เพื่อนๆ เคยไหมครับ นั่งเฝ้าหน้าจอกราฟคริปโตฯ ตาแทบหลุด ลุ้นทุกนาทีว่าราคาจะขึ้นหรือลง ยิ่งช่วงตลาดผันผวน นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว ถ้ามีอะไรมาช่วยเฝ้าหน้าจอ แล้วตัดสินใจซื้อขายแทนเราตามกฎที่เรากำหนดไว้ล่ะ? ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมครับ นี่แหละครับ คือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่วงการคริปโตฯ พูดถึงกันเยอะช่วงนี้ นั่นคือ ‘คริปบอท’ (Cryptobot) หรือที่หลายคนเรียกกันง่ายๆ ว่า ‘บอทเทรดคริปโต’ ว่าแต่ เจ้า คริปบอทคืออะไร กันแน่? มันไม่ใช่หุ่นยนต์เดินได้ถือตะกร้าเหรียญนะครับ แต่มันคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์อัจฉริยะต่างหากล่ะ

แล้วเจ้าโปรแกรมนี้มันทำงานยังไง? ง่ายๆ เลยครับ คริปบอท จะเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มซื้อขายเหรียญคริปโตฯ ที่เราใช้งานอยู่ (เช่น Binance, Kraken หรือเจ้าอื่นๆ) ผ่านช่องทางพิเศษที่เรียกว่า ‘API’ ซึ่งก็เหมือนกุญแจลับที่ให้บอทของเราไปคุยและส่งคำสั่งซื้อขายให้กับระบบของ Exchange ได้โดยตรง พอมันเชื่อมต่อกันแล้ว คริปบอท ก็จะเริ่มทำงานตามคำสั่งและกลยุทธ์ที่เราตั้งโปรแกรมไว้ครับ มันจะคอยสแกนตลาดตลอดเวลา วิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เช่น ราคาปัจจุบัน ปริมาณการซื้อขาย หรือดูตามอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่เราชอบใช้ เช่น RSI, MACD หรือ Moving Average พอเงื่อนไขที่เราตั้งไว้ตรงปุ๊บ เช่น “ถ้าเหรียญ XYZ ราคาตกลงมาถึง 1 ดอลลาร์ ให้ซื้อทันที 0.1 เหรียญ” หรือ “ถ้าเหรียญ ABC ราคาวิ่งขึ้นไป 5% จากจุดที่เราซื้อ ให้ขายทำกำไรเลย” เจ้า คริปบอท ก็จะส่งคำสั่งซื้อหรือขายออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ โดยที่เราไม่ต้องนั่งเฝ้าหรือกดปุ่มเองเลยครับ ลองนึกภาพว่าคุณกำลังหลับสบายตอนตีสาม แต่บอทของคุณกำลังทำงานตามกลยุทธ์ที่คุณวางไว้ นี่แหละคือพลังของมัน
การทำงานอัตโนมัติของ คริปบอท ช่วยแก้ปัญหาใหญ่ข้อหนึ่งของนักเทรดอย่างเราๆ ได้ครับ นั่นคือ ‘อารมณ์’ เวลาเทรดด้วยตัวเอง เรามักจะใช้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องง่ายมากๆ ครับ เห็นกราฟสีเขียวพุ่งแรงๆ ก็กลัวตกรถ อยากรีบกระโดดเข้าใส่ ทั้งๆ ที่อาจจะเป็นช่วงที่ราคาสูงเกินไปแล้ว หรือพอเห็นกราฟแดงดิ่งเหว ก็ตกใจกลัว ขวัญเสีย รีบเทขายขาดทุน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วอาจจะเป็นแค่การย่อตัวชั่วคราว บอทไม่มีความรู้สึกเหล่านี้ครับ มันทำงานตามตรรกะ ตามตัวเลข ตามเงื่อนไขที่เราใส่เข้าไปเป๊ะๆ ไม่มีการโลภ ไม่มีการกลัว ทำให้การตัดสินใจซื้อขายมีความเป็นระบบและมีวินัยมากกว่าการเทรดด้วยมือเปล่าๆ ของเราเยอะเลยครับ

แล้วกลยุทธ์ยอดนิยมที่นิยมใช้กับ คริปบอท คืออะไร บ้างล่ะครับ? มีหลายแบบเลย ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้บอทไปล่ากำไรจากตลาดแบบไหน กลยุทธ์หนึ่งที่น่าสนใจคือ ‘Arbitrage’ หรือกลยุทธ์ส่วนต่างราคา อันนี้เหมือนให้บอทไปเป็นนักช้อปครับ มันจะคอยเปรียบเทียบราคาเหรียญเดียวกันใน Exchange ต่างๆ พร้อมกัน ถ้าเจอว่าราคาเหรียญ A ใน Exchange นึงถูกกว่าอีก Exchange นึงในเวลาเดียวกันเล็กน้อย บอทก็จะรีบซื้อจากที่ถูก แล้วไปขายที่ที่แพงกว่าทันที ทำกำไรจากส่วนต่างเล็กๆ นี้ครับ ถึงแม้กำไรต่อครั้งจะน้อย แต่ถ้าบอททำได้รวดเร็วและบ่อยครั้ง กำไรรวมๆ ก็ไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกกลยุทธ์ที่ คริปบอท เก่งมากๆ คือ ‘Scalping’ หรือกลยุทธ์เก็บเล็กผสมน้อย อันนี้เหมือนให้บอทไปเป็นนักล่าที่ว่องไวครับ มันจะซื้อขายทำกำไรในกรอบเวลาที่สั้นมากๆ บางทีแค่ไม่กี่นาที หรือไม่กี่วินาที ทำกำไรทีละนิดๆ จากการเคลื่อนไหวของราคาแค่ไม่กี่จุด แล้วก็ทำซ้ำๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งวันครับ กลยุทธ์นี้ต้องอาศัยความเร็วในการส่งคำสั่งและการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำมากๆ ซึ่งบอททำได้ดีกว่าคนแน่นอนครับ เพราะมันไม่มีอาการลังเลเหมือนเรา
นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ อีก เช่น ‘Trend Following’ หรือตามแนวโน้ม คือถ้าเห็นว่าราคาเหรียญกำลังเป็นเทรนด์ขาขึ้น บอทก็จะซื้อตามไปเรื่อยๆ จนกว่าเทรนด์จะเปลี่ยน หรือ ‘Mean Reversion’ คือเชื่อว่าราคาที่วิ่งออกไปจากค่าเฉลี่ยมากๆ สักพักก็จะกลับเข้ามาสู่ค่าเฉลี่ยเดิม บอทก็จะซื้อตอนราคาต่ำมากๆ (คาดว่าจะเด้งกลับ) หรือขายตอนราคาสูงมากๆ (คาดว่าจะร่วง) กลยุทธ์พวกนี้ต้องการการตั้งค่าที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อย และต้องมีการทดสอบกับข้อมูลในอดีต หรือที่เรียกว่า ‘Backtesting’ เพื่อดูว่ากลยุทธ์ที่เราคิดขึ้นมา หรือที่เราได้มาจากผู้ให้บริการ คริปบอท มันมีโอกาสทำกำไรได้จริงไหมในอดีต (แต่ย้ำอีกครั้งนะครับ ผลการทดสอบในอดีต ไม่ได้รับประกันผลกำไรในอนาคตเสมอไป!)

ฟังดูดีใช่ไหมครับ เหมือนมีผู้ช่วยวิเศษที่ทำงานแทนเรา 24 ชั่วโมง แต่โลกการลงทุนคริปโตฯ ไม่มีอะไรที่ปราศจากความเสี่ยงครับ การใช้ คริปบอท ก็มีข้อควรระวังและกับดักที่เราต้องรู้ไว้ก่อนกระโดดเข้ามาเล่น ข้อแรกเลยคือ ‘ความเสี่ยงทางเทคนิค’ ครับ บอทก็คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มันอาจจะมีบั๊ก (bug) หรือข้อผิดพลาดในการทำงานได้ หรือเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการบอทอาจจะล่ม การเชื่อมต่อ API กับ Exchange อาจมีปัญหา ซึ่งปัญหาพวกนี้อาจทำให้บอทหยุดทำงานกลางคัน พลาดโอกาสในการซื้อขาย หรือร้ายกว่านั้นคืออาจจะทำงานผิดพลาด ทำให้ขาดทุนได้ครับ
ข้อต่อมาคือ ‘ความเสี่ยงจากตลาด’ ครับ บอททำงานตามกลยุทธ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับสภาวะตลาดแบบหนึ่ง แต่ถ้าตลาดเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ข่าวร้ายมากๆ ระดับที่เรียกว่า ‘Black Swan event’ หรือเทรนด์ของตลาดเปลี่ยนกระทันหันและรุนแรงมากๆ กลยุทธ์ที่เคยเวิร์คในสภาวะปกติอาจจะใช้ไม่ได้เลย และตัวบอทเองอาจจะยิ่งทำให้เราขาดทุนเร็วขึ้นด้วยซ้ำ ถ้าเราไม่คอยเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ครับ การใช้ คริปบอท ไม่ได้หมายความว่าเราตั้งทิ้งไว้แล้วรวยได้เลยนะครับ เรายังคงต้องคอยติดตามผลการทำงานของมันอยู่เสมอ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ ‘กับดัก Over-optimization’ ครับ บางทีนักพัฒนาบอทหรือแม้แต่ตัวเราเอง อาจจะปรับแต่งกลยุทธ์จนมันดูสมบูรณ์แบบมากๆ เวลาทดสอบกับข้อมูลในอดีต แต่กลยุทธ์นั้นอาจจะ ‘ฟิต’ กับข้อมูลเฉพาะช่วงเวลานั้นๆ มากเกินไป พอเอามาใช้เทรดจริงในตลาดปัจจุบันที่สภาวะเปลี่ยนไป กลับทำกำไรไม่ได้อย่างที่คาดหวังครับ เหมือนเราซ้อมวิ่งในสนามที่เรารู้ทุกหลุมทุกบ่อ พอไปวิ่งจริงในสนามที่ไม่คุ้นเคย ก็ไปไม่เป็นนั่นแหละครับ
อีกเรื่องสำคัญคือ ‘ความปลอดภัย’ ครับ การให้สิทธิ์บอทเชื่อมต่อกับบัญชี Exchange ของเราผ่าน API ถึงแม้ส่วนใหญ่แล้วเราจะตั้งค่าให้บอทมีสิทธิ์แค่ส่งคำสั่งซื้อขาย ไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ครับ ถ้าผู้ให้บริการบอทไม่น่าเชื่อถือ หรือระบบของเขาถูกโจมตี ข้อมูล API ของเราก็อาจรั่วไหลได้ ดังนั้นการเลือกผู้ให้บริการ คริปบอท ที่มีชื่อเสียงและมีความปลอดภัยสูงจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากๆ ครับ เหมือนเลือกฝากเงินกับธนาคารที่มั่นคงนั่นแหละครับ
สรุปแล้ว คริปบอทคืออะไร? มันคือเครื่องมืออัตโนมัติที่ช่วยให้นักลงทุนคริปโตฯ ซื้อขายตามระบบที่ตั้งไว้ โดยตัดเรื่องอารมณ์ออกไป และทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการเทรดได้เป็นอย่างดีครับ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงด้านเทคนิค ความเสี่ยงจากสภาวะตลาดที่ไม่คาดฝัน และยังต้องการการดูแล ปรับปรุงกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ใช่ตั้งแล้วทิ้ง แล้วรอรับเงินอย่างเดียวครับ
สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจอยากลองใช้ คริปบอท หรือเครื่องมือช่วยเทรดอัตโนมัติแบบนี้ ต้องทำการบ้านให้หนักมากๆ ก่อนตัดสินใจนะครับ ศึกษาให้เข้าใจว่าบอททำงานยังไง แต่ละกลยุทธ์มีความเหมาะสมกับสไตล์การเทรดและเงินทุนของเราไหม ที่สำคัญที่สุดคือ ‘ความเสี่ยง’ ครับ ตลาดคริปโตฯ มีความผันผวนสูงมากๆ การใช้บอทก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนเช่นกัน ไม่ใช่ว่าจะกำไรเสมอไปนะครับ โดยเฉพาะถ้าเราไม่มีความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอ หรือตั้งค่ากลยุทธ์ผิดพลาด
คำแนะนำสำหรับมือใหม่คือ ถ้าอยากลองจริงๆ ให้เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อยๆ ครับ เป็นเงินที่เราพร้อมที่จะเสียได้โดยไม่กระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของเรา ลองใช้บอทฟรี หรือบริการทดลองใช้ก่อนตัดสินใจจ่ายเงินจริง ศึกษาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ อ่านรีวิว และที่สำคัญที่สุดคือ หมั่นติดตามผลการทำงานของบอทอยู่เสมอ ไม่ใช่ปล่อยให้มันทำงานไปเองโดยไม่ดูดำดูดีนะครับ เหมือนมีลูกน้องก็ต้องคอยดูว่าลูกน้องทำงานได้ตามเป้าไหม
สุดท้ายนี้ครับ คริปบอท อาจเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและมีประโยชน์มากๆ สำหรับนักเทรดคริปโตฯ ในยุคดิจิทัลครับ แต่มันเป็นแค่ ‘เครื่องมือ’ ครับ เครื่องมือที่ดีต้องอยู่ในมือคนที่เข้าใจวิธีใช้และใช้มันอย่างถูกต้อง ถ้าเรามีความรู้ เข้าใจความเสี่ยง และใช้มันอย่างมีวินัย คริปบอท ก็จะเป็นผู้ช่วยที่ดีในเส้นทางการลงทุนของเราได้ครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการลงทุนในตลาดคริปโตฯ นะครับ!