
เพื่อนผมคนนึงที่เล่นคริปโทฯ มาถามว่า “เฮ้ย LUNA มันกลับมาแล้วเหรอวะ แล้วไอ้ เหรียญ luna 2 เนี่ย มันคืออะไร?” คำถามนี้คงเป็นคำถามที่อยู่ในใจหลายคน โดยเฉพาะคนที่เคยเจ็บหนักจากเหตุการณ์ “หายนะ Terra/LUNA” เมื่อเดือนก่อน ที่ทำให้เหรียญที่เคยทรงพลังอย่าง LUNA และ Stablecoin อย่าง UST ราคาร่วงดิ่งเหวจนแทบเป็นศูนย์ในเวลาอันสั้น
ใครที่อยู่ในวงการคริปโทฯ ช่วงนั้น คงจำฝันร้ายของเครือข่าย Terra เดิม และ เหรียญ LUNA ที่ราคาเคยพุ่งสูง ก่อนจะล่มสลายเพราะกลไกซับซ้อนของ UST (Stablecoin ที่พยายามตรึงราคาไว้ที่ 1 ดอลลาร์ด้วยเหรียญ LUNA) พังทลายลง จนจำนวนเหรียญ LUNA เก่า (ที่ตอนนี้เรียกว่า Luna Classic หรือ LUNC) จากเดิมมีแค่หลักร้อยล้านเหรียญ พุ่งพรวดไปเป็นหลัก “ล้านล้านเหรียญ” หรือเพิ่มขึ้นกว่า 1.8 ล้านเปอร์เซ็นต์ในชั่วข้ามคืน! นั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้ราคาต่อเหรียญมันแทบไม่มีค่า
หลังจากเหตุการณ์ช็อกโลก ทีมผู้พัฒนา Terra นำโดย “โด ควอน” ก็ไม่ได้นิ่งเฉยครับ เขาเสนอแผน “แยกเครือข่าย” หรือที่เรียกว่า Hard Fork เพื่อสร้างโลก Terra ใบใหม่ขึ้นมา โดยทิ้งความผิดพลาดจาก UST ไว้เบื้องหลัง พูดง่ายๆ คือ สร้าง “เครือข่าย Terra 2.0” ขึ้นมาใหม่เอี่ยม และในเครือข่ายใหม่นี้ ก็มี เหรียญ luna ตัวใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาด้วย ชื่อก็คือ เหรียญ LUNA หรือบางคนก็เรียกว่า เหรียญ luna 2.0 นั่นแหละครับ ความต่างที่สำคัญคือ เครือข่ายใหม่นี้ “ไม่มี” เหรียญ Stablecoin อย่าง UST เป็นส่วนประกอบอีกต่อไปแล้ว ส่วนเครือข่ายเก่าที่ล่มไป ก็ยังคงอยู่ แต่เปลี่ยนชื่อเป็น Terra Classic และ เหรียญ LUNA เก่าก็กลายเป็น Luna Classic (LUNC)
แผน Hard Fork นี้ ตอนแรกไม่ได้ผ่านง่ายๆ นะครับ ก่อนหน้านี้มีโพลไม่เป็นทางการในชุมชน Terra ส่วนใหญ่กว่า 90% ไม่เห็นด้วยเลย อยากให้เน้น “เผาเหรียญ” (Burn) เหรียญ LUNA เก่าทิ้ง เพื่อลดจำนวนมหาศาลของ LUNC มากกว่า… แต่สุดท้าย การโหวตอย่างเป็นทางการจากกลุ่มผู้ถือเหรียญ LUNA เดิมที่นำไป Stake (ประมาณว่าเอาเหรียญไปฝากไว้ในระบบเพื่อช่วยยืนยันธุรกรรม) ก็เห็นชอบให้ทำ Hard Fork ครับ ก็เลยเป็นที่มาของการกำเนิด เหรียญ luna ตัวใหม่
พอมีเครือข่ายใหม่ ก็ต้องมีการ “แจกเหรียญฟรี” หรือ Airdrop ให้กับคนที่ถือ เหรียญ LUNA เดิม และ UST ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์ล่มสลาย ตามหลักเกณฑ์ที่เขากำหนด ซึ่งกระดานเทรดคริปโทฯ ดังๆ อย่าง Binance ก็เข้าร่วมโครงการ Airdrop นี้ด้วย

