คริปโตพลัส

ศูนย์รวมความรู้คริปโต เคล็ดลับลงทุน และอัปเดตราคาเหรียญแบบเรียลไทม์

ความรู้คริปโตและวิเคราะห์ราคา

แปลง USDT เป็นบาท: ทำยังไงให้ได้เรทดี ไม่โดนหลอก?

หวัดดีครับเพื่อนๆ ชาวโซเชียลและนักอ่านที่น่ารักทุกคน! วันนี้เรามาคุยกันเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหู หรือเห็นผ่านตาในโลกออนไลน์กันบ่อยๆ นั่นก็คือเรื่องของ “คริปโต” หรือสกุลเงินดิจิทัลนั่นเอง แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งทำหน้าเบื่อ หรือคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว ยากจะเข้าใจ เพราะวันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงเหรียญดิจิทัลตัวหนึ่งที่ดังมากๆ และเกี่ยวพันกับชีวิตประจำวันของเรามากกว่าที่คิด นั่นก็คือ **USDT** หรือ **Tether** นั่นเองครับ

เพื่อนผมคนหนึ่งชื่อ เอ (นามสมมติ) เพิ่งทักมาถามเมื่อวานว่า “เฮ้ยแกร… ไอ้ USDT ที่เขาพูดๆ กันเนี่ย มันคืออะไรวะ? เห็นคนนู้นคนนี้ใช้กันเยอะแยะ มันเหมือน Bitcoin หรือเปล่า? แล้วถ้าเรามีเนี่ย จะ แปลง USDT เป็น บาท ได้ยังไง?” คำถามของเอเนี่ย ผมว่าน่าจะตรงใจใครหลายๆ คนเลยใช่ไหมล่ะครับ? ไม่ต้องห่วงครับ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเรื่องนี้กันแบบง่ายๆ สไตล์เพื่อนคุยกัน รับรองว่าอ่านจบแล้วจะร้องอ๋อ! กันแน่นอน

ก่อนอื่นต้องบอกว่า USDT เนี่ย ไม่ใช่เหรียญคริปโตสายซิ่งเหมือน Bitcoin หรือ Ethereum ที่ราคาอาจจะพุ่งปรี๊ดเหมือนจรวด หรือดิ่งเหวเหมือนรถไฟเหาะ แต่ USDT จัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า **”Stablecoin” (สเตเบิลคอยน์)** หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า **”เหรียญที่มีมูลค่าคงที่”** ครับ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “Stable” (สเตเบิล) แปลว่า มั่นคง เสถียร ดังนั้นคอนเซ็ปต์หลักของมันคือการพยายามรักษามูลค่าให้ใกล้เคียงกับสกุลเงินจริงๆ ที่เราใช้กันอยู่ให้มากที่สุด ซึ่งในกรณีของ USDT เนี่ย เขาผูกค่าเงินไว้กับ **ดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)** แบบ 1:1 เลยครับ!

คิดภาพตามง่ายๆ เหมือนเรามีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ในกระเป๋า แต่แทนที่จะเป็นธนบัตรเขียวๆ มันกลับอยู่ในรูปแบบดิจิทัลบนโลกออนไลน์แทน บริษัทที่ออกเหรียญ USDT นี้คือ Tether Limited (เทเทอร์ ลิมิเต็ด) เขาบอกว่าทุกๆ 1 USDT ที่ปล่อยออกมาในระบบ จะมีสินทรัพย์จริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสินทรัพย์เทียบเท่า ค้ำประกันเก็บไว้ในคลังของเขาจริงๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเหรียญนี้มีมูลค่ารองรับ ไม่ได้เสกขึ้นมาลอยๆ นั่นเองครับ จุดนี้แหละคือความแตกต่างสำคัญระหว่าง USDT กับคริปโตตัวอื่นๆ ที่ราคาผันผวนตามกลไกตลาดล้วนๆ

แล้วทำไม USDT ถึงฮิตติดลมบนในหมู่นักลงทุนคริปโต รวมถึงในบ้านเราด้วยล่ะ? ถ้าเราไปดูข้อมูลตัวเลขจะยิ่งเห็นภาพชัดขึ้นครับ **ณ ข้อมูลล่าสุด (อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งรวบรวมสถิติคริปโตช่วงปี 2567)** ปริมาณการซื้อขาย USDT ทั่วโลกในรอบ 24 ชั่วโมงเนี่ย สูงปรี๊ดชนิดที่ว่าเห็นแล้วตาโต! คิดเป็นเงินบาทไทยก็ปาเข้าไปหลัก หลายแสนล้านบาท ต่อวัน! โอ้โห… ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมครับ ส่วนมูลค่าตลาดรวม (Market Cap) ของ USDT ทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก ก็ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของวงการคริปโตเลยทีเดียว อยู่ที่ประมาณ 4.8 ล้านล้านบาท (ตัวเลขอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยนและข้อมูล ณ เวลานั้นๆ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีคนจำนวนมหาศาลจริงๆ ที่ถือครองและใช้งานเหรียญนี้อยู่

เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ USDT ได้รับความนิยมก็มีหลายอย่างครับ อย่างแรกเลยคือเรื่อง **”ความนิ่ง”** ของราคา อย่างที่บอกว่ามันพยายามตรึงค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นักเทรดคริปโตนิยมใช้ USDT เป็น **”ที่พักเงิน”** ชั่วคราว ลองนึกภาพตามนะครับ สมมติเราเทรด Bitcoin ได้กำไรมา แต่ยังไม่อยากแลกกลับเป็นเงินบาททันที เพราะคิดว่าเดี๋ยวราคา Bitcoin อาจจะย่อลงมาให้ซื้อกลับได้ถูกกว่าเดิม การเปลี่ยน Bitcoin เป็น USDT เก็บไว้ก่อน ก็เหมือนเราถือเงินดอลลาร์ดิจิทัลรอจังหวะ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของราคา Bitcoin หรือเหรียญอื่นๆ ในช่วงนั้น ถือเป็นกลยุทธ์ยอดฮิตเลยทีเดียว

นอกจากนี้ USDT ยังทำหน้าที่เหมือน **”สะพานเชื่อม”** ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีสกุลอื่นๆ ด้วยครับ เพราะศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) หลายแห่งทั่วโลกและในไทย มักจะมีคู่เทรด (Trading Pair) ที่เป็น USDT อยู่เยอะมาก เช่น BTC/USDT, ETH/USDT เป็นต้น ทำให้นักลงทุนสามารถใช้ USDT เป็นตัวกลางในการซื้อขายเหรียญดิจิทัลต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เปรียบเสมือนเป็นสกุลเงินกลางในโลกคริปโตก็ว่าได้ ด้วยความคล่องตัวและปริมาณการซื้อขายมหาศาลนี่แหละครับ ที่ทำให้ USDT กลายเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศคริปโตในปัจจุบัน และแน่นอนว่ารวมถึงในประเทศไทยด้วย

ทีนี้ มาถึงคำถามสำคัญที่เพื่อนเอถามไว้ และเชื่อว่าหลายคนก็อยากรู้ นั่นคือ ถ้าเรามี USDT อยู่ในมือ แล้วอยากจะ แปลง USDT เป็น บาท ต้องทำยังไง? ยากไหม? คำตอบคือ ไม่ยากเลยครับ! แต่ก็มีขั้นตอนและข้อควรรู้เล็กน้อย

โดยหลักการแล้ว การ แปลง USDT เป็น บาท ก็คือการนำเหรียญ USDT ที่เรามี ไป “ขาย” ในตลาดหรือแพลตฟอร์มที่รองรับการแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทนั่นเองครับ ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) ทั้งของไทยและต่างประเทศหลายเจ้า ที่เปิดให้เราสามารถซื้อขาย USDT ด้วยเงินบาทได้

ขั้นตอนคร่าวๆ ก็มักจะเป็นแบบนี้ครับ:
1. **โอน USDT เข้า Exchange:** ถ้า USDT ของเราเก็บอยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) ส่วนตัว เราก็ต้องโอนมันเข้าไปยังบัญชีของเราใน Exchange ที่เราเลือกใช้ก่อน
2. **ตั้งคำสั่งขาย (Sell Order):** เข้าไปที่ตลาดซื้อขายคู่ USDT/THB แล้วตั้งคำสั่งขาย USDT ในราคาที่เราพอใจ หรือจะขายในราคาตลาด ณ ขณะนั้นเลยก็ได้
3. **รอคำสั่งจับคู่:** เมื่อมีคนต้องการซื้อ USDT ในราคาที่เราตั้งขาย ระบบก็จะจับคู่คำสั่งซื้อขายให้โดยอัตโนมัติ
4. **รับเงินบาท:** เมื่อขายสำเร็จ เราก็จะได้รับเงินบาทเข้ามาในบัญชี Exchange ของเรา
5. **ถอนเงินบาทเข้าธนาคาร:** สุดท้าย เราก็สามารถสั่งถอนเงินบาทจาก Exchange เข้าบัญชีธนาคารไทยของเราได้เลย

