เอาล่ะครับทุกคนที่กำลังสนใจโลกคริปโตที่บางทีก็วุ่นวาย บางทีก็ตื่นเต้นเร้าใจ วันนี้คอลัมนิสต์รุ่นเก๋าขออาสาพาไปทำความรู้จักกับเหรียญหนึ่งที่ชื่อคุ้นหู แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจลึกซึ้ง นั่นก็คือ Stellar Lumens หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า XLM ครับ
ลองนึกภาพตามนะครับว่า ถ้าเราอยากส่งเงินไปให้ญาติที่อยู่ต่างประเทศ หรือจะแลกเงินบาทเป็นดอลลาร์เพื่อเอาไปใช้จ่าย ส่วนใหญ่เราก็ต้องวิ่งไปธนาคาร หรือใช้บริการโอนเงินระหว่างประเทศใช่ไหมครับ ขั้นตอนก็ยุ่งยาก ค่าธรรมเนียมก็ใช่ย่อย แถมบางทีรอก็ไม่รู้กี่วันกว่าเงินจะถึงปลายทาง เหนื่อยใจเนอะ! Stellar เกิดมาเพื่อแก้ปัญหานี้แหละครับ เหมือนเป็นสะพานดิจิทัลที่เชื่อมโยงผู้คน ระบบการชำระเงิน ธนาคาร และการโอนเงินข้ามประเทศเข้าด้วยกัน ให้มันง่ายขึ้น ถูกลง และที่สำคัญคือ เร็วขึ้นเยอะเลย

แล้วเจ้า xlm coin คือ อะไรล่ะ? มันก็คือหัวใจสำคัญ หรือจะเรียกว่า “เชื้อเพลิง” ก็ได้ครับ เป็น Utility Token ที่ทำงานอยู่บนเครือข่าย Stellar นี่แหละครับ XLM ไม่ได้มีไว้แค่เก็งกำไรนะครับ หน้าที่หลักๆ ของมันคือเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศทุกสกุลเงินบนเครือข่าย Stellar ช่วยให้เราโอนเงินแบบ Peer-to-Peer (P2P) คือส่งตรงถึงกันได้โดยไม่ต้องผ่านคนกลางที่คิดค่าหัวคิวแพงๆ อีกต่อไป พูดง่ายๆ คือเน้นช่วยให้บุคคลทั่วไปทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้สะดวกโยธิน ค่าธรรมเนียมถูกมากๆ และใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเองครับ แถมยังเป็นเหมือน “สกุลเงินสะพาน” คือถ้าจะแลกเปลี่ยนเงินสองสกุลที่ปกติไม่มีคู่ให้แลกตรงๆ บน Exchange เจ้า XLM นี่แหละครับจะเข้ามาช่วยเป็นตัวกลางทำให้การแลกเปลี่ยนง่ายขึ้น ประหยัดค่าธรรมเนียมและเวลาไปได้อีก
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเครือข่าย Stellar ที่น่าสนใจนี้คือ คุณเจ็ด แมคเคเลบ (Jed McCaleb) ซึ่งเคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple มาก่อนนะเออ (แต่ Stellar เน้นคนทั่วไป ส่วน Ripple เน้นสถาบันการเงินใหญ่ๆ เป็นหลัก ต่างกันตรงนี้นะครับ) ร่วมกับ คุณจอยซ์ คิม พวกเขาก่อตั้งโปรเจกต์นี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 หรือ ค.ศ. 2014 แล้วมีองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อ Stellar Development Foundation (SDF) คอยดูแลและพัฒนาให้เครือข่ายนี้เติบโตต่อไปครับ การได้มาซึ่งเหรียญ XLM ก็ไม่ได้ต้องไปขุดหรือมีขายแบบ ICO นะครับ ส่วนใหญ่ก็คือซื้อขายผ่าน Exchange ต่างๆ หรืออาจจะได้จากการเข้าร่วมกิจกรรม Airdrop ครับ
ทีนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า เครือข่าย Stellar ที่บอกว่าทำธุรกรรมข้ามประเทศได้เร็วปานสายฟ้าเนี่ย มันทำงานยังไงนะ? ความเจ๋งของมันอยู่ที่กลไกที่เรียกว่า Stellar Consensus Protocol (SCP) ครับ มันไม่ใช่แบบเดียวกับ Proof of Work (PoW) ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์แรงๆ มาแข่งกันแก้โจทย์พลังงานมหาศาลเหมือน Bitcoin หรือ Proof of Stake (PoS) ที่ใช้การวางเงินค้ำประกัน แต่ SCP ใช้หลักการที่เรียกว่า Federated Byzantine Agreement (FBA) พูดง่ายๆ คือ มันอาศัยกลุ่ม Node หรือผู้ที่ช่วยกันดูแลเครือข่ายทั่วโลกนี่แหละครับ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมบนพื้นฐานของความไว้วางใจและผลประโยชน์ของผู้ใช้งาน มันยืดหยุ่นมาก ปรับขนาดได้ดี ใช้พลังงานน้อยกว่า PoW เยอะ ที่สำคัญคือ ธุรกรรมยืนยันเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้นเองครับ คือกดโอนปุ๊บ แป๊บเดียวก็เรียบร้อย แถมยังมีความปลอดภัยสูง สามารถประมวลผลธุรกรรมได้แม้จะมีปัญหาในเครือข่ายบางส่วน หรือมีคนไม่หวังดีพยายามป่วน มันเจ๋งตรงนี้แหละ

นอกจาก SCP แล้ว ในเครือข่าย Stellar ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญอีก เช่น Anchors เปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมโลกคริปโตของ Stellar เข้ากับระบบการเงินแบบดั้งเดิมอย่างธนาคาร ทำให้ผู้ใช้สามารถฝากหรือถอนเงินปกติของเราเนี่ย ให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลบนเครือข่าย Stellar ได้สะดวกสบายมากๆ รองรับการแลกเปลี่ยนและธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ง่ายขึ้น และยังมี DEX หรือ Decentralized Exchange ในตัวเครือข่ายเลยครับ คือเราสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ที่ออกบน Stellar ได้โดยตรง ไม่ต้องไปผ่าน Exchange ใหญ่ๆ ที่มีคนกลาง ถือเป็นอีกจุดที่ช่วยสร้างสภาพคล่องและความสะดวกให้ผู้ใช้งานครับ
แล้วในมุมของตลาด xlm coin คือ เหรียญที่น่าสนใจแค่ไหนในตอนนี้? เรามาดูสถานะล่าสุดกันหน่อยครับ ณ เดือนกรกฎาคม 2567 (กรกฎาคม 2024) XLM มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 3.1 พันล้านดอลลาร์ จัดอยู่ในอันดับที่ 33 ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก อุปทานหมุนเวียนในตลาดตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 29.29 พันล้านเหรียญ จากอุปทานสูงสุดที่กำหนดไว้ 50 พันล้านเหรียญ ราคาซื้อขายล่าสุดก็อยู่ที่ประมาณ 0.10580277 ดอลลาร์ครับ ซึ่งถ้ามองย้อนไปตลอดปีที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยของ XLM ก็ค่อนข้างทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 0.100 ดอลลาร์นี่แหละครับ
แต่ชีวิตในโลกคริปโตมันก็มีความผันผวนเป็นเรื่องปกติครับ ในช่วงปีที่ผ่านมา (จนถึงกรกฎาคม 2567) ราคา XLM ก็ขึ้นๆ ลงๆ พอสมควร อย่างช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2567 นี่เอง ราคาก็เคยขยับขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมงที่ 0.110711 ดอลลาร์ เหมือนจะเห็นสัญญาณขาขึ้นเล็กๆ นะครับ แต่ต้นเดือนกรกฎาคมก็เคยร่วงลงไปถึงประมาณ 0.087731 ดอลลาร์มาแล้ว แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของมัน
ย้อนไปดูช่วงที่ตลาดคริปโตทั่วโลกดูหม่นๆ หน่อยครับ อย่างช่วงเดือนมิถุนายน 2565 (มิถุนายน 2022) ตอนนั้นตลาดเข้าสู่โหมด “ตลาดหมี” เต็มตัว ราคา XLM ก็ไม่รอดครับ ร่วงลงมาหนักกว่า 52% จากเดือนเมษายน 2565 แค่ในสัปดาห์เดียวยังลดลงไปถึง 23% จาก 0.13 ดอลลาร์ เหลือแค่ 0.1051 ดอลลาร์ แถมภายใน 24 ชั่วโมงนั้นยังร่วงลงไปอีก 9% ปริมาณการซื้อขายก็หดหายไปกว่า 26.72% ในช่วงนั้น มูลค่าตลาดก็ลดฮวบจาก 3,370 ล้านดอลลาร์ เหลือ 2,620 ล้านดอลลาร์ใน 7 วัน ตัวชี้วัดทางเทคนิคต่างๆ อย่าง MACD ก็ตัดเส้นเทรนด์ลงมา (11 มิถุนายน 2565) ส่วน RSI และ MFI ก็ร่วงลงอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงแรงขายที่ถาโถมเข้ามา

การวิเคราะห์ข้อมูลบนเครือข่าย (On-chain) ช่วงนั้น (มิถุนายน 2565) ก็บอกคล้ายๆ กันครับ การครองตลาด (Market Dominance) ของ XLM ลดลงต่อเนื่อง ปริมาณการพูดถึงในสังคมออนไลน์ (Social Volume) ก็ผันผวน ไม่ค่อยพีคเท่าไหร่ ส่วนการพัฒนาบนเครือข่าย (Development Activity) ก็เริ่มชะลอตัวลงเล็กน้อย สรุปคือช่วงนั้น XLM ก็เจอพายุตลาดหมีซัดหนักเหมือนเหรียญอื่นๆ นั่นแหละครับ