ช่วงที่เริ่มมีการ Airdrop นี่แหละ ราคา เหรียญ luna 2.0 ก็เหมือนได้พุ่งจรวดอีกครั้ง แต่เป็นการพุ่งในระยะสั้นๆ นะครับ ราคาเคยพุ่งขึ้นไปกว่า 90% แตะเกือบ 12 ดอลลาร์เลยทีเดียว (อันนี้อิงข้อมูล ณ ช่วงเช้าของวันที่ข้อมูลรายงานนะครับ) คาดว่าสาเหตุก็มาจากกระแส Airdrop นี่แหละ ที่ทำให้คนได้เหรียญฟรีมาลองซื้อขายกัน
แต่แล้ว… มันก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ครับ หลังจากการพุ่งขึ้นสั้นๆ ราคา เหรียญ luna 2.0 ก็ร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว ไปอยู่ในช่วง 7-8 ดอลลาร์ โดยราคาปัจจุบัน (อิงจากข้อมูลที่ให้มา) อยู่ที่ประมาณ 8.59 ดอลลาร์ ซึ่งยังถือว่าเป็นบวกราว 25.32% ในรอบ 24 ชั่วโมง ณ ตอนนั้น แต่… ต้องบอกว่า ราคาตอนนี้ (ประมาณ 8.59 ดอลลาร์) ยังห่างไกลจาก “จุดสูงสุดตลอดกาลของตัวมันเอง” ที่ เหรียญ luna 2.0 เคยทำไว้เมื่อ 4 วันก่อนโน้นถึง 19.54 ดอลลาร์เลยนะครับ นั่นหมายความว่า จากจุดสูงสุดของตัวมันเอง ราคาลงมาแล้วถึง 56.6%!
ทำไมถึงร่วงทั้งที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน? เหตุผลง่ายๆ เลยคือ คนที่ได้ Airdrop เหรียญ luna 2 มา ส่วนหนึ่งอาจจะ “เทขาย” ทันทีที่ได้รับเหรียญ เพราะอาจจะสูญเสียความเชื่อมั่นในเครือข่ายนี้ไปแล้ว หรือแค่อยากได้เงินส่วนหนึ่งคืนหลังจากที่เคยขาดทุนหนักกับ LUNA เก่าไป อีกเหตุผลคือ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและกระดานเทรด (แพลตฟอร์มซื้อขาย) ต่อเครือข่ายใหม่นี้ยังน้อย ทำให้มีกระดานเทรดที่เปิดให้ซื้อขาย เหรียญ luna ใหม่ไม่มากนัก ซึ่งก็จำกัดสภาพคล่องและโอกาสในการที่ราคาจะฟื้นตัวในวงกว้าง
ไม่ใช่แค่ราคาที่แกว่ง ผู้คนในวงการคริปโทฯ ก็มีมุมมองที่หลากหลายต่อสถานการณ์ เหรียญ luna 2 นี้ครับ อย่าง “ซีอีโอ Binance” คุณ Changpeng Zhao หรือที่รู้จักกันในชื่อ CZ เคยแสดงความเห็นไว้ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว LUNA 2.0 อย่างเป็นทางการ (ประมาณช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2022) ว่า การทำ Hard Fork สร้างเหรียญใหม่เนี่ย “จะไม่ได้ผล” ในระยะยาว เพราะมันไม่ได้ช่วยสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับเหรียญ และยังเป็นการ “ด้อยค่า” เหรียญเก่าที่คนจำนวนมากถืออยู่ด้วย
ขนาดผู้ก่อตั้ง Ethereum อย่าง Vitalik Buterin ก็เคยออกมาวิจารณ์ เหรียญ Stablecoin แบบ Algorithmic (คือใช้กลไกทางคณิตศาสตร์/โค้ด ในการรักษามูลค่า แทนที่จะใช้สินทรัพย์จริงๆ ค้ำประกัน) อย่าง UST (ที่ตอนนี้หายไปจากเครือข่ายใหม่แล้ว) ว่ามันเป็นแค่ “โฆษณาชวนเชื่อ” ที่ไม่มีสินทรัพย์จริงๆ ค้ำประกัน และผลตอบแทน 20% ต่อปีของ Anchor Protocol (โปรเจกต์ดังบน Terra เดิมที่เคยให้ผลตอบแทนสูงลิบ) ก็ไม่สมจริง การลงทุนที่แท้จริงไม่มีการรับประกันผลตอบแทนขนาดนั้น