ฟังดูเหมือนไม่ซับซ้อนใช่ไหมครับ? แต่หัวใจสำคัญมันอยู่ที่ **”อัตราแลกเปลี่ยน”** นี่แหละครับ อย่างที่บอกว่า USDT มันผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ 1:1 ดังนั้น อัตราแลกเปลี่ยนเวลาเราจะ แปลง USDT เป็น บาท มันก็จะวิ่งอยู่แถวๆ อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB ณ เวลานั้นๆ แหละครับ จากข้อมูลล่าสุด (อ้างอิงปี 2567) ราคา 1 USDT จะอยู่ที่ประมาณ 33.4 บาท ถึง 33.6 บาท บวกลบเล็กน้อย

“อ้าว! แล้วทำไมมันไม่เท่ากับเรท USD/THB เป๊ะๆ ล่ะ?” บางคนอาจจะสงสัย คำตอบก็คือ มันมีปัจจัยอื่นๆ มาเกี่ยวข้องด้วยครับ เช่น:
* **ค่าเงินบาทเองก็ขยับ:** อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB มันไม่ได้นิ่งตายตัวอยู่แล้ว มีขึ้นมีลงตลอดทั้งวัน
* **อุปสงค์-อุปทานในตลาด Exchange:** ถ้าช่วงนั้นมีคนอยากซื้อ USDT มากกว่าขาย ราคา USDT ใน Exchange นั้นๆ ก็อาจจะสูงกว่าเรทปกติเล็กน้อย (เรียกว่า Premium) ในทางกลับกัน ถ้าคนแห่ขายเยอะ ราคาก็อาจจะต่ำกว่าเรทปกติเล็กน้อย (เรียกว่า Discount)
* **ค่าธรรมเนียม:** การซื้อขายและถอนเงินใน Exchange อาจจะมีค่าธรรมเนียมแฝงอยู่บ้าง ซึ่งก็ต้องนำมาคิดคำนวณด้วย

ดังนั้น เวลาจะ แปลง USDT เป็น บาท ก็อย่าลืมเช็คอัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดใน Exchange ที่เราใช้บริการ และเปรียบเทียบกับเรท USD/THB กลางดูด้วยนะครับ จะได้รู้ว่าเราได้เรทที่ดีที่สุดหรือเปล่า บางแพลตฟอร์มซื้อขายระดับโลก อย่างเช่น **Moneta Markets (โมเนต้า มาร์เก็ตส์)** หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็อาจจะมีเครื่องมือหรือช่องทางที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ประเภทต่างๆ แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องศึกษาเงื่อนไข ค่าธรรมเนียม และความน่าเชื่อถือของแต่ละแพลตฟอร์มให้ดีก่อนตัดสินใจใช้งานนะครับ

คุยกันมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะเริ่มมองว่า USDT นี่มันดีจริงๆ เลยนะ นิ่งก็ดี ใช้สะดวกอีกต่างหาก แต่อย่าเพิ่งรีบเทใจให้หมดนะครับ เพราะทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมมีสองด้านเสมอ การลงทุนหรือใช้งาน USDT ก็มีความเสี่ยงและข้อควรระวังอยู่เหมือนกัน

ประเด็นแรกที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ ก็คือเรื่อง **”สินทรัพย์ค้ำประกัน”** ที่บอกว่ามีเงินดอลลาร์หนุนหลัง 1:1 นั่นแหละครับ ในอดีต บริษัท Tether เคยถูกตั้งคำถามและตรวจสอบเรื่องความโปร่งใสของสินทรัพย์ค้ำประกันอยู่หลายครั้งเหมือนกัน แม้ว่าในปัจจุบันทางบริษัทจะพยายามเปิดเผยข้อมูลและรายงานการตรวจสอบมากขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่ก็ยังถือเป็นประเด็นที่นักลงทุนควรตระหนักและติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพราะถ้าเกิดวันใดวันหนึ่ง สินทรัพย์ค้ำประกันมีปัญหาขึ้นมาจริงๆ มันก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของราคา USDT ได้เหมือนกัน (แม้โอกาสจะน้อยก็ตาม)

ประเด็นต่อมาคือ แม้จะเรียกว่า Stablecoin แต่ในทางปฏิบัติ ราคา USDT ก็อาจจะไม่ได้นิ่งเป๊ะๆ ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดเวลา อาจจะมีการแกว่งตัวขึ้นลงเล็กน้อย (เช่น 0.99 USD หรือ 1.01 USD) ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงมากๆ หรือมีข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ซึ่งการแกว่งตัวเล็กน้อยนี้อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่สำหรับนักลงทุนรายใหญ่หรือคนที่ทำธุรกรรมจำนวนมากๆ ก็อาจจะเป็นจุดที่ต้องพิจารณา

และอีกเรื่องที่มองข้ามไม่ได้คือ **ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ (Regulatory Risk)** ครับ เพราะ Stablecoin ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ค่อนข้างใหม่ หน่วยงานกำกับดูแลในแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยเอง ก็กำลังจับตามองและพิจารณาออกกฎเกณฑ์ต่างๆ มาควบคุมดูแล ซึ่งกฎระเบียบในอนาคตอาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้งาน การแลกเปลี่ยน หรือแม้กระทั่งการ แปลง USDT เป็น บาท ก็เป็นได้ครับ ดังนั้น การติดตามข่าวสารด้านกฎระเบียบก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

ลองนึกภาพเปรียบเทียบง่ายๆ นะครับ การถือ USDT มันก็คล้ายๆ กับเราฝากเงินไว้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่สัญญาว่าจะดูแลเงินของเราให้มีค่าเท่ากับดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดเวลา ซึ่งบริษัทนี้ก็พยายามทำตามสัญญาอย่างดีที่สุดแหละครับ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงบางอย่างที่เราควบคุมไม่ได้อยู่ดี แตกต่างจากการฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์ในประเทศที่มีกฎหมายคุ้มครองเงินฝากรองรับ (แม้จะมีเพดานจำกัดก็ตาม) ความน่าเชื่อถือและความเสี่ยงมันก็คนละระดับกัน

ดังนั้น ก่อนที่เราจะตัดสินใจเข้าไปลงทุน ถือครอง หรือใช้งาน USDT รวมถึงการวางแผนที่จะ แปลง USDT เป็น บาท ในอนาคต สิ่งสำคัญที่สุดคือ **การศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน** ครับ ทำความเข้าใจกลไกการทำงาน ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และเลือกใช้แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อที่บอกว่าจะได้กำไรง่ายๆ หรือรับประกันผลตอบแทนสูงๆ โดยไม่มีความเสี่ยง เพราะโลกของการลงทุนไม่มีอะไรแน่นอน 100%

โดยสรุปแล้ว USDT หรือ Tether ก็คือเหรียญ Stablecoin ที่พยายามตรึงมูลค่าไว้กับดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้มีความผันผวนต่ำกว่าคริปโตสกุลอื่นๆ และได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดคริปโตทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วย เพราะใช้เป็นที่พักเงินและเป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้สะดวก การ แปลง USDT เป็น บาท ก็สามารถทำได้ผ่าน Exchange ต่างๆ โดยอัตราแลกเปลี่ยนจะใกล้เคียงกับเรท USD/THB แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดความแตกต่างได้เล็กน้อย

หวังว่าข้อมูลที่นำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจเรื่อง USDT และการ แปลง USDT เป็น บาท ได้ชัดเจนมากขึ้นนะครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มศึกษา หรือเป็นคนที่ใช้งานคริปโตอยู่แล้ว การมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและปลอดภัยในโลกการเงินดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วครับ

⚠️ **ข้อควรระวังส่งท้าย:** การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรประเมินระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ และลงทุนด้วยเงินเย็นเท่านั้นนะครับ อย่าลืมว่าไม่มีใครสามารถการันตีผลตอบแทนได้ และการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเสมอ!

LEAVE A RESPONSE