกจนราชบัณฑิตยสภาของเรายังบัญญัติศัพท์ไทยไว้ว่า “จักรวาลนฤมิต” หรือ “จักรวาลเหนือจินตนาการ” ฟังแล้วดูยิ่งใหญ่สมชื่อจริงๆ ครับ/ค่ะ
ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพง่ายๆ “เมตาเวิร์ส” ก็คือ โลกเสมือนจริงแบบสามมิติที่ผสานเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ให้เราสามารถก้าวเข้าไปอยู่ในนั้นได้จริงๆ ผ่านร่างอวตาร (Avatar) ของเราเอง พูดง่ายๆ ก็เหมือนเรากำลัง “เดินเข้าไปในอินเทอร์เน็ต” ไม่ใช่แค่ไถฟีดดูภาพเหมือนเดิมอีกต่อไป คุณจะสัมผัสได้ถึงการโต้ตอบกับสิ่งของ ผู้คน หรือสภาพแวดล้อมที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในชีวิตจริงมากกว่าแค่การแชทหรือโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์แบบเดิมๆ เสียอีกครับ/ค่ะ ลองจินตนาการดูสิครับ/ค่ะว่า ถ้าเราสามารถเดินเข้าไปเลือกซื้อเสื้อผ้าในร้านแบรนด์ดังได้แบบสมจริง แม้ตัวเราจะนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือเข้าประชุมกับเพื่อนร่วมงานจากทั่วโลกในออฟฟิศเสมือนจริงได้อย่างไร้รอยต่อ นั่นแหละคือภาพของเมตาเวิร์สที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ ครับ/ค่ะ
แล้วอะไรคือ “หัวใจ” ที่ทำให้ “เมตาเวิร์ส” มีชีวิตขึ้นมาได้? เบื้องหลังจักรวาลนฤมิตนี้ก็คือสารพัดเทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อครับ/ค่ะ อย่างแรกเลยคือ เทคโนโลยีความจริงเสมือน (Virtual Reality หรือ VR) ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกสามมิติแบบ 360 องศา ผ่านอุปกรณ์เฉพาะอย่างแว่นวีอาร์ (VR) ส่วนอีกเทคโนโลยีที่มาคู่กันก็คือ ความจริงเสริม (Augmented Reality หรือ AR) ที่เอาสภาพแวดล้อมจริงของเรามาผสมกับวัตถุเสมือน ให้เราเห็นสิ่งของดิจิทัลปรากฏซ้อนทับอยู่บนโลกจริงผ่านหน้าจอโทรศัพท์หรือแว่นตาคล้ายๆ เกมโปเกมอน โก (Pokemon Go) นั่นแหละครับ/ค่ะ และที่เป็นการรวมร่างของทั้งสองอย่างให้สมจริงยิ่งขึ้นก็คือ ความจริงขยาย (Extended Reality หรือ XR) หรือความจริงผสม (Mixed Reality หรือ MR) ที่จะทำให้เส้นแบ่งระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนบางลงไปอีก
นอกจากประสบการณ์เสมือนจริงแล้ว หัวใจสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้สำหรับระบบเศรษฐกิจในเมตาเวิร์สก็คือ เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ที่จะเข้ามาทำให้การเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลมีความปลอดภัยและโปร่งใส อย่างเช่น เอ็นเอฟที (Non-Fungible Token หรือ NFT) หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ ใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ ในโลกเสมือน ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน งานศิลปะ หรือแม้แต่ตัวละครในเกม ส่วนเรื่องการซื้อขายแลกเปลี่ยนก็ต้องพึ่งพา สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ที่ใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของเมตาเวิร์สเหมือนกับเงินบาทหรือเงินดอลลาร์ในโลกจริงครับ/ค่ะ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่ช่วยสร้างอวตาร (Avatar) ให้ดูสมจริง สร้างมนุษย์ดิจิทัล (Digital Human) และช่วยประมวลผลข้อมูลต่างๆ รวมถึง อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Everything หรือ IoE) และเครือข่ายความเร็วสูงอย่าง 5G/6G ที่เปรียบเสมือนถนนไฮเวย์ที่ช่วยให้ข้อมูลมหาศาลเดินทางได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เมตาเวิร์สทำงานได้ไหลลื่นครับ/ค่ะ
พอเทคโนโลยีเหล่านี้มาผนึกกำลังกัน ประโยชน์ของเมตาเวิร์สก็พุ่งพรวดพราดไปทุกวงการเลยครับ/ค่ะ ลองนึกภาพดูว่า ถ้าคุณเป็นนักเรียนประวัติศาสตร์ คุณสามารถเดินเข้าไปสำรวจพีระมิดในอียิปต์ หรือเยี่ยมชมหอไอเฟลในปารีสได้แบบเสมือนจริงราวกับวาร์ปไปอยู่ตรงนั้น หรือถ้าเป็นนักศึกษาแพทย์ ก็สามารถซ้อมผ่าตัดเสมือนจริงบนหุ่นจำลองดิจิทัลทวิน (Digital Twin) ที่เหมือนคนไข้จริงๆ ได้โดยไม่มีความเสี่ยง ไม่ต้องรอศพอาจารย์ใหญ่ หรือสำหรับคนทั่วไปที่ชอบช้อปปิ้ง จากเดิมที่ต้องดูรูปสินค้าในอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) คุณอาจจะได้เดินเลือกชมสินค้าในร้านค้าเสมือนจริง หยิบจับดูรายละเอียด คุยกับพนักงานดิจิทัลได้เลยทันที เหมือนเดินห้างฯ ย่อส่วนมาอยู่ในมือถือ นี่คือมิติใหม่ของการค้าที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการจัดคอนเสิร์ต งานนิทรรศการ หรือแม้แต่การประชุมในโลกเสมือนจริง ที่ช่วยลดข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลาได้อย่างมหาศาล วงการเกมก็ก้าวหน้าไปไกลมาก โดยเฉพาะโมเดลแบบ เล่นแล้วได้เงิน (Play to Earn) ที่กำลังเป็นที่นิยม เช่น เกม โรบล็อกซ์ (Roblox) หรือ เดอะ แซนด์บ็อกซ์ (The Sandbox) ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้างสรรค์และเป็นเจ้าของสินทรัพย์ในเกมได้
ทีนี้มาถึงประเด็นที่หลายคนตั้งตารอคอยกันครับ/ค่ะ ว่า “เมตาเวิร์ส” มีผลต่อการลงทุนและเศรษฐกิจของเราอย่างไรบ้าง? คำตอบคือ มันกำลังสร้าง “ขุมทรัพย์ใหม่” และ “โอกาสการลงทุนรูปแบบใหม่” ที่น่าตื่นเต้นทีเดียวครับ/ค่ะ
อย่างแรกเลยคือเรื่องของ “การลงทุน” ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกตามความถนัดและความเสี่ยงที่รับได้ครับ/ค่ะ
* **หุ้นเมตาเวิร์ส:** นี่คือการลงทุนในบริษัทที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์วีอาร์ (VR) หรือบริษัทที่สร้างโลกเสมือนจริง
* **กองทุนอีทีเอฟ (Exchange Traded Funds หรือ ETFs) ที่เกี่ยวข้อง:** สำหรับคนที่อยากกระจายความเสี่ยง ไม่อยากเลือกหุ้นเป็นรายตัว ก็สามารถลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ (ETFs) ที่รวมเอาหุ้นของบริษัทเมตาเวิร์สชั้นนำหลายๆ แห่งมารวมไว้ในกองเดียว
* **โทเค็นโลกเสมือน (Virtual World Tokens):** อันนี้เริ่มลึกขึ้นมาหน่อย คือการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ในโลกเสมือนจริง เช่น ที่ดินดิจิทัล ตัวละคร หรืองานศิลปะเสมือนที่อยู่ในรูปแบบของเอ็นเอฟที (NFT) ซึ่งเราสามารถเป็นเจ้าของและนำไปสร้างรายได้ได้จริงในโลกนั้น
* **เอ็นเอฟที (NFTs) ที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน (Blockchain):** นี่คือหัวใจสำคัญในการเป็นเจ้าของและเคลื่อนย้ายสินทรัพย์เสมือนจริงในเมตาเวิร์สครับ/ค่ะ ลองนึกภาพว่าคุณเป็นเจ้าของงานศิลปะดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร มีใบรับรองความเป็นเจ้าของที่อยู่บนบล็อกเชน (Blockchain) ที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้ ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้ก็มีโอกาสเพิ่มมูลค่าขึ้นได้ในอนาคต
ระบบเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังผงาดขึ้นมาในเมตาเวิร์สจากการผนึกกำลังของบล็อกเชน (Blockchain) เอ็นเอฟที (NFT) และสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ทำให้เกิดการซื้อขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือนจริงอย่างคึกคัก บางแปลงราคาแพงกว่าที่ดินในโลกจริงเสียอีกครับ/ค่ะ ส่วนด้านการตลาด แบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มปรับกลยุทธ์เข้าสู่การตลาดดิจิทัลในเมตาเวิร์ส (Metaverse Digital Marketing) กันแล้ว เช่น การออกคอลเลกชันสินค้าในรูปแบบเอ็นเอฟที (NFT) หรือการสร้างประสบการณ์เสพคอนเทนต์ที่สมจริงขึ้นเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในโลกใหม่นี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดการณ์ว่าเมตาเวิร์สจะเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจโลกได้มากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจและสะท้อนถึงศักยภาพมหาศาลของโลกใบนี้ครับ/ค่ะ
ฟังดูแล้วเหมือนโลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาสและสิ่งสวยงามใช่ไหมครับ/ค่ะ? แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ “เมตาเวิร์ส” ก็เช่นกันครับ/ค่ะ มันมาพร้อมกับ “ข้อควรระวังและความท้าทาย” ที่เราต้องตระหนักถึง
ประการแรกคือ “ความเสี่ยงด้านอาชญากรรมไซเบอร์” ครับ/ค่ะ เมื่อมีเงินและสินทรัพย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ย่อมมีมิจฉาชีพตามมา ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกง การฟอกเงิน การโจมตีทางไซเบอร์ หรือแม้แต่การแสวงหาประโยชน์จากเด็กและเยาวชนในโลกเสมือนจริง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลและยังไม่มีกฎหมายหรือบทลงโทษที่ชัดเจนมารองรับครับ/ค่ะ
ประการที่สองคือ “ปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล” ครับ/ค่ะ เมื่อเราใช้ชีวิตอยู่ในโลกเสมือนจริงมากขึ้น ข้อมูลส่วนตัวของเราย่อมถูกเก็บและใช้งานมากขึ้น ความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “ผลกระทบทางสังคมและจิตวิทยา” การใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงที่ดื่มด่ำมากเกินไป อาจทำให้บางคนเสพติดโลกใบนี้จนห่างเหินจากโลกความเป็นจริง ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต ความโดดเดี่ยว หรือแม้แต่การกลั่นแกล้งเสมือนจริง (Virtual Bullying) ที่อาจเกิดขึ้นได้โดยยากที่จะตามตัวผู้กระทำผิด นอกจากนี้ยังอาจสร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีหรือสินทรัพย์ราคาแพงในเมตาเวิร์สได้อีกด้วยครับ/ค่ะ
สรุปแล้ว เมตาเวิร์สไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่มันกำลังจะเป็นอนาคตที่เข้ามาพลิกโฉมการใช้ชีวิต การทำงาน และแน่นอนว่า “การลงทุน” ของเราครับ/ค่ะ มันคือโลกแห่งโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยขุมทรัพย์ใหม่ๆ แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่เราต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้
สำหรับนักลงทุนอย่างเรา การจะก้าวเข้าสู่โลกเมตาเวิร์สควรเริ่มต้นด้วยการ “ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน” ครับ/ค่ะ ทำความเข้าใจว่าเมตาเวิร์สคืออะไร มีเทคโนโลยีอะไรอยู่เบื้องหลัง และมีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจต่างๆ รวมถึงรูปแบบการลงทุนใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น รวมถึงประเมินความเสี่ยงที่มาพร้อมกับโอกาสเหล่านั้นด้วย และที่สำคัญที่สุด “อย่าลงทุนในสิ่งที่เราไม่เข้าใจดีพอ และอย่าเอาเงินทั้งหมดไปลงที่เดียวเด็ดขาด” การกระจายความเสี่ยงและค่อยๆ เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันคือหัวใจสำคัญของการลงทุนในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ครับ/ค่ะ โลกเมตาเวิร์สยังคงเป็นพื้นที่ใหม่ที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยศักยภาพ ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมและคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้นะครับ/ค่ะ