เพื่อนๆ ที่สนใจโลกคริปโต เคยสงสัยกันไหมว่า ในโลกที่ราคาเหรียญดิจิทัลขึ้นๆ ลงๆ จนเวียนหัวเนี่ย มันจะมีเหรียญอะไรสักอย่างที่พอจะให้เราพักใจได้บ้าง? มีสิครับ! นั่นแหละคือคอนเซ็ปต์ของ Stablecoin หรือที่เราเรียกง่ายๆ ว่า “เหรียญมีเสถียรภาพ” และหนึ่งในเหรียญตัวท็อปที่คนพูดถึงกันมากที่สุดก็คือ Tether หรือที่รู้จักกันในนาม USDT นั่นเองครับ
ลองนึกภาพว่า USDT เหมือนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกของเงินตราทั่วไปที่เราใช้กันอยู่ทุกวันอย่างเงินบาท เงินดอลลาร์ กับโลกอันแสนผันผวนของคริปโต เหรียญนี้ถูกออกแบบมาให้มีมูลค่าตรึงอยู่กับสกุลเงินจริงๆ อย่างเช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในอัตราส่วนประมาณ 1 ต่อ 1 โดย Tether เขาบอกว่ามีการสำรองสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงไว้ค้ำประกันมูลค่าเหรียญที่ออกไป ทำให้ USDT มีความนิ่งกว่าเหรียญอื่นๆ อย่าง Bitcoin หรือ Ethereum มาก จุดประสงค์หลักก็เพื่อให้นักลงทุนมีที่พักเงินเวลาที่ตลาดคริปโตมันปั่นป่วน หรือใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าออกระหว่าง Fiat (เงินบาท เงินดอลลาร์) กับโลกคริปโตได้ง่ายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาเหรียญที่จะแกว่งไปมาตลอดเวลา

USDT เนี่ย ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2014 แล้วนะครับ ถือเป็น Stablecoin รุ่นบุกเบิกเลยก็ว่าได้ และปัจจุบันก็ทำงานอยู่บนหลากหลายเครือข่ายบล็อกเชนยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น Ethereum หรือ Tron ด้วยความที่มีมานาน และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ทำให้ USDT มีสภาพคล่องสูงมากๆ ซื้อขายง่าย และเป็นที่ต้องการในตลาดแลกเปลี่ยนทั่วโลก ลองดูตัวเลขล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 สิครับ มูลค่าตลาด (Market Cap) ของ USDT พุ่งไปถึงกว่า 155,528 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว ส่วนปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงก็สูงทะลุ 102,167 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เรียกได้ว่า มีการหมุนเวียนของเหรียญนี้มหาศาลมากๆ ตัวเลขพวกนี้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและการใช้งานที่แพร่หลายของ USDT ได้เป็นอย่างดีเลยครับ
ทีนี้ พอเราเห็นประโยชน์ของ USDT แล้ว คำถามต่อไปที่ผุดขึ้นมาในหัวของหลายคนก็คือ “แล้วถ้าอยากจะ ซื้อ usdt ล่ะ? จะไป ซื้อ usdt ที่ไหน ดี?” เพราะถึงแม้จะบอกว่าเป็นเหรียญที่มีเสถียรภาพ แต่การได้มาซึ่งเหรียญนี้ก็ต้องผ่านกระบวนการบนแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งก็มีให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด เหมือนเวลาเราจะซื้อของออนไลน์ ก็ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีของที่เราต้องการ และมีวิธีการชำระเงินที่สะดวกใช่ไหมครับ การ ซื้อ usdt ก็คล้ายๆ กันครับ
กระบวนการพื้นฐานๆ เวลาจะ ซื้อ usdt บนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล หรือที่เราเรียกสั้นๆ ว่า Exchange (เอ็กซ์เชนจ์) ก็จะประมาณนี้ครับ ขั้นแรก เราต้องทำการเปรียบเทียบและเลือกแพลตฟอร์มที่เรามั่นใจก่อน ซึ่งก็มีทั้งแพลตฟอร์มระดับโลกที่ดังๆ หรือแพลตฟอร์มที่ให้บริการในประเทศไทยโดยเฉพาะ จากนั้นก็ต้องสร้างบัญชีผู้ใช้งาน ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ ครับ เราจะต้องดำเนินการยืนยันตัวตน หรือที่เรียกกันว่า KYC (Know Your Customer) เพื่อยืนยันว่าเราเป็นใคร เป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล และเพิ่มความปลอดภัยให้บัญชีของเราเองด้วย รวมถึงการตั้งค่าความปลอดภัยอื่นๆ เช่น การยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (Two-Factor Authentication) ด้วยนะครับ เสร็จแล้วก็ถึงขั้นตอนฝากเงินเข้าบัญชีของเราบนแพลตฟอร์มครับ วิธีการฝากเงินก็มีหลากหลายครับ บางแพลตฟอร์มรองรับการโอนเงินผ่านธนาคารในสกุลเงิน Fiat อย่างเงินบาท หรือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ บางแพลตฟอร์มก็รับชำระด้วยบัตรเดบิต/เครดิต หรือบางทีเราอาจจะต้องใช้ Bitcoin หรือคริปโตสกุลอื่นที่เรามีอยู่แล้วมาแลกเปลี่ยนก็ได้ พอมีเงินหรือเหรียญอยู่ในบัญชีของเราแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะใช้เงินเหล่านั้นไป ซื้อ usdt ตามราคาตลาด ณ ตอนนั้นได้เลยครับ

มาถึงคำถามยอดฮิตที่ว่า ” ซื้อ usdt ที่ไหน ดี?” จริงๆ แล้วมันมีแพลตฟอร์มให้บริการอยู่ทั่วโลกเลยครับ แต่ละแห่งก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป เหมือนเลือกร้านอาหารที่เราชอบ บางร้านอร่อย แต่ไกล บางร้านใกล้ แต่แพงกว่าหน่อย ในโลกคริปโตก็เหมือนกันครับ ลองมาดูแพลตฟอร์มดังๆ ที่หลายคนนิยม ซื้อ usdt กันหน่อยดีกว่าครับ
เริ่มจากแพลตฟอร์มระดับโลกที่คนรู้จักกันดีอย่าง Coinbase (คอยน์เบส) ครับ แพลตฟอร์มนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2012 และเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก แถมยังจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐฯ ด้วยนะ Coinbase มีสินทรัพย์ดิจิทัลให้เลือกเทรดเยอะแยะกว่า 250 สกุลเงินเลยทีเดียว ปริมาณการซื้อขายก็สูงมากๆ จุดเด่นของเขาคือความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง รวมถึงการเก็บเหรียญส่วนใหญ่ไว้ในที่ที่เรียกว่า Cold Storage (การเก็บเหรียญแบบออฟไลน์ ตัดขาดจากอินเทอร์เน็ต ทำให้ปลอดภัยจากการแฮกมากๆ) และยังมีเครื่องมือการศึกษาเกี่ยวกับคริปโตดีๆ ให้กับผู้ใช้งานด้วยครับ ให้บริการครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลกเลย
อีกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและมีผู้ใช้งานจำนวนมากก็คือ Kraken (คราเคน) ครับ ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2011 เก่าแก่พอๆ กับ Coinbase เลย ตอนนี้มีผู้ใช้งานกว่า 13 ล้านรายทั่วโลก รองรับสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า 400 รายการ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึง USDT ด้วย Kraken มีเครื่องมือการซื้อขายที่หลากหลายมากขึ้น อย่างการซื้อขายฟิวเจอร์ส (Futures) หรือมาร์จิ้น (Margin) ซึ่งอาจจะซับซ้อนขึ้นมาหน่อยสำหรับมือใหม่ แต่ก็น่าสนใจสำหรับคนที่อยากต่อยอด ให้บริการกว่า 190 ประเทศทั่วโลก และยังคงพัฒนาแพลตฟอร์มและเพิ่มโทเค็นใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาครับ
แน่นอนว่าต้องพูดถึง Binance (ไบแนนซ์) ครับ แพลตฟอร์มนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาดแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อเสียงเรื่องสภาพคล่องสูงมากๆ และค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่เน้นการซื้อขายปริมาณมาก หรือเทรดบ่อยๆ แต่ข้อจำกัดคือ Binance มีข้อจำกัดในการให้บริการในบางประเทศนะครับ เช่น แคนาดา หรือกับผู้ที่พำนักในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม! สำหรับเพื่อนๆ ที่อยู่ในประเทศไทย เรามี Binance TH by Gulf Binance นะครับ อันนี้พิเศษตรงที่ให้บริการภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงาน ก.ล.ต. ไทยเลยครับ ทำให้มั่นใจได้มากขึ้นในแง่กฎระเบียบและความปลอดภัย Binance TH by Gulf Binance มีระบบจับคู่คำสั่งซื้อขาย (Order Matching) ที่ยอดเยี่ยม และยังสามารถเข้าถึงสภาพคล่องในระดับโลกได้ด้วย ระบบความปลอดภัยก็ทันสมัยหายห่วง แถมยังมีแอปพลิเคชันบนมือถือให้ ซื้อ usdt และเทรดเหรียญอื่นๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วยครับ การที่แพลตฟอร์มอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ไทย ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือนะครับ
ข้ามมาดูแพลตฟอร์มใหญ่อีกแห่งอย่าง Gate (เกท) ครับ แพลตฟอร์มนี้ก็ติดอันดับ 1 ใน 10 ของ CEX (Centralized Exchange หรือศูนย์ซื้อขายแบบรวมศูนย์) มาตั้งแต่ปี 2013 Gate โดดเด่นเรื่องจำนวนสินทรัพย์ดิจิทัลที่รองรับครับ มีให้เลือกเทรดกว่า 3,700 สกุลเงินเลยทีเดียว ใครที่ชอบลองเหรียญใหม่ๆ น่าจะถูกใจ ที่สำคัญคือ Gate มีการแสดงหลักฐานการสำรองสินทรัพย์แบบ 100% (Proof of Reserves) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่แสดงความโปร่งใสและยืนยันว่าแพลตฟอร์มมีสินทรัพย์ดิจิทัลสำรองไว้ตามที่ควรจะเป็น การซื้อขายก็รวดเร็ว มีระบบฝากถอนที่ทันที ต้องยืนยันตัวตน (KYC) และมีฝ่ายสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ 365 วันต่อปี แต่ก็มีข้อจำกัดในการให้บริการในบางพื้นที่เช่นกันครับ
ปิดท้ายด้วยแพลตฟอร์มที่น่าสนใจอีกแห่งคือ ChangeNOW (เชนจ์นาว) แพลตฟอร์มนี้เน้นความสะดวกและรวดเร็วในการแลกเปลี่ยนหรือแปลงเหรียญครับ จุดเด่นคือเราสามารถ ซื้อ usdt ได้โดยตรงด้วยเงิน Fiat อย่างเงินบาท หรือสกุลเงินอื่นๆ กว่า 60 สกุล ผ่านช่องทางชำระเงินหลากหลายรูปแบบ เช่น บัตรเครดิต/เดบิต การโอนเงิน หรือแม้กระทั่ง Apple Pay และ Google Pay ด้วย การทำธุรกรรมค่อนข้างรวดเร็ว เฉลี่ยประมาณ 5 นาที ที่น่าสนใจคือบางธุรกรรมอาจไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอน KYC ที่ซับซ้อน และแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้ดูแลทรัพย์สินของผู้ใช้งาน (Non-Custodial) ซึ่งอาจเพิ่มความปลอดภัยในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเหรียญไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่แพลตฟอร์มโดยตรงครับ มีจำนวนซื้อขั้นต่ำประมาณ 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย และมีความปลอดภัยสูงด้วยระบบ SSL