แล้วปัจจัยอะไรล่ะที่จะทำให้ราคา XLM ในอนาคตขยับขึ้นหรือลง? แน่นอนว่ามีหลายอย่างที่ต้องจับตาครับ อันดับแรกเลยก็คือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของตัวเครือข่าย Stellar เอง ถ้าพัฒนาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ก็ย่อมส่งผลดี ต่อมาคือการนำไปใช้ (Adoption) ครับ ถ้ามีผู้คน บริษัท หรือแม้กระทั่งประเทศต่างๆ หันมาใช้เครือข่าย Stellar ในการทำธุรกรรมจริงๆ มากขึ้นเรื่อยๆ อันนี้แหละตัวสร้างมูลค่าเลย นอกจากนี้ กฎระเบียบเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังมีการพัฒนาในหลายประเทศทั่วโลกก็มีผลอย่างมาก สภาพเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกก็เป็นอีกปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้ รวมถึงพลวัตเฉพาะภายในตลาดคริปโตเองด้วยครับ เช่น ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ การบูรณาการเข้ากับระบบการเงินดั้งเดิม การนำไปใช้ด้าน Tokenization (การแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลบนบล็อกเชน) และการใช้งาน Decentralized Exchange (DEX) บนเครือข่าย เหล่านี้คือปัจจัยที่ต้องติดตามกันใกล้ชิดเลยครับ
คำถามยอดฮิตที่หลายคนถามถึง xlm coin คือ เหรียญที่จะไปถึง 1 ดอลลาร์ได้ไหม? ในเมื่อตอนนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 0.10 ดอลลาร์ (ณ กรกฎาคม 2567) การที่จะขยับไปถึงระดับ 1 ดอลลาร์ได้เนี่ย ถือเป็นการเดินทางที่ยังอีกยาวครับ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานหลายอย่างที่ต้องแข็งแกร่งจริงๆ ทั้งการได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง (Mainstream Adoption) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ไม่หยุดนิ่ง และความสมบูรณ์ของระบบนิเวศสกุลเงินดิจิทัลโดยรวมทั้งหมด พูดได้ว่า การที่ XLM จะไปถึง 1 ดอลลาร์หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของ Stellar ในการวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นผู้เล่นหลักในภูมิทัศน์ทางการเงินโลกยุคใหม่ครับ ถ้าทำได้ดี มีการใช้งานจริงมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสก็ย่อมมี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ และต้องใช้เวลาครับ
สรุปแล้ว Stellar และ xlm coin คือ โปรเจกต์ที่น่าสนใจในโลกของสกุลเงินดิจิทัล โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการทำให้การโอนเงินข้ามประเทศง่ายและถูกลง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันครับ ตัวเทคโนโลยีอย่าง SCP ก็มีความน่าสนใจในแง่ความเร็วและประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม มูลค่าของ XLM ในตลาดก็ยังคงผันผวนตามปัจจัยต่างๆ ทั้งด้านเทคนิค การนำไปใช้ กฎเกณฑ์ และสภาวะตลาดโดยรวม
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ ลองศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเครือข่าย Stellar เพิ่มเติม ทำความเข้าใจกลไกการทำงาน และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการนำไปใช้และความร่วมมือต่างๆ ครับ เวลาจะซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบนี้ ก็ต้องหาแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ อย่างแพลตฟอร์มระดับนานาชาติบางแห่ง เช่น Moneta Markets ก็มีเครื่องมือหรือเงื่อนไขหลากหลายให้ลองพิจารณาเปรียบเทียบกันดูครับ
⚠️ ข้อควรระวัง: การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงมาก ราคาอาจผันผวนได้รุนแรงและรวดเร็ว คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ควรทำความเข้าใจลักษณะของสินทรัพย์ดิจิทัล ศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ และพิจารณาความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ ที่สำคัญคือ ไม่ควรนำเงินที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต หรือเงินที่ไม่มีสภาพคล่องมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงแบบนี้เด็ดขาดครับ บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหากมีข้อสงสัยครับ