หนักกว่านั้นคือ ถึงขั้นผู้ร่วมก่อตั้ง Dogecoin อย่าง Billy Markus ก็ออกมาเรียกนักลงทุนที่ยังเชื่อหรือหวังกับ เหรียญ luna 2 ว่าเป็นพวกที่ “โง่เง่าอย่างแท้จริง” โดยเขาหมายถึงกลุ่มนักพนันในวงการคริปโทฯ ที่ชอบเข้าหาความเสี่ยงสูงๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่คนในวงการด้วยกันเองก็ยังมอง เหรียญ luna ตัวใหม่นี้ด้วยความสงสัยอย่างยิ่ง

เสียงส่วนใหญ่ในชุมชนคริปโทฯ ก็ยังกังวลว่า เหรียญใหม่นี้จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้จริงๆ หรือเปล่า ในเมื่อต้นตอของปัญหาคือความน่าเชื่อถือที่หายไป และผู้พัฒนาหลักยังเป็นคนเดิม แถมแผนที่ออกมาก็สวนทางกับความต้องการของชุมชนส่วนใหญ่ในตอนแรกด้วยซ้ำ (จำได้ไหม โพลก่อนหน้านี้กว่า 90% ไม่เห็นด้วยกับ Hard Fork เลยนะ)
สรุปง่ายๆ คือ เหรียญ luna 2.0 เนี่ย คือลูกคนใหม่ที่เกิดจากการแยกเครือข่าย (Hard Fork) ของ Terra เดิม เพื่อทิ้งความผิดพลาดจาก UST ไว้เบื้องหลัง โดยหวังว่าจะเริ่มต้นใหม่ได้ แต่การเริ่มต้นก็ยังเต็มไปด้วยความผันผวน ราคาพุ่งเพราะ Airdrop แล้วก็ร่วงอย่างรวดเร็ว เสียงผู้เชี่ยวชาญและชุมชนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เชื่อมั่นเต็มที่ และตลาดคริปโทฯ เอง ณ ช่วงเวลาดังกล่าวก็ยังอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอนนัก
สำหรับนักลงทุนที่กำลังมอง เหรียญ luna 2 หรือสนใจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน ต้องบอกเลยว่านี่คือสินทรัพย์ที่มี “ความเสี่ยงสูงมาก” สูงกว่าเหรียญคริปโทฯ ทั่วไปเสียอีก เพราะมันแบกรับประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดจากการล่มสลายของเครือข่ายเดิมมาเต็มๆ และยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกมากว่าจะสามารถสร้างระบบนิเวศและเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้จริงไหม
ก่อนจะตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับ เหรียญ luna 2 ลองถามตัวเองก่อนว่า:
1. คุณเข้าใจจริงๆ ไหมว่านี่คืออะไร (มันไม่ใช่เหรียญเก่าที่ฟื้นคืนชีพนะ แต่มันคือเหรียญใหม่ในเครือข่ายใหม่)
2. คุณรับความเสี่ยงที่เงินอาจจะหายไปทั้งหมดได้ไหม?
3. มีเงินเย็นที่พร้อมจะ “เสีย” ได้หรือไม่? (หมายถึงเงินที่คุณยอมรับได้หากลงทุนไปแล้วสูญทั้งหมด ไม่ใช่เงินที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน)
⚠️ หากคุณไม่ใช่คนชอบความเสี่ยงสูงมากๆ หรือเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นในโลกคริปโทฯ เหรียญ luna 2 ในสถานการณ์ปัจจุบันอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก ควรใช้ความระมัดระวังอย่างถึงที่สุด ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทุกชนิด! การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