พอได้ USDT มาไว้ในกระเป๋าแล้ว จะทำอะไรต่อดีล่ะครับ? USDT มีประโยชน์มากกว่าแค่การถือไว้เฉยๆ นะครับ ด้วยความที่เป็น Stablecoin ที่มีสภาพคล่องสูง เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น เอาไปปล่อยกู้ (Lending) ในโปรโตคอล DeFi ต่างๆ เพื่อรับดอกเบี้ยได้ด้วยนะ หรือจะใช้เป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่เราสนใจ เพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของเราก็ได้ หรือบางคนอาจจะถือ USDT ไว้เพื่อรอจังหวะที่ตลาดคริปโตโดยรวมราคาลง แล้วค่อยนำ USDT ที่มีไป ซื้อเหรียญอื่นในราคาถูกลง ก็ถือเป็นการใช้ประโยชน์จากความนิ่งของมันครับ หรือในอนาคตที่การยอมรับคริปโตแพร่หลายมากขึ้น เราก็อาจจะสามารถใช้ USDT ชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าต่างๆ ที่รับชำระด้วยสกุลเงินดิจิทัลได้โดยตรงเลยครับ
แต่ถึงแม้ USDT จะมีเสถียรภาพกว่าเหรียญอื่นๆ แต่จำไว้เลยนะครับว่า โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมนั้นมีความเสี่ยงสูงมากๆ ครับ เหรียญมีเสถียรภาพเองก็อาจไม่ได้ตรึงมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอดเวลา อาจมีช่วงที่ราคาแกว่งเล็กน้อย หรือมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผู้ออกเหรียญเองก็ได้ นอกจากนี้ การใช้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่างๆ ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ทั้งในเรื่องความปลอดภัยของแพลตฟอร์มเอง หรือข้อจำกัดทางกฎหมายในการให้บริการในแต่ละประเทศ อย่างที่เห็นว่าบางแพลตฟอร์มก็ไม่สามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบในบางพื้นที่ เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจ ซื้อ usdt หรือลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่นๆ ผู้ใช้งานทุกคนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ทั้งลักษณะของสินทรัพย์ ตัวเหรียญ USDT เอง และแพลตฟอร์มที่เราเลือกใช้ รวมถึงทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรอบคอบ อย่าลงทุนในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ และอย่าเอาเงินทั้งหมดที่คุณเสียไม่ได้มาลงเด็ดขาดครับ
สรุปแล้ว การ ซื้อ usdt ที่ไหน ดี ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกของเราแต่ละคนแหละครับ ถ้าเน้นแพลตฟอร์มระดับโลกที่มีชื่อเสียงและฟีเจอร์หลากหลาย อาจจะดู Coinbase, Kraken, Binance หรือ Gate แต่ถ้าอยากได้ความสะดวกในการ ซื้อด้วยเงินบาทโดยตรง หรืออยากได้แพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในไทย ก็มี Binance TH by Gulf Binance ให้เลือก หรือถ้าเน้นความรวดเร็ว ใช้งานง่าย และซื้อด้วยบัตรเครดิต/เดบิตได้สะดวก ก็อาจจะลองดู ChangeNOW ครับ
ไม่ว่าคุณจะเลือก ซื้อ usdt ที่ไหน ขั้นตอนพื้นฐานก็คล้ายกัน คือต้องสมัครบัญชี ยืนยันตัวตน และฝากเงินเข้าไปในระบบ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเริ่มต้นจากเงินจำนวนน้อยๆ ที่เรายอมรับความเสี่ยงได้หากเกิดข้อผิดพลาด เรียนรู้ไปเรื่อยๆ และอย่าลืมว่า การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอครับ ขอให้ทุกคนลงทุนอย่างมีความสุขและปลอดภัยนะครับ!
⚠️ ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน