เพื่อนผม ‘คุณต้น’ ช่วงนี้กำลังมองหารถใหม่ครับ เล็งๆ ไว้ที่รถทรงสูงๆ อย่างพวก SUV (Sport Utility Vehicle รถอเนกประสงค์) หรือ Cross Over นี่แหละ ด้วยความที่ครอบครัวใหญ่ขึ้นนิดหน่อย แล้วก็ชอบขับรถออกต่างจังหวัดบ้าง เลยอยากได้คันที่นั่งสบายๆ หน่อย
พอพูดถึงรุ่นยอดฮิตในกลุ่มนี้ แน่นอนว่าชื่อ Honda CR-V ก็ต้องโผล่ขึ้นมาในลิสต์ที่คุณต้นสนใจ คำถามคลาสสิกที่ตามมาคือ ‘crv ดี ไหม’? ซึ่งเป็นคำถามที่หลายคนถามกันมาตลอดเวลาเมื่อคิดจะออกรถในกลุ่มนี้เลยครับ
แต่ในฐานะคอลัมนิสต์การเงิน ผมไม่ได้มองแค่เรื่องอัตราเร่ง ช่วงล่าง หรือดีไซน์ภายนอกภายในที่สวยงามนะครับ สิ่งที่เราต้องคุยกันจริงๆ เมื่อถามว่า crv ดี ไหม คือ ‘ดีกับกระเป๋าตังค์เราแค่ไหน’ หรือ ‘ค่าใช้จ่ายที่ต้องเจอหลังจากซื้อรถมาแล้วมีอะไรบ้าง’ ต่างหาก เพราะการซื้อรถหนึ่งคัน คือการลงทุนก้อนใหญ่ และยังมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องตามมาอีกเพียบเลย

ปัจจุบัน ตลาดรถยนต์กลุ่ม Cross Over และ SUV ในบ้านเราต้องบอกว่าแข่งขันกันดุเดือดจริงๆ ครับ แต่ละค่ายพยายามงัดจุดเด่นและโปรโมชั่นมาดึงดูดลูกค้ากันเต็มที่ นี่ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ มีตัวเลือกเยอะขึ้น และถ้าศึกษาดีๆ อาจมีโอกาสได้เงื่อนไขที่ดีขึ้นด้วย
ทีนี้ ลองมาเจาะดูค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น Honda CR-V หรือรุ่นอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันก็ตามครับ
อย่างแรกที่ต้องคิดถึงเลยคือ “ค่าน้ำมัน” นี่เป็นค่าใช้จ่ายรายวันที่เราต้องเจอเลยครับ อัตราสิ้นเปลืองของรถแต่ละรุ่น แต่ละเครื่องยนต์ ก็ไม่เท่ากัน ยิ่งรถใหญ่ เครื่องใหญ่ หรือขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด อัตราสิ้นเปลืองก็มีแนวโน้มจะสูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงกับค่าใช้จ่ายในกระเป๋าเราในแต่ละเดือน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อรถรุ่นไหน นอกจากดูความแรงความสบายแล้ว ต้องดูอัตราสิ้นเปลืองที่ผู้ผลิตเคลมมา แล้วลองหาข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้งานจริงประกอบด้วยครับ เพราะอัตราที่เคลม อาจจะแตกต่างกับการใช้งานจริงของเราก็ได้
อีกเรื่องที่หลายคนอาจจะลืมคิดไปตอนซื้อรถใหม่ๆ หรือเพิ่งเคยมีรถคันแรก คือ “ค่าเปลี่ยนยาง” ครับ ยางรถยนต์นี่ไม่ใช่ถูกๆ นะครับ โดยเฉพาะกับรถยนต์ขนาดใหญ่อย่าง SUV ค่าเปลี่ยนยาง 4 เส้นทีนึงนี่มีงบประมาณต้องเตรียมไว้พอสมควรเลยครับ จากข้อมูลที่ได้มา บางคนมีงบในการเปลี่ยนยางทีนึงก็หลักหมื่นปลายๆ หรือไม่เกินสองหมื่นกลางๆ เลยทีเดียว ซึ่งถ้าไม่ได้เตรียมเงินก้อนนี้ไว้ อาจจะรู้สึกหนักได้เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนจริงๆ

แต่ข่าวดีคือ ตลาดปัจจุบันมีตัวช่วยทางการเงินและโปรโมชั่นดีๆ เยอะครับ อย่างเช่น โปรโมชั่นผ่อน 0% สำหรับการเปลี่ยนยาง นี่ช่วยให้เราบริหารสภาพคล่องได้ดีขึ้น ไม่ต้องควักเงินก้อนใหญ่ทีเดียว เคยเห็นบางโปรโมชั่น ผ่อนได้นานสูงสุดถึง 10 เดือนเลยนะครับ กับบัตรเครดิตของธนาคารใหญ่ๆ ที่เรารู้จักกันดี เช่น KBANK (ธนาคารกสิกรไทย), SCB (ธนาคารไทยพาณิชย์), BBL (ธนาคารกรุงเทพ), KTC (บัตรกรุงไทย), TTB (ธนาคารทหารไทยธนชาต), หรือ Krungsri (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา) การมีตัวเลือกผ่อน 0% แบบนี้ ทำให้ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เรื่องยาง ดูเบาลงเยอะเลย
นอกจากเรื่องผ่อน 0% แล้ว ยังมีเรื่อง “การรับประกันยาง” อีกครับ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ลดความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดได้ดีทีเดียวครับ อย่างบางยี่ห้อ เช่น Nexen เค้าก็มีโปรแกรมพิเศษให้กับลูกค้า อย่างเช่น โปรแกรมรับประกันยาง ที่เรียกว่า บาด บวม แตก เคลมฟรีปีแรก ตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งอันนี้ดีมากเลยครับ เพราะอุบัติเหตุกับยางรถยนต์เกิดขึ้นได้เสมอ ทั้งเหยียบตะปู ขับไปเบียดฟุตบาท หรือตกหลุมแรงๆ ถ้ามียางบวม ยางแตก ในปีแรก แล้วเคลมฟรีได้ ก็ประหยัดเงินไปได้เยอะมาก พอพ้นปีแรกไปแล้ว เค้าก็ยังมีการรับประกันคุณภาพตลอดอายุใช้งานตามเงื่อนไขอีกนะครับ อันนี้ก็ช่วยให้เรามั่นใจได้ในระยะยาว
แล้วตอนซื้อตัวรถล่ะ? นอกจากศูนย์บริการปกติของ Honda ตอนนี้ก็มีช่องทางการซื้อขายรถยนต์มือสอง หรือช่องทางการประมูลรถให้เลือกหลากหลายครับ ได้ยินว่าบางที่อย่าง SIA สยามอินเตอร์การประมูล หรือแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Caron.co.th เค้าก็มีการันตีเรื่องราคา หรือมีตัวเลือกให้เราเปรียบเทียบ เพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด การหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา และเงื่อนไขจากช่องทางต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ ก็เป็นอีกวิธีบริหารเงินที่ดีครับ เผื่อจะได้ส่วนลด หรือข้อเสนอที่น่าสนใจกว่า

ดังนั้น ถ้ากลับมาที่คำถามว่า crv ดี ไหม ในมุมมองทางการเงินและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องบอกว่า มันไม่ได้มีแค่คำตอบว่าง่ายๆ ว่า ‘ดี’ หรือ ‘ไม่ดี’ ครับ แต่มันขึ้นอยู่กับการวางแผนและการบริหารจัดการของเรา
สรุปแล้ว การตัดสินใจว่า crv ดี ไหม สำหรับคุณ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่รีวิวการขับขี่ อัตราเร่ง หรือความสบายในการนั่ง แต่ต้องพิจารณาภาพรวมค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานด้วยครับ ทั้งเรื่องอัตราสิ้นเปลืองที่ต้องดูให้เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณของเรา ค่าบำรุงรักษาที่อาจจะมีตัวช่วยดีๆ อย่างโปรโมชั่นยาง การรับประกัน หรือการผ่อน 0% มาช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา และช่องทางการซื้อที่อาจช่วยให้ได้ราคาดีขึ้นในตอนแรก
ก่อนตัดสินใจควักกระเป๋าซื้อรถคันใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Honda CR-V หรือรุ่นอื่นๆ ลองลิสต์ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นออกมาเปรียบเทียบแต่ละรุ่นดูครับ ทั้งค่างวด (ถ้ามีสินเชื่อ) ค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง และค่าอะไหล่สำคัญที่ต้องเปลี่ยนตามอายุอย่างยางรถยนต์ ศึกษาโปรโมชั่นสินเชื่อต่างๆ ทั้งของตัวรถเองและของอะไหล่สำคัญอย่างยาง
ข้อควรระวังที่สำคัญคือ โปรโมชั่นต่างๆ อาจมีเงื่อนไขและระยะเวลาจำกัด ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนตัดสินใจใช้นะครับ อัตราสิ้นเปลืองจริงอาจแตกต่างจากการเคลมของผู้ผลิต ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ สภาพถนน และการดูแลรักษารถ และอย่าลืมคำนวณถึงราคาขายต่อในอนาคตด้วย ก็เป็นอีกปัจจัยทางการเงินที่ต้องนำมาคิดครับ
การซื้อรถคือการลงทุนก้อนใหญ่ และเป็นภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว การวางแผนทางการเงินที่ดี รอบคอบ และมองให้ครบทุกด้าน จะช่วยให้การมีรถยนต์คู่ใจ ไม่ได้มาพร้อมกับภาระที่หนักเกินไป จนกระทบกับสภาพคล่องทางการเงินของเราครับ ลองพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจนะครับ